จากกรณีหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือนักเรียนนักเรียนชายและนักเรียนหญิง ซึ่งเป็นพี่น้องกัน หลังถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกายลูกชาย โดยการทดลองความขลังของตะกรุด ฟันเข้าไปที่หลังของลูกชายคนโต และพยายามกระทำอนาจารลูกสาว ต่อมาจึงแจ้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนทราบและดำเนินการในการช่วยเหลือต่อ
วันที่ 30 ม.ค. 64 นางสาวสุกัญญา เรืองเกษตร ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นปลายเดือนธันวาคม 63 เด็กหญิงมาบอกกับครูผู้สอนว่าถูกพ่อเลี้ยงทำอนาจาร จับอวัยวะเพศ ทำให้ครูตกใจมาก จึงมาปรึกษาตนเองและสอบถามเด็ก เรียกพี่ชายคนโตมาพูดคุยด้วย พี่ชายก็ให้ข้อมูลว่าจริงแต่ไม่รู้รายละเอียดมาก จึงตัดสินใจแจ้งยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนกระทั่ง พม.จังหวัด ทราบเรื่อง และวันที่ 20 ม.ค. 64 เดินทางมาที่โรงเรียนเพื่อสอบเด็กทั้ง 2 คนอีกครั้ง มีทั้งนักสหวิชาชีพ นักจิตวิทยา และได้ข้อมูลที่ละเอียดลงลึก
ต่อมาวันที่ 21 ม.ค. 64 จึงนำเด็กไปตรวจร่างกายเพื่อรอหลักฐาน และส่งผลการตรวจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเด็กนักเรียนชายที่ถูกพ่อเลี้ยงฟัน เรื่องราวเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน 63 หลังจากที่เด็กถูกฟันและมีแผล ครูให้ช่วยยกของ แต่เด็กบอกว่าเจ็บหลัง และเปิดเสื้อให้ดู จึงทราบว่าเป็นแผลฉกรรจ์ยาวมาก มีหนอง ตนเองจึงนำส่งตัวไปที่โรงพยาบาลพนมสารคาม กระทั่งมาทราบว่าเด็กถูกพ่อเลี้ยงฟัน
ซึ่งทางโรงเรียนก็ทราบว่าเด็กมีพ่อเลี้ยง คาดว่าที่เด็กไม่ค่อยพูดเรื่องที่บ้านกับใคร น่าจะสงสารแม่ เพราะเด็กทั้ง 3 คนพี่น้อง รักและห่วงแม่มาก ตนเองยังสอบถามกับพี่ชายคนโตว่าน้องสาวเป็นอย่างไรบ้าง พี่ขายบอกว่าน้องสาวน้ำเสียงสดใด และน้องมีเพื่อนใหม่แล้ว สามารถปรับตัวได้ และแม่เด็กก็ห่วงลูกไม่อยากให้ลูกอยู่กับพ่อเลี้ยง ส่วนที่แม่บอกว่าไม่จริงนั้น ตนเองไม่สามารถตอบได้
หลังจากนี้จะมีการเยียวยาเด็กต่อไป ซึ่งทางเด็กผู้หญิงก็ไม่น่าเป็นห่วงแล้ว เพราะอยู่ในความดูแลของภาครัฐ และอาจจะต้องย้ายสถานศึกษาใหม่ ส่วนเด็กชายอีก 2 คนก็ยังอาศัยอยู่กับแม่ และโรงเรียนให้เรียนฟรีอยู่แล้ว อาหารกลางวันฟรี มีเงินช่วยเหลือต่าง ๆ เยียวยาครอบครัวด้วย
เด็กชายเอ อายุ 16 ปี ลูกชายคนโตที่ถูกมีดฟันหลัง เล่าว่า วันที่เกิดเหตุพ่อเลี้ยงให้ตนเองถือตะกรุดในมือ เอามีดฟันที่หลัง เพราะพ่อเลี้ยงจะให้ตนเองลองตะกรุด โดยไม่ได้บอกก่อนว่าจะนำมีดมาฟันที่หลัง มีการใช้มีดฟันที่หลังตนเอง 2 ครั้ง เมื่อฟันครั้งแรกไม่มีเลือดไหล ฟันอีกครั้งก็เกิดเลือดออก ตนเองก็รู้สึกโกรธพ่อเลี้ยงที่มาทำแบบนี้ หลังจากฟันพ่อเลี้ยงก็บอกว่าเสียใจ มาขอโทษตนเอง จากนั้นตนเองก็ให้แม่ทำแผลให้ แม่บอกว่าอย่าบอกคนอื่น ให้บอกว่าถูกกระจกบาด เพราะกลัวว่าถ้าหากบอกคนอื่นว่าถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย
โดยนิสัยพ่อเลี้ยงเป็นคนขี้เมาประจำทุกวัน และมักจะเปิดเพลงเสียงดัง เมื่อตนเองหรือแม่เตือนก็จะถูกต่อว่ากลับ และยังเคยทำร้ายร่างกายแม่ ตีตนเองและน้อง ๆ ด้วย หากทำอะไรไม่ถูกใจ ส่วนน้องผู้หญิงที่โดนล่วงละเมิดทางเพศก็มาเล่าให้ตนเองฟังบ้าง แต่ตนเองก็ไม่กล้าบอกใคร หลังจากที่น้องสาวถูกนำตัวไปดูแล ตนเองได้สอบถามทางโทรศัพท์อยู่บ้าง ตอนนี้ตนเองเป็นห่วงแม่ เพราะแม่ต้องอยู่บ้านคนเดียว และไม่มีงานทำ ตนเองก็ต้องหาเลี้ยงครอบครัวไปก่อน เหนื่อยแต่ก็ต้องอดทน ส่วนตนเองไม่อยากบอกอะไรกับพ่อเลี้ยง และไม่อยากนับถืออีกต่อไป
ด้านนางแสง (นามสมมติ) อายุ 49 ปี แม่ของเด็ก เปิดเผยว่า ตนเองคบหากับนายสุชิน อายุ 56 ปี ผู้ก่อเหตุ มาประมาณ 2 ปี และอาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คน ประกอบด้วย ตนเอง กับสามีและลูก 3 คน วันที่เกิดเหตุสามีนำมีดฟันหลังลูกประมาณปลายเดือนกันยายน 2563 ช่วงกลางคืน สามีตนเองเลิกงานมา และมีเครื่องลางของขลังเป็นสร้อยตะกรุด เด็กชายเอ ลูกชายคนโตจึงก็มีการขอตะกรุดไปบูชา สามีตนเองบอกว่าถ้าลูกจะเอา พ่อก็จะให้ แต่ต้องมีจิตใจแน่วแน่ ลูกจึงตอบว่า "ได้ครับ" จากนั้นสามีตนเองก็ทำพิธีให้ลูก สามีจึงทดสอบว่าจิตใจแน่วแน่จริงหรือไม่ มีดลงอาคมยาวประมาณ 20 เซนติเมตรฟันที่หลังลูกชายคนโต ช่วงที่ฟันครั้งแรกยังไม่มีเลือดไหล แต่เมื่อฟันครั้งที่สองมีเลือดไหลออกมาเป็นแผลฉกรรจ์ ทั้งลูกและสามีตนเองก็ร้องไห้ทั้งคู่
สามีนอนร้องไห้ทั้งคืนจนไข้ขึ้น เพราะเสียใจที่ไม่อยากให้ลูกเจ็บ และบอกว่า "นี่กูเกือบฆ่าลูกกูหรอ" ตนเองมองว่าเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครตั้งใจอยากให้เกิดขึ้น ขณะนั้นสามีตนเองไม่ได้มีอาการมึนเมา และสามีใช้สันมีดในการฟัน โดยมีดลงไปที่หลังไม่แรงมาก แต่ลูกมีอาการขยับตัวไปมาจึงได้รับบาดเจ็บ
ส่วนเรื่องที่ลูกสาวคนเล็กวัย 13 ปี ถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยสามีตนเองนั้น ไม่เป็นเรื่องจริง เพราะลูกเป็นคนหัวอ่อน ก่อนหน้านี้ลูกสาวเคยได้เงินจากตนเอง และพ่อเลี้ยง แต่ระยะหลังตนเองขาดแคลนเงิน และไม่มีเงินให้ลูก ลูกจึงสร้างเรื่องขึ้นมา ที่ผ่านมาตนเองรู้ดี และรู้จักนิสัยทุกคน
Advertisement