วันนื้ (28พ.ค.68) เมื่อเวลา 13.00 น. สถานการณ์ความตรึงเครียดที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา ถึงขั้นร้อนระอุหนักขั้นสุงสุด โดยตลอด 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ(KNLA)พร้อมทหารหน่วยพิทักษ์ประชาชนหรือพีดีเอฟ และทหารฝ่ายต่อต้านจำนวนนับร้อยนาย พร้อมอาวุธครบมือ นำกำลังเข้าปิดล้อมและยิงโจมตีใส่ขบวนกองทัพทหารเมียนมาที่กำลังเคลื่อนพลจากกองบก.ควบคุมยุทธการที่13 เพื่อจะเป็นเสริมกำลังที่ฐานทิบาโบ ของกองทัพเมียนมา ที่ถูกกำลังทหารกะเหรี่ยงฝ่ายต่อต้านปิดล้อมฐานทิบาโบดังกล่าวมานานนับสัปดาห์ และเกิดการยิงปะทะอย่างดุเดือด
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายผ่านมาทหารกะเหรี่ยง เปิดฉากยิงถล่มทหารเมียนมาด้วยอาวุธหนักจำนวนมาก เสียงปืนเสียงระเบิดดังสนั่นชายแดนสองฝั่งประเทศ และสามารถเข้าจับกุมตัวทหารเมียนมา พร้อมอาวุธ จำนวน 8 นาย และคาดว่าเสียชีวิตจำนวนมาก จากจำนวนกว่า 70 นาย จนสถานการณ์เกิดความตรึงเครียดขั้นสุงสุด เนื่องจากพบกองกำลังทหารเมียนมาพร้อมอาวุธครบมือจำนวน 21 นาย ได้ถอยเข้ามาตั้งหลักประชิดริมตลิ่งแม่น้ำเมย จนเกิดการยิงปะทะกันใกล้แนวตะเข็บชายแดนหมู่บ้านมอเกอไทย เขตอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยชาวบ้านฝั่งไทยผู้นำชุมชนหมู่บ้านมอเกอไทย ต้องรีบประกาศเสียงตามสายของหมู่บ้าน ขอให้ชาวบ้านเข้าไปหลบอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยหรือหลุมหลบภัยใต้ถุนบ้านของตนเอง และห้ามมาใกล้พื้นที่แนวชายแดนอย่างเด็ดขาด จนเกิดความโกลาหล เนื่องจากชาวบ้านฝั่งไทยต่างรีบวิ่งหนีหาพื้นที่ปลอดภัยเต็มถนนของหมู่บ้าน ท่ามกลางเสียงระเบิด และกระสุนปืนสงครามจำนวนมาก ที่ทหารกะเหรี่ยงยิงสู้กับทหารเมียนมาแบบไม่ขาดสาย จนบ้านเรือนประชาชนทั่วหมู่บ้านมอเกอไทย ต้องปิดบ้านและอยู่ในความเงียบสงบ และบนท้องถนนก็เต็มไปด้วยรถทหารติดอาวุธหนักลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยให้ชาวบ้านฝั่งไทย จนนาทีต่อมาทหารเมียนมาซึ่งถูกปิดล้อมมาประชิดแนวชายแดนไทย-เมียนมาได้ร้องขอการสนับสนุนทางอากาศโดยกองทัพอากาศเมียนมา ได้ส่งเครื่องบินรบจำนวน 1 ลำ บินเข้าทิ้งระเบิดใส่กลุ่มทหารกะเหรี่ยงจำนวน 4 ลูกซ้อนเสียงระเบิดดังจนพื้นที่สองฝั่งประเทศสะเทือน และเกิดกลุ่มระเบิดสามารถมองเห็นได้ในฝั่งไทยอย่างชัดเจน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าทการทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนเท่าใด
ซึ่งหลังเกิดความตรึงเครียดพื้นที่ชายแดนไทยจังหวัดตาก ล่าสุดพันเอกณัฐกร เรือนติ๊บ ผบ.ฉก.ราชมนู ได้นำกำลังทหารฉก.ราชมนูพร้อมชุดตอบโต้เคลื่อนที่เร็ว พร้อมอาวุธหนัก นำกำลังเข้าไปตรึงแนวชายแดนอำเภอพบพระจังหวัดตาก และเสริมกำลังที่บริเวณท่าข้ามธรรมชาติป้องกันการลุกล้ำอธิปไตยของไทย
และสำหรับสถานการณ์การสู้รบในศึกชิงยึดฐานทหารเมียนมาพื้นที่ตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งพื้นที่ยิงปะทะครั้งนี้อยู่ห่างแนวชายแดนไทยไปไม่ถึง 1 กิโลเมตรนั้น ทำให้มีผู้หนีภัยการสู้รบชาวเมียนมาจำนวน 377ค นอพยพหนีตายเข้ามาหลบภัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจำนวน 3 แห่ง
ซึ่งพื้นที่ปลอดภัยทั้ง 3 แห่งมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอำเภอพบพระจังหวัดตาก เข้าไปดูความรักษาปลอดภัยให้ชาวเมียนมาที่หนีภัยการสู้รบทั้งหมดและช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมตามหลักสากลแล้ว
Advertisement