วันที่ 9 มิ.ย. 68 พนมเปญโพสต์ (Phnom Pehn Post ) สื่อของกัมพูชา รายงานว่า นาย ปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา ส่งหนังสือถึงนาย มาริษ เสงี่ยมพงศ์ รมว.ต่างประเทศของไทย เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 68 เพื่อเชิญชวนให้ไทยนำข้อพิพาทชายแดนที่ยังคงดำเนินอยู่เข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือ ศาลโลก
นายชุม เซือนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เปิดเผยรายละเอียดของหนังสือดังกล่าวว่า นาย ปรัก สุคน รมว.ต่างประเทศกัมพูชากล่าวว่า แม้จะมีกลไกทวิภาคี และความพยายามอย่างจริงใจ เพื่อหาทางแก้ไขมากมาย แต่ข้อพิพาทชายแดนระหว่างสองราชอาณาจักรที่ยืดเยื้อมานานหลายทศวรรษก็ยังคงดำเนินต่อไป
และระบุอีกว่า ปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเหล่านี้ยังคงเป็นแหล่งที่มาของความเข้าใจผิด และความตึงเครียดที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และนำไปสู่เหตุการณ์ที่โชคร้ายหลายครั้ง รวมถึงการเผชิญหน้าล่าสุดที่หมู่บ้านเตโช มรกต อำเภอจอมขสัน จังหวัดพระวิหาร เมื่อกองทัพไทยเปิดฉากยิงใส่ตำแหน่งทหารกัมพูชา ส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย เหตุการณ์วันที่ 28 พ.ค. ยิ่งเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนในการหาทางออกที่ยั่งยืนและสันติ
“เมื่อพิจารณาถึงความซับซ้อน ลักษณะทางประวัติศาสตร์ และความละเอียดอ่อนของข้อพิพาทเหล่านี้ จะเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าการเจรจาทวิภาคีเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไปที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ครอบคลุมและยั่งยืน” หนังสือระบุ
ในบริบทนี้ รัฐบาลกัมพูชาเชื่อว่าแนวทางที่เหมาะสม และสันติที่สุดในการก้าวไปข้างหน้าคือการส่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมอมเบย (ช่องบก) วัดตาเมือนธม วัดตาเมือนโต๊ด และวัดตากระเบย (ตาควาย) ให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) พิจารณาตัดสิน
เขาอธิบายว่าการตัดสินของ ICJ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากกฎหมายระหว่างประเทศ จะให้การแก้ไขปัญหาที่ยุติธรรม เป็นกลาง และยั่งยืน จะทำให้เขตแดนของไทยและกัมพูชา ชัดเจนขึ้นมาก และที่สำคัญกว่านั้น ช่วยส่งเสริมสภาพแวดล้อมของสันติภาพ เสถียรภาพ และความร่วมมือที่ยั่งยืนระหว่างประเทศของเราทั้งสอง
“แนวทางปฏิบัติดังกล่าวจะยืนยันถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของเราในการรักษาหลักนิติธรรม รักษาความสามัคคีในภูมิภาค และส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของประชาชนของเราภายในชุมชนอาเซียน”
“จากที่กล่าวมาข้างต้น ข้าพเจ้าขอเรียกร้องอย่างนอบน้อมให้รัฐบาลไทยพิจารณาร่วมกับรัฐบาลกัมพูชาในการยื่นเรื่องข้อพิพาทเรื่องพรมแดนของเราต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ขอให้เราใช้โอกาสนี้ยืนยันความมุ่งมั่นร่วมกันของเราต่อการเจรจาอย่างสันติ การแก้ไขปัญหาทางกฎหมาย และอนาคตของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี” หนังสือดังกล่าวสรุป
ด้าน นาย ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ชี้แจงก่อนหน้านี้นี้ว่า กัมพูชาจะนำเรื่องนี้ไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อหาทางแก้ไข เนื่องจากกลไกทวิภาคีให้ผลเพียงเล็กน้อย ยืนยันว่าพื้นที่อื่นๆ นอกเหนือจาก 4 พื้นที่ดังกล่าว จะได้รับการแก้ไขโดยกลไกทวิภาคีผ่านบันทึกความเข้าใจปี 2000
Advertisement