ความคืบหน้ากรณีแก๊งคนร้ายลักลอบเข้าไปขโมยของกลางบุหรี่ไฟฟ้าในโกดังเก็บของกลางของกรมศุลกากร ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย แล้วถอยรถชนพนักงานรักษาความปลอดภัยที่พยายามไล่จับจนเสียชีวิต เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 1 มิ.ย. 68
ล่าสุดวันนี้ (3 มิถุนายน 2568) ฝ่ายสืบสวนได้จับกลุ่มนายสิทธิศักดิ์ หรือ แบงค์ อายุ 38 ปี มาทำบันทึกจับกุมที่สืบสวนสน.ท่าเรือ โดยนายแบงค์ ได้ยอมเปิดปากสารภาพกับทีมข่าวว่า ตนทำทุกอย่างเอง โดยที่ไม่มีใครจ้าง แต่มีผู้ดูแลสนามฟุตบอลในพื้นที่เป็นคนคอยชี้เป้าให้ ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นตนก็ชักชวนไปทำ ไม่ได้ว่าจ้าง ส่วนเรื่องถอยรถชน รปภ.เสียชีวิต นายแบงค์ อ้างว่าใส่เกียร์ผิด ไม่ได้ตั้งใจ อยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต
ด้านพลตำรวจตรี โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ทางตำรวจได้กดดันจนกระทั่งได้ตัวนายแบงค์ และกำลังขยายผลต่อว่าใคนเป็นคนชี้เป้า โดยนายแบงค์มีหมายจับคดีปล้นของสน.ท่าข้าม และล่าสุดเป็นหมายจับคดีของ สน. ท่าเรือ
โดยจากการซักถามนายแบงค์ ให้การว่า ทำเป็นขบวนการ โดยก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกได้บุหรี่ไฟฟ้าเต็มคันรถรวมมูลค่า 270,000 บาท ประมาณ 10,000 ชิ้น นำไปขายทางออนไลน์ ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งทุกครั้งจะมีคนในพื้นที่ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเป็นคนคอยชี้เป้าให้ทำให้รู้ว่าตรงไหนเป็นที่เก็บบุหรี่ไฟฟ้า และมีความสนิทสนมกับนายแบงค์ ซึ่งตอนนี้ตำรวจทราบชื่อเล่นแล้ว เบื้องต้นทราบว่าเป็นคนนอกที่วนเวียนอยู่แถวที่เก็บของกลาง ส่วนบุหรี่ที่ขโมยมาได้นายแบงค์ นำไปขายออนไลน์ ทางตำรวจพอทราบแล้วว่าใครซื้อใครขาย
ส่วที่ขับรถชน รปภ.เสียชีวิต นายแบงค์ ก็ยังยืนยันว่าเป็นการใส่เกียร์ผิดตอนชน ไม่ได้มีเจตนา แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ มองว่าเป็นข้อแก้ตัว
ส่วนข้อมูลที่ผู้ต้องหาให้ข้อมูลไม่ตรงกับกรมศุลกากรว่าไม่เคยเกิดเหตุในลักษณะแบบนี้มาก่อน เพราะตำรวจยังไม่ได้รับแจ้งความจากกรมศุลกากร ซึ่งจะต้องรอให้กรมศุลกากรรวบรวมข้อมูล โดยเฉพาะรายการบัญชีของกลางเพื่อนำมาตรวจสอบ
โดยหลังจากทำบันทึกจำกุมเสร็จแล้ว จะส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการสอบปากคำอย่างละเอียด แล้วจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คนไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพฯใต้ฝากขังภายในวันพรุ่งนี้ (3มิ.ย.68) ท้ายคำร้องคัดค้านประกันตัว
Advertisement