นายดุสิต พงศาพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากอิทธิพล พายุคาจิกิ ที่ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในพื้นที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบใน 4 ตำบล 35 หมู่บ้าน รวม 769 ครัวเรือน ประชาชนเดือดร้อนกว่า 2,800 คน ซึ่งที่บ้านปางอุ๋งและบ้านปางอุ๋งใหม่ ต.แม่ศึก ได้รับความเสียหายหนัก มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 14 ราย และยังสูญหายอีก 2 ราย ซึ่งแม้ทราบพิกัดแล้ว แต่ด้วยสภาพพื้นที่มีดินตะกอนลึกถึง 3 เมตร จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าช่วยค้นหา คาดว่าภายใน 2 วัน จะแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ได้มีการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว โรงเรียนบ้านปางอุ๋ง และเปิดศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านปางอุ๋ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ขณะเดียวกันหลายหน่วยงานทั้ง ฝ่ายปกครอง ทหาร กรมชลประทาน องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกรมการปกครอง ที่ระดมอาสาสมัครกว่า 500 คน เข้ามาช่วยฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชน กำจัดซากปรักหักพัง ดินโคลน และสิ่งกีดขวาง พร้อมซ่อมแซมถนน สะพาน และระบบสาธารณูปโภค เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว
นอกจากนี้ยังเตรียมจัดหาที่อยู่อาศัยใหม่สำหรับประชาชนที่บ้านเรือนเสียหาย 78 หลัง บนพื้นที่ 18 ไร่ ที่อยู่ห่างจากบริเวณเดิมไปประมาณ 1.6 กิโลเมตร ซึ่งกรมชลประทานจะเข้าตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงในจุดที่เป็นแนวรับน้ำหรือพื้นที่เสี่ยงว่า อาจจะเกิดดินโคลนถล่ม และการสไลด์ของดินอีกหรือไม่ โดยมีการจัดสรรงบประมาณก่อสร้างบ้านให้ใหม่จากเงินทดลองราชการกองทุนสนับสนุน สำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย
Advertisement