อัจฉริยะ เชื่อผู้เสียชีวิตเหตุน้ำท่วมหาดใหญ่เป็นจุดอ่อนใช้โจมตีรัฐบาล
"อัจฉริยะ" เชื่อ ผู้เสียชีวิตเหตุน้ำท่วมหาดใหญ่ เป็นจุดอ่อนใช้โจมตีรัฐบาล ซัดการบริหารจัดการล้มเหลว
27 พ.ย. 68 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยว่า ช่วงสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ ตัวเองได้ส่งเรือจำนวน3ลำ และเจ็ตสกี 3 ลำ ลงพื้นที่ไปช่วยผู้ประสบภัย โดยออกค่าใช้จ่ายเรื่องค่าน้ำมันให้กับทีมกู้ภัย แม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมตอนนี้จะคลี่คลายลงบ้างแล้ว แต่สิ่งที่เห็นชัดคือการบริหารจัดการของรัฐบาล ที่นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ถือว่าใช้ไม่ได้หรือเรียกได้เลยว่าล้มเหลว รัฐมนตรีที่กำกับดูแล กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย หรือ ปภ. ก็ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับนายกฯ เลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายอัจฉริยะ มองว่า นายกรัฐมนตรี เป็นถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจในการบริหารจัดการสถานการณ์ต่างๆ แต่กลับไม่มีความเชี่ยวชาญ พูดแล้วทำไม่ได้ เพราะไม่เคยเจอกับสถานการณ์วิกฤตในลักษณะนี้มาก่อน การให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ในพื้นที่ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ควรให้ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงไปทำหน้าที่ เพราะมีความรู้เฉพาะทาง ส่วนตัวนายกเองก็สามารถกำกับดูแลบริหารงานเกี่ยวกับปภ. อยู่ในกรุงเทพจะดีกว่า มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับประชาชนจังหวัดสงขลาที่มีความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ก็เนื่องจากการที่รัฐมนตรีไม่มีประสบการณ์ไม่มีความรู้ความสามารถซึ่งถือว่าเป็นการบริหารจัดการที่ล้มเหลวของรัฐบาลตั้งแต่เคยมีมา
โดยหลังจากนี้หลังจากรู้ตัวเลขของผู้เสียชีวิตที่แน่ชัดว่ามีจำนวนเท่าไหร่มองว่าเรื่องนี้จะถูกนำไปเป็นประเด็นทางการเมืองต่อ ไม่ว่าทางรัฐบาลจะยุบสภาเดือนธันวาคมนี้หรือมกราคมปีหน้าก็ตาม เรื่องผู้เสียชีวิตจะนำไปเป็นจุดอ่อนโจมตีทางการเมืองรัฐบาลอย่างหนักและเรื่องนี้ ก็จะถูกพูดถึงไปอีกนาน เพราะการเสียชีวิตแม้จะเกิดจากอุทกภัยธรรมชาติแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะปัดความรับผิดชอบได้
นายอัจฉริยะบอกว่า การบริหารผิดพลาดของรัฐบาลส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเข้าถึงที่ยากลำบากตั้งแต่แรก ในช่วงที่เกิดสถานการณ์ขึ้นควรให้ผู้นำชุมชนไม่ว่าจะเป็นกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านที่มี ข้อมูลของคนในพื้นที่ เค้าไปบริหารงานก่อนเป็นหลัก เพราะการแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมไม่มีใครรู้ดีเท่ากับผู้นำชุมชนที่จะสามารถชี้จุดและวางแผนช่วยเหลือชาวบ้านได้ และหลังจากนั้นก็ ค่อยให้ทหารเรือกู้ภัยรวมถึงภาคเอกชนลงไปช่วยเหลือเพิ่มเติมในภายหลัง
Advertisement
