รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลวงเจ้าหน้ากรมชลฯเกษียณ สูญเงินกว่า 2 ล้านบาท
รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลวงเจ้าหน้ากรมชลฯเกษียณ หลอกโดนคดีอาญาให้โอนเงินสดและขายทรัพย์สินที่มี และให้โอนเงินไปเพื่อตรวจสอบ สูญกว่า 2 ล้าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 3 ต.ค.2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ ที่ 5 ร่วมกันจับกุม นายกิตติชัยฯ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามตามหมายจับ ตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ จ.646/2568 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน และยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมีได้มีมุ่งนาใช้เพื่อตน หรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง”
โดยจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าบ้านแห่งหนึ่ง ต.กุยเหนือ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก ผู้เสียหายเป็นพนักงานราชการกรมชลประทานที่เกษียณอายุราชการแล้ว มีกลุ่มคนร้ายมาหลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งว่าเกี่ยวข้องกับคดีอาญาโดยให้โอนเงินสดและขายทรัพย์สินที่มีและให้โอนเงินไปเพื่อตรวจสอบ ผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้ทำการ โอนเงินและขายทรัพย์สิน และปฏิบัติตามวิธีการที่คนร้ายแนะนำ (ลักษณะเป็น call center) จนสุดท้ายได้สแกน QR Code โอนเงินไปให้กับคนร้าย สูญเงินไป 2,000,000 บาท
จากนั้น ผู้เสียหายจึงร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรกาษจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ต่อมาจากการสอบสวน ทราบว่า ผู้ต้องหาเป็นบัญชีม้าแถวที่ 2 นำมาสู่การขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับในคดีนี้
ก่อนทำการจับกุมเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนจนทราบนายกิตติชัยฯ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ จ.646/2568 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อประชาชน และยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชี เงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมีได้มีมุ่งนาใช้เพื่อตน หรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง” ได้หลบหนีมาพักอาศัย บ้านญาติ ต.กุยเหนือ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล สว.กก.5 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบบริเวณบ้านหลังดังกล่าว จนกระทั่ง ได้พบชายไทยมีตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลตามหมายจับ ยืนปรากฏตัวอยู่บริเวณหน้าบ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้เข้าแสดงตัวและได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้น จนทราบว่าคือ นายกิตติชัยฯ เป็นบุคลตรงตามหมายจับ จากนั้นจึงได้แสดงหมายจับให้ดูโดยอ่านให้ฟังและให้อ่านด้วยตนเอง จนเป็นที่พอใจแล้ว รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมในคดีตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัว พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ ก่อนนำตัวมาจัดทำบันทึกการจับกุม และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรกาษจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ทุกข้อกล่าวหา
Advertisement
