
นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ถูกตำรวจสืบสวนสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล และ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ควบคุมตัวมาที่ สน.ทองหล่อ หลังถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับในฐานความผิดร่วมกันเป็นอั้งยี่ช่องโจร ร่วมกันเรียกค่าไถ่และข่มขืนใจผู้อื่น โดยคดีนี้ศาลออกหมายจับทั้งหมด 8 คน แต่จับกุมตัวตามหมายจับได้ 4 คน รวมถึงนายสันธนะด้วย ที่โรงแรมหรูกลางกรุง และจากการตรวจค้นพบอาวุธปืน 4 กระบอก
ทันทีที่ตำรวจควบคุมตัวมาถึง สน.ทองหล่อ นานสันธนะได้เปิดใจเสียงแข็งกับสื่อมวลชนว่าตนเองถูกหักหลังจากฝ่ายการเมืองและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากคดีดังกล่าวผ่านไปแล้ว 4 ปี และตนเองไม่ได้หลบหนีและเข้าให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม
สำหรับกรณีคือเหตุการณ์ที่ตนเองถูกตั้งข้อกล่าวหาคดีอุ้มเรียกค่าไถ่ชาวไต้หวัน ซึ่งคดีนี้สำนวนที่อัยการสั่งฟ้องและให้ตนไปมอบตัวเพื่อต่อสู้คดี ซึ่งตนเองอยู่ระหว่างการทำหนังสือขอความเป็นธรรมจากอัยการ แต่พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ไปขอศาลออกหมายจับโดยยืนยันว่าตนเองไม่เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน มีแต่ชี้เป้าว่าใครเกี่ยวข้องกับเว็บพนันบ้าง รวมถึงคนจากฝ่ายการเมือง หรือแม้กระทั่งเรื่องของ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีต ผบ.ตร. และ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ตนเองก็ไม่อยากเข้าไปยุ่ง เพราะตอนนี้เรื่องยุ่งไปหมด และเหมือนจะมีการกลั่นแกล้งตนหรือตัดตอนเรื่องอะไร ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเก่า ตนใช้สิทธิ์ประกันตัวได้ ไม่กังวลอะไร แต่จะมีความยุ่งยากทางการเมืองต่อไปเพราะเรื่องนี้ตนจะไม่ยอมฝ่ายการเมือง พร้อมกับถามว่าใครเป็นผู้สั่งการในเรื่องนี้ ซึ่งทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะไม่เป็นสุข เปิดศึกกับพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์คนเดียวก็พอแล้ว อย่าเปิดศึกกับตนเองเลยเดี๋ยวจะทำให้สังคมวุ่นวาย
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเปิดศึกกับตนเองใช่หรือไม่ นายสันธนะถามกลับว่าใช่หรือไม่ เพราะตนเองไม่คิดหนีไปไหน ซึ่งหมายจับออกมาตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หากโทรศัพท์แจ้งตนเองก็พร้อมเข้ามามอบตัว ทำไมต้องนำกำลังตำรวจมาเยอะขนาดนี้เหมือนไปถ่ายทำละคร พร้อมย้ำว่าคดีนี้เป็นคดีเก่า ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปัจจุบันที่มีปัญหากัน
Advertisement