จากกรณี สังหารโหดนายสุชาติ ขาวล้วน หรือ "เสี่ยสุชาติ" อายุ 53 ปี หนุ่มใหญ่ที่หายตัวปริศนาไปตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 64 ต่อมาลูกสาว และญาติประกาศตามหาตัวผ่านโซเชียล และเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ลำทับ จ.กระบี่
สุดท้ายพบถูกฆ่าฝังดินในพื้นที่สวนยาง หมู่ 1 บ้านหนองแบก ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ ขณะที่รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าสีขาว ที่ขับมาในวันหายตัว ก็ถูกเผาแล้วฝังไว้ในสวนปาล์มน้ำมัน ใกล้กับบ้านของนายสุริยา หรือ บังฟิต เริงสมุทร อายุ 31 ปี จนนำไปสู่การออกหมายจับแล้วนั้น
วันที่ 18 พ.ค. 64 นายสุจิน เริงสมุทร พ่อของบังฟิต กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ตนยังติดต่อบังฟิต ลูกชายไม่ได้ และบังฟิต กิบหลี หรือบังหนี ก็ยังไม่ได้ติดต่อมาหาตนและญาติ และตนเองก็ค่อนข้างเครียด อยากบอกถึงลูก ๆ ว่า ให้เข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลูก ๆ จะหนีไปไหนก็สู้ตำรวจไม่ได้ ถ้าลูกชายฟังอยู่ ตนอยากให้ลูกชายติดต่อมาหาตน แล้วตนจะพาลูกไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนที่มีข้อมูลมาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไปค้นบ้านญาติที่อำเภอเกาะยาว จ.พังงา ตนยังไม่ทราบข้อมูล ยอมรับว่าตนมีญาติที่ อ.เกาะยาว จ.พังงา แต่เป็นเพียงญาติห่าง ๆ และตนก็ไม่ทราบว่าลูกชายของตนจะหลบหนีไปที่ อ.เกาะยาว หรือไม่ อีกทั้งบังฟิตไม่เคยไปขึ้นเขาลูกไฟมาก่อนด้วย
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปพบหัวกระสุนปืน 2 หัว ที่ต้นยาง 2 หัว ห่างจากจุดพบปลอกกระสุนปืนประมาณ 15 เมตรนั้น ตนก็ไม่ทราบว่าหัวกระสุนทั้ง 2 หัวจะเป็นของลูกชายตนหรือไม่ ยืนยันว่าที่ผ่านมานายสุชาติ ผู้เสียชีวิต ไม่เคยมาข่มขู่ตน และตนก็ไม่รู้จักนายสุชาติ ไม่เคยเห็นหน้านายสุชาติ
ย้อนกลับไปที่ข้อมูลของคนขับรถแบ็กโฮ ที่ถูกว่าจ้างให้ไปขุดดิน ค่าจ้างเวลา 2,000 บาท โดยผู้ชาย 4-5 คน อ้างว่าจะนำวัวชนมาที่ตายมาฝัง 3 ตัว ตนจึงตอบตกลง ขุดดินขนาด 3x4 เมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ขุดเสร็จผู้ชายทั้ง 5 คนได้รีบให้กลับนั้น
นางน้ำค้าง ภรรยาเสี่ยสุชาติ กล่าวว่า เวลา 12.30 น. ตนได้นิมนต์พระสงฆ์มาสวดทำพิธี จากนั้นได้นำศพของเสี่ยสุชาติ ขึ้นรถเพื่อไปไว้ที่มูลนิธิประชาสันติสุข จ.กระบี่ ในตัวเมือง จ.กระบี่ โดยตนตั้งใจจะเอาศพสามีไว้ที่มูลนิธิฯ จนกว่าจะจับคนร้ายได้ เพราะถ้าเผาศพทั้งที่จับคนร้ายไม่ได้ ตนก็ลัวว่าสามีจะยังรู้สึกห่วงครอบครัว
กรณีที่ตำรวจเจอหัวกระสุน 2 หัวที่ต้นยาง ใกล้จุดพบศพสามี ตนเพิ่งทราบข่าว และเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตำรวจทำงานเต็มที่ ตนก็รอฟังความคืบหน้าคดีทุกวัน คิดว่าอีกไม่นานจะสามารถจับตัวคนร้ายได้ ส่วนตัวแล้วคิดว่าจำนวนผู้ก่อเหตุน่าจะมีมากกว่า 3-4 คน เพราะจากลักษณะจุดเกิดเหตุนั้นมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ตั้งแต่ตนทำพิธีเชิญวิญญาณสามีที่จุดเกิดเหตุ จนถึงวันนี้ตนก็ยังไม่ฝันถึงสามีแต่อย่างใด กรณีที่มีผู้อาศัยในแฟลตตำรวจ ด้านหลัง สภ.อ่าวนาง ได้ยินเสียงสุนัขหอนบริเวณรถยนต์เก๋งของกลางของสามีถึง 3 คืนนั้น ตนคิดว่าสิญญาณสามีคงเป็นห่วงรถยนต์ของเขา เพราะรถเก๋งคันดังกล่าวเป็นรถคันที่สามีรักมาก ช่วงค่ำของวันนี้ตนนิมนต์พระสงฆ์มาสวดที่บ้านอีกครั้ง เพื่อทำพิธีสวดมนต์ทำบุญให้บ้าน หลังจากนำศพสามีไปไว้ที่มูลนิธิฯ
"ทุกวันนี้ตนยังรู้สึกเครียด เพราะคนร้ายยังจับไม่ได้หมดทุกคน และรู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของสมาชิกในครอบครัวตนอีกด้วย" สำหรับเสี่ยสุชาติ สามีตน เปรียบเสมือนเสาหลักของครอบครัว สามีเคยดูและครอบครัวมาเป็นอย่างดีทุกอย่าง แต่การจากไปของสามีเปรียบเสมือนไฟที่อยู่ดี ๆ ก็ดับไปเลย ทั้งที่ยังไม่ทันตั้งตัว หลังจากนี้ ตนไม่รู้เลยว่าจะอยู่กันต่ออย่างไร
ขณะที่เวลา 16.00 น. ครอบครัวเสี่ยสุชาติ ได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 4 รูป ที่บ้าน เพื่อทำบุญบ้าน หลังจากนำศพเสี่ยสุชาติ กลับมูลนิธิฯ
Advertisement