
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. (4 ธ.ค. 2568) ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน ได้รับแจ้งเกิดเหตุพลุระเบิดที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยทางด้านของ พ.ต.อ.พศพงศ์ มณฑา ผกก.สภ.กระทุ่มแบน ได้รุดไปที่เกิดเหตุพร้อมกับ พ.ต.ท.ชุมพร ฉัตร์สงวนชัย รองผกก.ป.สภ.กระทุ่มแบน, พ.ต.ท.รณเดช บุตรศรี รองผกก.สอบสวน.สภ.กระทุ่มแบน, ร.ต.ท.กิตติวัฒน์ สุวรรณประเสริฐ รองสารวัตรสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.กระทุ่มแบน
พร้อมกันนี้ยังได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD ภ.จว.สมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ อีกทั้งยังได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพร้อมกับรถน้ำดับเพลิงจากทางเทศบาลนครอ้อมน้อยเข้ามาเตรียมความพร้อมระงับเหตุอีกทางหนึ่ง หากเกิดกรณีไฟลุกไหม้หรือจำเป็นต้องใช้น้ำอย่างเร่งด่วน
โดยในที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นห้องเช่า 2 ชั้น ซึ่งห้องที่เกิดพลุระเบิดเป็นห้องพัก ด้านหน้าห้องพบข้าวของกระจัดกระจายจากแรงระเบิดของพลุเต็มพื้น และจากการตรวจหลักฐานพบวัตถุและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้เป็นส่วนของการผลิตพลุ หรือ ดอกไม้เพลิง(ขนาดเล็ก) แบบที่ใช้จุดแล้วทำให้เกิดเสียงดัง "วี๊ดปัง" ในช่วงเทศกาลต่างๆ ซึ่งก็มีทั้งท่อพีวีซีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร ความยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ดินประสิวที่ยังไม่บรรจุลงไปในท่อพีวีซีแท่งไม้ยาว 2-3 มัด และอุปกรณ์ที่ใช้เป็นแท่นรองการประกอบพลุอีก 1 ตัว
ส่วนในห้องพักนั้นข้าวของทั้งหมดพังระเนระนาดลงมา อีกทั้งยังพบพลุที่อัดเป็นแท่งสำเร็จแล้วรอการส่งขายอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีฝ้าเพดานไฟและกระจกกรองแสงแตกกระจายไปทั่วบริเวณรวมถึงกระจกกรองแสงของห้องข้างๆ และห้องชั้นล่างที่อยู่ฝั่งเดียวกันก็ถูกแรงอัดและแรงสั่นสะเทือนได้รับความเสียหายแตกไปตามๆ กันด้วย นับรวมได้ทั้งหมด 10 ห้อง และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายขวัญชัย (สงวนนามสกุล) เป็นคนเช่าห้องดังกล่าวอยู่กับภรรยา ซึ่งทั้ง 2 คน มีอาชีพเป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับที่พักอาศัย โดย นายขวัญชัย มีบาดแผลฉกรรจ์ที่มือและขา ตามร่างกายมีแผลถูกไฟลวก เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลวิชัยเวชอ้อมน้อย ส่วนภรรยาปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดทั้งสิ้น
จากการสอบถามเจ้าของห้องเช่าบอกว่า ผู้บาดเจ็บมาเช่าห้องนานกว่า 10 ปีแล้ว และพักอยู่กัน 2 คนกับภรรยา โดยปกติผู้บาดเจ็บจะเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร พอกลับมาจากทำงานก็จะไปตกปลา ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ไม่รู้ว่าผู้บาดเจ็บลักลอบรับจ้างทำพลุแบบนี้ด้วย เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน มาทราบก็ตอนเกิดเหตุแล้ว ส่วนผู้ที่อาศัยอยู่ในหอพักเดียวกันก็ไม่มีใครรู้เพราะเมื่อเลิกงานกลับมาทุกคนก็แยกย้ายกันเข้าห้องพัก
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทำให้เห็นว่า ช่วงเกิดเหตุ นายขวัญชัย ยืนทำพลุอยู่หน้าห้องคนเดียว จากนั้นก็มีเสียงระเบิดดังตูมสนั่นหวั่นไหวพร้อมกับแสงไฟวาบขึ้นมา ก่อนที่จะเห็นว่าเมื่อแสงไฟดับลง ภรรยาของนายขวัญชัยก็ประคองร่างนายขวัญชัยออกมานั่งพักที่เก้าอี้ แล้วพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็ทำให้ห้องเช่าได้รับความเสียหายรวมทั้งหมดถึง 10 ห้อง โชคดีที่ห้องข้างๆ ที่อยู่ติดกันและห้องที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดนั้น ทางผู้เช่าบางคนออกไปทำงานกะดึก และบางคนก็ยังไม่เลิกงานกลับมาเข้าพัก
ส่วนพลุที่ระเบิดนั้นมีลักษณะเป็นพลุขนาดเล็ก ใช้จุดเพื่อให้เกิดเสียงดัง "วี๊ดปัง" เป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลต่างๆ โดยคาดว่าผู้บาดเจ็บน่าจะผลิตหรือรับจ้างผลิตเพื่อเตรียมไว้ขายในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้
ด้านผู้ที่พักอาศัยอยู่ในห้องเช่าเดียวกันแต่อยู่ห่างออกไปเป็นห้องสุดท้ายของชั้นบนนั้นก็บอกว่า ตอนนั้นตนเพิ่งกลับมาจากทำงานและนอนเล่นอยู่ในห้องก็ได้ยินเสียงระเบิดดังมาก โดยตอนแรกนึกว่าหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด แต่พอออกมาดูจึงรู้ว่าเกิดพลุระเบิดขึ้นจากผู้เช่าห้องที่อยู่ในชั้นเดียวกันก็รู้สึกตกใจกลัว
เบื้องต้นภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐาน ได้มีการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้ทั้งหมดแล้ว จากนี้จะได้ทำการสอบปากคำผู้บาดเจ็บและภรรยาของผู้บาดเจ็บต่อไป ส่วนวัตถุสิ่งของและอุปกรณ์ที่พบในห้องที่เกิดเหตุนั้นก็ได้มีการนำไปเก็บไว้เพื่อเป็นของกลางในการดำเนินคดี ตามข้อหาว่าด้วยข้อหา
1. ห้ามมิให้ผู้ใดทำซื้อมีใช้สั่งนำเข้าค้าหรือจำหน่ายด้วยประการใดใด ซึ่งวัตถุระเบิดเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ฯ ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 40,000 บาท
2. กระทำการให้เกิดระเบิดอันน่าจะเป็นอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปีและปรับไม่เกิน 140,000 บาท ซึ่งเป็นไปภายใต้ข้อกฎหมายพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา4(3), 38, 74 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 221
Advertisement