ตามนโยบายของรัฐบาลให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐปราบปรามอาชญากรรมทั่วไป และอาชญากรรมที่เกี่ยวกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผช.ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินของประชาชนอย่างจริงจัง กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ., พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล , พ.ต.อ.กรกฎ โปชยะวณิช, พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ, พ.ต.อ.อาวุธ อุดมรัตน์, พ.ต.อ.อภิฌาน สวัสดิบุตร, พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง, พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์, พ.ต.ท.ศตวรรษ คนชุม ,พ.ต.ท.ไพบูลย์ สอโส รอง ผกก.สายตรวจฯ ,พ.ต.ต.ณัฐดนัย บำรุงศรี สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ ร่วมกันแถลงผล
การปฏิบัติดังนี้
จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย
นายสิทธิชัย ฯ(ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี
พร้อมด้วยของกลาง
1.รถยนต์ยี่ห้อยาริส สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน 5 กผ 4432 กทม. พร้อมกุญแจ 1 ชุด
2.โทรศัพท์ไอโฟน 14 โปรแม็ก จำนวน 1 เครื่อง
3.นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ จำนวน 1 เรือน
4.หูฟังบูลทูธ จำนวน 1 ชุด
5.บัตร ATM จำนวน 2 ใบ
โดยแจ้งข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ หรือรับของโจร”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าร้านสมนึกอะไหล่เก่าราชบุรี ถ.เพชรเกษม ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี จับกุม วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 14.40 น.
สืบเนื่องจากงานสายตรวจ 2 กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการเศษ ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าถูกลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียได้รู้จักกับนายสิทธิชัย ผ่านแอปพลิ่เคชันหาคู่ ต่อมาวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 นายสิทธิชัยฯ ได้มาพบผู้เสียหาย ที่อพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ย่านพระยาสุเรนทร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร และนายสิทธิชัย ได้ถือโอกาส ตอนผู้เสียหายเผลอ ได้ก่อเหตุลักทรัพย์รถยนต์ พร้อมกับโทรศัพท์ไอโฟน 14 โปรแม็กซ์ และทรัพย์สินอื่นๆภายในรถยนต์ หลบหนีไปในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.คันนายาว และได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และผู้บังคับบัญชาจึงได้สั่งการให้ทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 ได้สืบทราบว่า นายสิทธิชัยฯ ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ ต.เตาปูน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ และสังเกตการณ์บริเวณบ้านหลังดังกล่าว พบชายต้องสงสัยลักษณะคล้ายนายสิทธิชัยฯ (ผู้ก่อเหตุ) ได้ขับขี่
รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านหลังดังกล่าวไปจอดที่เขื่อนท่าทรายโพธาราม และได้เปิดประตูรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว ที่จอดอยู่บริเวณสถานที่ดังกล่าว ซึ่งตรงกับรถในคดีที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้ และได้ขับขี่ออกไปตามถนนเพชรเกษม ชุดสืบสวนหาข่าวงานสายตรวจ 2 จึงได้ติดตามและสามารถเข้าควบคุมตัวผู้ขับขี่พร้อมรถยนต์คันดังกล่าวได้ บริเวณหน้าร้านสมนึกอะไหล่เก่าราชบุรี ถ.เพชรเกษม ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ2 ได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ พบว่าผู้ขับขี่คือนายสิทธิชัยฯ (ผู้ก่อเหตุ) และรับสารภาพ
ว่าตนคือผู้ก่อเหตุลักทรัพย์รถยนต์คันดังกล่าวนี้พร้อมทรัพย์สินอื่นที่ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.คันนายาวจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ จากนั้นนายสิทธิชัยฯ (ผู้ถูกจับ) ยินยอมและ
สมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไปตรวจค้นบ้านพักของตน พร้อมกับนำตรวจยึดของกลางรายการอื่นๆ ตามบัญชีของกลาง สิ่งของตรวจยึดข้างต้น และจากการตรวจสอบประวัติคดีและหมายจับของนายสิทธิชัยฯ (ผู้ถูกจับ) พบว่ายังเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ จ. 150/2566 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า
ค่าบริการหรือหนี้อื่น แทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด” จากนั้นได้นำตัว นายสิทธิชัยฯ (ผู้ถูกจับ) พร้อมของกลางและสิ่งของตรวจยึด ส่ง พนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Advertisement