
จากกรณีการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการย้ายผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่บางส่วนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีผู้ต้องขังชาวจีนบางรายมีอิทธิพลเหนือผู้ต้องขังรายอื่นและนำนางแบบสาวเข้ามามีสัมพันธ์ในเรือนจำนั้น
ผู้สื่อข่าวได้ไปพูดคุยกับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง แฉเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยบอกว่า ตนเองเข้าไปเรือนจำพิเศษตั้งแต่ปี 2550 เข้าไปรวม 5 ครั้ง ต่างกรรมต่างวาระ แทบจะหลับตาเดินได้ ตนอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพประมาณ 2 ปีเศษ เพราะฉะนั้นรู้ดีว่าความเป็นพิเศษในเรือนจำ ที่ถือว่าเป็นเรือนจำแถวหน้า ที่ใช้ควบคุมผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี และผู้ต้องขังที่ได้รับโทษไม่เกิน 15 ปี มีอะไรบ้าง สมัยนั้นนักโทษที่มีเงินสามารถสั่งซื้อได้แม้กระทั่งสุกี้ชื่อดัง (MK) หรือของในร้านสะดวกซื้อชื่อดัง (เซเว่น) ที่ทางเรือนจำอนุญาตให้ซื้อ แต่ต้องสั่งซื้อผ่านเรือนจำ ซึ่งราคาจะสูงกว่าปกติ
ส่วนกรณีที่บอกว่ามีการเตรียมนางแบบสาวชาวญี่ปุ่นเข้าไปปรนนิบัตินักโทษจีนเท่านั้น ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรก เพราะในอดีตเรื่องเลวร้ายในเรือนจำที่ปรากฏเป็นข่าวมากที่สุดก็คือการนำโทรศัพท์มือถือหรือยาเสพติดเข้าไปให้นักโทษเท่านั้น ไม่เคยมีการนำผู้หญิงเข้าไปให้ขนาดนี้ สมัยก่อนช่วงที่ตนเองถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ การตรวจจะเข้มงวดมาก ถึงขั้นไม่ให้ใส่กางเกงใน เพราะกลัวยาเสพติดซ่อนไว้ด้านไหน แต่ปัจจุบันนี้นโยบายเปลี่ยนไปมากตามมาตรการของผู้บัญชาการเรือนจำ
สมัยก่อนอาจจะมีการอาจจะมีเรื่องของรักร่วมเพศบ้าง ตนเคยได้ยินมา แต่ก็เป็นเรื่องเดิม แต่น้อยลงตามลำดับ แต่ถึงขั้นนำนางแบบเข้าไปแบบนี้ไม่มี เพราะเรือนจำจะเก็บความลับยากมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่คับแคบ และมีผู้คนอยู่เยอะ จะมีการพูดกันแบบปากต่อปาก หากมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเข้าไปกระทำความผิด และเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งไม่เห็นด้วย ก็จะมีการเล่าต่อๆกันไป จนเรื่องแดงขึ้นมา พื้นที่ 8 แดนนั้น ข่าวจะกระจายไวมาก
ส่วนประเด็นห้องลับใต้บันไดนั้น ก่อนหน้านี้ตนเห็นบ่อยๆ เวลาเข้าออกเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ห้องลับนี้จะเข้าไปอย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องผ่านประตู 1 เพียงแค่ขึ้นบันไดผ่านหน้าห้อง ผบ.เรือนจำ และเดินลงบันไดไปด้านล่าง ก็จะมีห้องดังกล่าว ซึ่งห้องลับนี้สามารถเข้าข้างในเรือนจำได้เลย ไม่ต้องผ่านประตู1 เพราะจะมีทางเชื่อมกับอาคารเรือนจำ เดิมทีห้องนี้ไม่ใช่ห้องลับ เป็นจุดที่ไม่คาดคิด เพราะใกล้ห้องของผู้บัญชาการเรือนจำและเจ้าหน้าที่บริหาร จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ผบ.เรือนจำและผู้คุมจะไม่รู้เห็นด้วย
ตนคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิด มีการสร้างฮาเล็มในเรือนจำ เกิดจากเจ้าจากการแพ้อำนาจของเงิน วันนี้ควรจะปฎิรูปองค์กรได้แล้ว และดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกราย เพราะเป็นการทำลายเกียรติภูมิของราชทัณฑ์อย่างหมดสิ้น แต่คงไม่ต้องถึงขั้นประกาศเหมือนเช่นสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าไม่ใช่องค์กรอาชญากรรม หลังจากนี้ควรต้องขยายผล เพราะคิดว่าไม่ได้มีแค่นี้แน่นอน
Advertisement