สส.ปชน. ประสานเสียง “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” หลักการดีแต่ระบบพัง
สส.ปชน. ประสานเสียง “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” หลักการดีแต่ระบบพัง จี้ รมว.ท่องเที่ยวฯ ทำงานหนัก แก้โครงสร้างท่องเที่ยวไทยให้แข่งขันโลกได้อีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สส.เชียงใหม่ เขต 3 พรรคประชาชน กล่าวถึงโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 ที่เปิดให้ประชาชนเริ่มลงทะเบียนรับสิทธิ์วันนี้วันแรก แต่แอปพลิเคชัน Amazing Thailand ที่ใช้สำหรับลงทะเบียนกลับล่ม ผู้ใช้งานไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ว่า โครงการนี้เตรียมการมานาน เพราะมีข่าวมาตั้งแต่ต้นปี 2568 ส่วนระบบก็เตรียมมาตั้งแต่เดือนมีนาคม
รอบแรกที่ออกมาบอกว่าจะลงทะเบียนได้ ก็ดันสื่อสารผิด ประชาชนรอเก้อ เพราะระบบยังไม่เปิดให้ประชาชน แต่เปิดให้ผู้ประกอบการก่อน ซึ่งต่อให้เปิดให้ผู้ประกอบการได้ลงทะเบียนก่อน แต่ ณ วันนี้ผู้ประกอบการยังไม่ได้รับการคอนเฟิร์มจากระบบว่าลงทะเบียนสำเร็จหรือไม่
สำหรับประชาชนที่รอคอย ต้องยอมรับว่าโครงการนี้สร้างการตื่นตัวให้กับการท่องเที่ยวภายในประเทศ แต่ระบบแอปฯ ที่รัฐทำกลายเป็นอุปสรรคที่อาจจะทำให้โครงการไม่ประสบความสำเร็จ ตัวแอปฯ Amazing Thailand เป็นแอปฯ เก่าที่ใช้สำหรับสร้างการรับรู้เฉยๆ ไม่ได้รองรับการลงทะเบียน ไม่ได้รองรับการบันทึกผู้ใช้งาน (users) หรือรวบรวมข้อมูล (data collecting) จำนวนมาก การยืนยันตัวตนต้องเชื่อมไปยังแอปฯ ThaiD ที่อยู่กับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งก็บอกไม่ได้ว่ามีการทำงาน monitoring ระบบอยู่ในขณะนี้หรือไม่ หรือเพียงแค่ซิงค์ (sync) เฉยๆ แต่ไม่ได้ร่วมดำเนินการกันต่อ
ณัฐพลกล่าวว่า โครงการนี้สะท้อนปัญหาของรัฐไทยใน 2 มิติ (1) กว่าโครงการจะเดินได้ ก็ต้องรอนาน เพราะต้องใช้งบกลางแบบฉุกเฉินในการทำ แต่การบรรจุวาระและกว่าจะพิจารณาอนุมัติก็ช้าไปมาก จากที่ตั้งใจว่าจะกระตุ้นการท่องเที่ยวเร่งด่วน ก็ทำให้เหลือเวลากระตุ้นได้สั้นลง (2) รัฐทำระบบเอง ในลักษณะอายุน้อยร้อยแอปฯ ต่างคนต่างทำ ต่างหน่วยงานต่างมีแอปฯ เป็นของตัวเอง วัดผล KPI เพียง “แค่มีแอปฯ” หลายแอปฯ มีประโยชน์แต่คนไม่ใช้ หลายแอปฯ อยากทำให้ประชาชนใช้ แต่ก็ทำได้ไม่ดี
อย่างเช่นแอปฯ Amazing Thailand ในวันนี้ ภาพฝันคือควรเป็น Super App. ของการท่องเที่ยวไทย ทั้งในการหาข้อมูล การขอความช่วยเหลือ การขอคืน VAT การลงทะเบียนต่างๆ การบันทึกข้อมูลสำคัญของนักท่องเที่ยวต่างชาติ การเชื่อมโยงสู่ระบบจองที่เป็นของคนไทย เป็นต้น แต่วันนี้คงยังเป็นไปไม่ได้ แค่ลงทะเบียนยังล่ม แล้ววันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ต้องเริ่มจอง จะเกิดการทำรายการ (transaction) เกิดขึ้น ต้องจับตาดูต่อว่าระบบจะรับไหวหรือไม่?
“ประเทศไทยเกิดเรื่องแบบนี้บ่อยครั้ง คือโครงการดี หลักการดี ประชาชนควรได้ประโยชน์ แต่กระบวนการ การลงทะเบียน ระบบที่ไม่เคยพร้อม กลายเป็นอุปสรรคให้โครงการไม่สำเร็จ จนประชาชนเบื่อหน่ายและถอดใจ ไหนๆ รัฐบาลดึงดันจะอยู่ต่อ แบ่งกระทรวงต่างๆ ได้ลงตัวแล้ว ผมก็หวังว่าท่านจะบูรณาการการทำงานทุกกระทรวงได้อย่างลงตัวเช่นกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่าประโยชน์ของการแบ่งเก้าอี้ใครเก้าอี้มัน” ณัฐพลกล่าว
ด้าน เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กรุงเทพฯ เขต 24 พรรคประชาชน กล่าวถึงประเด็นเดียวกันว่า อย่างน้อยรัฐบาลเหมือนยอมรับเเล้วว่าการท่องเที่ยวไทยตอนนี้สาหัสอย่างยิ่ง จึงออกนโยบายเที่ยวคนละครึ่ง ซึ่งตนถือว่ามาถูกทาง แม้วันนี้จะมีความตะกุกตะกักของการลงทะเบียนของทั้งผู้ประกอบการและผู้ขอรับสิทธิ์ ตามสไตล์ “อายุน้อยร้อยเเอป” ของหน่วยงานรัฐไทย ที่มีการงบประมาณไปทำเเอปฯ ชุ่ยๆ เพราะคิดว่าไม่มีใครจะมาใช้จริง พอเอาเข้าจริงจึงเป็นเเบบนี้ สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นในอนาคตคือการสังคายนาแอปพลิเคชันภาครัฐและโครงสร้างดิจิทัลของภาครัฐขนานใหญ่
โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง เหมือนกับหลายโครงการที่เป็นโครงการที่ดี แต่พอเริ่มปฏิบัติจริงกลับเป็นเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงความผุกร่อนของระบบราชการและรัฐไทยที่กัดกินจากภายใน ไม่ต่างอะไรจากโครงสร้างตึก สตง. ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างก็มีแต่รอวันจะถล่มลงมา
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไม่ได้เพิ่งมีปัญหาตอนนี้ ที่เราไม่มีลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวเข้ามา แต่เรามีปัญหาตั้งแต่ระบบ หน่วยงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ไม่ได้สนใจดูแลทรัพยากรทางการท่องเที่ยวทั้งทางกายภาพและบุคคล มีเเต่จะสร้างอีเวนต์งานโฆษณาต่างๆ ที่ไม่รู้ว่ามีการทุจริตหลุดลอยไปจากประชาชนเท่าไร
“สังเกตที่ท่านผู้ว่า ททท. ตอบคำถามในกรรมาธิการงบประมาณในปีนี้ ก็ไม่แปลกใจครับที่ท่องเที่ยวไทยจะเป็นเช่นนี้ หวังว่าท่านรัฐมนตรีสรวงศ์จะทำงานหนัก แก้ปัญหานี้ให้ได้โดยไวและวางแผนระยะยาว จัดการโครงสร้างการท่องเที่ยวไทยเพื่อสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้อีกครั้ง” เท่าพิภพทิ้งท้าย
Advertisement
