Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ไซเบอร์ ปูพรมค้น109จุดบุกทลายรังเครือข่ายสแกนม่านตาโยงแลกเหรียญดิจิทัล

ไซเบอร์ ปูพรมค้น109จุดบุกทลายรังเครือข่ายสแกนม่านตาโยงแลกเหรียญดิจิทัล

24 ต.ค. 68
20:30 น.
แชร์

ตร.ไซเบอร์-ก.ล.ต. ปูพรมค้น 109 จุดทั่วประเทศ บุกทลายรังเครือข่ายสแกนม่านตาโยงธุรกิจเถื่อนรับแลกเหรียญดิจิทัล

เมื่อวันที่ 24 ต.ค. พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง รอง ผบช.สอท.

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รองผบก.สอท.1 สนธิกำลังน.ส.จอมขวัญ คงสกุล รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. เปิดปฏิบัตการฟ้าสางทลายธุรกิจเถื่อนรับแลกเหรียญWorld Coin ผ่านการสแกนมม่านตา โดยปิดล้อมตรวจค้น 109 จุดทั่วประเทศ

โดยจุดที่น่าสนใจคือการจับกุมนาย นายสุทธิ สุขพิศิษฐ์ 35 ปีได้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งย่านนวมินทร์ หลังชุดสืบสวนได้ทำการแกะรอย จนทราบว่ามีพฤติกรรมเป็นนายหน้ารับซื้อเหรียญWorld Coin จากประชาชนที่แห่ไปลงทะเบียนสแกนม่านตา ผ่านเครื่องOrb เพื่อรับเหรียญ World Coin โดยเบื้องต้นนายหน้าคนดังกล่าวให้การว่ารับซื้อเหรียญดังกล่าวในราคา 28 บาทต่อ 1 เหรียญ ซึ่งคนที่ไปลงทะเบียนสแกนม่านตาจะได้รับเหรียญดิจิตอลจำนวน 30 เหรียญ หรือคิดเป็นเงิน 840 บาทเป็นค่าสแกนม่านตา

นอกจากนี้ชุดสืบสวนได้เข้าตรวจสอบจุดติดตั้งเครื่องorb ในร้านจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 2 แห่ง ที่ห้างย่านรัชดาภิเษก เบื้องต้นพบมีการติดตั้งเครื่องเสียงและจะมี

เจ้าหน้าที่ของบริษัทดังกล่าวแนะนำวิธีใช้และสแกนม่านตาผ่านเครื่อง Orb เพื่อยืนยันความเป็นมนุษย์ จึงได้เชิญตัวเจ้าหน้าที่ไปทำการสอบสวน

พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มาจากการที่คณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ ของสภาผู้แทนราษฎร และส่วนราชการต่าง ๆ ได้ส่งประเด็นมายังตำรวจไซเบอร์ ให้ตรวจสอบว่า ระบบการจัดเก็บข้อมูลผ่านการสแกนม่านตานั้น ผิดกฎหมายหรือไม่

จากการตรวจสอบพบว่า ระบบการเก็บข้อมูลแบบสแกนม่านตา คือเทคโนโลยี AI ที่นำมาใช้ในโลกดิจิตอลยุคปัจจุบันและในอนาคต เพื่อเอาไว้สำหรับยืนยันตัวบุคคลเหมือนลายนิ้วมือและในอนาคตจะมีเทคโนโลยีที่ใช้ระบบสแกนม่านตาจัดเก็บข้อมูลทั้งบัญชีธนาคาร บัญชีเงิน Cryptocurrency และบัญชีทางอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เสมือนเป็นรหัส Master Key ประจำตัวที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จากการอ่านค่ารอยหยักในม่านตา เปลี่ยนเป็นการยืนยันตัวตนบนโลก AI ยุคใหม่

เบื้องต้น ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบสแกนม่านตา ยังไม่ผิดกฎหมายในประเทศไทย เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการศึกษาของหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องของข้อมูลส่วนบุคคลหรือ PDPA แต่พบว่าระบบดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกควบคุมเป็นพิเศษใน 6 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย บราซิล สเปน และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง

แต่ประเด็นคือ บริษัทผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการเก็บระบบข้อมูลผ่านการสแกนม่านตาในประเทศไทยรายหนึ่ง ได้ติดตั้งเครื่อง Orb หรือเครื่องบันทึกชีวภาพสแกนม่านตา ตามจุดให้บริการต่าง ๆ ด้านไอทีทั่วประเทศ เพื่อชักชวนให้ผู้คนที่สนใจเข้ามาสแกนม่านตาทำระบบข้อมูล

ปรากฎว่า มีนายหน้าที่โฆษณาประชาสัมพันธ์ตาม Facebook ชักชวนให้คนมาสแกนม่านตากับเครื่องดังกล่าวตามจุดต่าง ๆ เมื่อมีคนเข้ามาสแกนม่านตาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่บริษัทประจำจุด ก็จะให้ผู้สแกนม่านตาติดตั้งแอพพลิเคชั่น Worldcoin ซึ่งจะได้รับเหรียญ Worldcoin 30 เหรียญ ตีราคาเหรียญละประมาณ 30 บาท จากนั้นผู้ที่สแกนม่านตาก็จะนำเหรียญไปขายให้นายหน้าที่ชักชวน ในลักษณะของการแลกเป็นเงินสด โดยพฤติการณ์ดังกล่าวนั้น ถือเป็นการประกอบธุรกิจแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิตอลที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ตาม พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561

ต่อมา ทางตำรวจไซเบอร์จึงได้ส่งสายลับเข้าตรวจสอบตามจุดที่มีการเปิดให้เก็บบันทึกข้อมูลชีวภาพ ปรากฏว่ามีการดำเนินการจริงและเป็นลักษณะขบวนการ โดยจะมีนายหน้าแนะนำวิธีใช้และสแกนม่านตาผ่านเครื่อง Orb เพื่อยืนยันความเป็นมนุษย์และบันทึกข้อมูลผ่านม่านตา ก่อนนัดหมายกับนายหน้าเพื่อขอแลกเงินสดในวันถัดไป เนื่องจากระบบจะโอนเหรืยญเข้ากระเป้าผู้ใช้งานภายใน 24 ชั่วโมง จะได้รับเหรียญจำนวน 30 เหรียญ โดยมีอัตราแลกเปลี่ยน 30 บาท ต่อ 1 เหรียญหรือประมาณ 900 บาท

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นัดพบกับนายกิตติ อายุ 45 ปี นายหน้าที่รับซื้อเหรียญดิจิตอล โดยได้ดำเนินการโอนเหรียญไปยังกระเป๋าดิจิตอลของนายหน้า แล้วนายหน้าก็ได้โอนเงินสดจำนวน 900 บาทให้สายลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการจับกุมนายกิตติในข้อหาประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้นให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ส่วนการขยายผลในวันนี้นั้น เนื่องจากได้พบสถานที่เป้าหมายเป็นจุดสแกนม่านตาที่อยู่ตามร้านให้บริการสินค้าไอทีและตามปั๊มน้ำมันกว่า 109 จุดทั่วประเทศ เบื้องต้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 1 ราย ชื่อนายสุทธิอายุ 35 ปีที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งย่านนวมินทร์ ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นนายหน้ารับซื้อเหรียญดังกล่าวเช่นเดียวกันกับผู้ต้องหารายแรก เบื้องต้นให้การรับสารภาพ โดยจะได้ผลกำไรประมาณ 7-8% และไม่รู้มาก่อนว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย โดยสรุปรวมแล้วขณะนี้จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย

นอกจากนี้ชุดสืบสวนได้เข้าตรวจสอบจุดติดตั้งเครื่อง Orb ในร้านจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 2 แห่ง ที่ห้างย่านรัชดาภิเษก เบื้องต้น พบติดตั้งเครื่องเสียงและจะมี

เจ้าหน้าที่ของบริษัทดังกล่าว 2 รายประจำจุดคอยแนะนำวิธีใช้และสแกนม่านตาผ่านเครื่อง Orb เพื่อยืนยันความเป็นมนุษย์ จึงได้เชิญตัวเจ้าหน้าที่ไปทำการสอบสวนในฐานะพยาน

ทั้งนี้จากข้อมูลเชิงลึกพบว่า หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหามีแชทพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทดังกล่าว ในลักษณะของการรับเหรียญที่นายหน้าซื้อมาและนำเงินมาให้นายหน้าอีกที จึงทำให้ทางตำรวจอยู่ในระหว่างการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมว่า บริษัทดังกล่าวเข้าข่ายชักจูงให้บุคคลทั่วไปมาสแกนหน้าเพื่อแลกรับเหรียญ WorldCoin หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าตอนนี้กิจการของบริษัทดังกล่าวยังไม่ผิดกฎหมายและกระบวนการสแกนม่านตากลับให้เหรียญ WorldCoin นั้น ยังไม่ใช่กระบวนการที่ผิดกฎหมาย ประเด็นที่ผิดกฎหมายในตอนนี้คือ เรื่องของการแลกซื้อเหรียญ WorldCoin ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ดิจิตอล โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. อันเป็นการประกอบธุรกิจแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิตอลโดยไม่รับอนุญาตตาม พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561

พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวเสริมอีกว่า ระบบสแกนม่านตาเพื่อบันทึกข้อมูลยังไม่ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่นี่ถือเป็นช่องโหว่ที่มีผู้ไม่หวังดีนำระบบดังกล่าวมาใช้ทำในสิ่งผิดกฎหมายอย่างเช่นในกรณีนี้ ซึ่งในอนาคต ระบบสแกนม่านตาดังกล่าว อาจเกิดการรั่วไหลข้อมูลตกไปอยู่ในมือแก๊งสแกมเมอร์หรือกลายเป็นช่องทางใหม่สำหรับพวกบัญชีม้าได้อีกทาง รวมทั้งข้อมูลม่านตานั้นสามารถถูกนำไปจำลองบุคคลอีกคนหนึ่งและอาจนำไปใช้ก่ออาชญากรรมได้ ซึ่งในอนาคตอาจจะต้องออกกฎหมายเพื่อควบคุมระบบการเก็บข้อมูลผ่านการสแกนม่านตาหรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในประเด็นนี้ เช่น การป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลจากระบบสแกนม่านตา เป็นต้น

ด้าน น.ส.จอมขวัญ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า แม้ระบบสแกนม่านตายังไม่ผิดกฎหมาย แต่มีผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสใช้สำหรับนำมาประกอบการแลกเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ โดยไม่รับอนุญาตจากทาง ก.ล.ต. จึงขอเตือนว่า เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกหรือตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ การแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ไม่ว่าจะสกุลใดก็ตาม ควรจะต้องแลกเปลี่ยนผ่านบริษัทที่ได้รับการขออนุญาตประกอบธุรกิจแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิตอลอย่างถูกกฎหมาย ไม่ใช่รับแลกผ่านบุคคลทั่วไปที่แต่งตั้งตัวเองเป็นนายหน้า อันเป็นการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอลโดยไม่อนุญาตและผิดกฎหมายได้

Advertisement

แชร์
ไซเบอร์ ปูพรมค้น109จุดบุกทลายรังเครือข่ายสแกนม่านตาโยงแลกเหรียญดิจิทัล