(18 พ.ค. 2568) น.ส.ชฎาธร หลานสาวของผู้เสียชีวิต ร้อง นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังอาพลัดตกสันเขื่อนริมคลอง จ.ปทุมธานี และได้ไปหาหมอตามสิทธิ์ประกันสังคม แต่หมอทำการรักษาเบื้องต้นและออกใบรับรองแพทย์ว่าปากถลอก แต่ญาติติดใจพาไปรักษาอีกโรงพยาบาล และได้ทำซีทีแสกน พบกระดูกคอหัก ทับเส้นประสาท รักษาสุดท้าย เสียชีวิต
โดยนางสาวชฎาธร บอกว่า เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 ช่วง 23.00 น. นายปัน อา ของเธอ ออกไปหาเพื่อนนั่งเล่นที่ริมสันเขื่อนริมคลองรังสิต ที่สูงประมาณ 2 เมตร ก่อนจะพลัดตกสันเขื่อนใส่ดินที่อยู่ริมกำแพงเขื่อน จากนั้นกู้ภัยมานำตัวอาไปยัง รพ.เอกชน แห่งหนึ่ง ที่ จ.ปทุมธานี ที่เป็นรพ.ตามสิทธิ์ประกันสังคม แต่พอตี 4 ทาง รพ. โทรศัพท์มาบอกญาติให้ไปรับตัวอาที่ รพ. โดยพยาบาลเวรฉุกเฉินบอกว่า หมอแจ้งว่าอาการของนายปัน ไม่ได้มีอะไรมาก แต่มีแผลถลอกที่บริเวณลิ้นและปาก หยุดพักที่บ้าน 1 วัน ก็หายแล้ว ซึ่งตอนนั้น นายปัน พยายามบอกพยาบาลให้แอดมิดเพื่อขอรักษาและนอนดูอาการตามสิทธิประกันสังคม เพราะรู้สึกตัวชา แขนขาชา และขยับตัวไม่ได้ (ยังสามารถพูดได้) แต่พยาบาลบอกว่า ให้กลับบ้าน
ญาติจึงไปรับโดยต้องหิ้วปีก พาขึ้นรถส่วนตัว ในขณะออกจาก รพ.เอกชน แต่ระหว่างทางเห็นอาการนายปันไม่ดี จึงพาไปหาป้า (พี่สาวนายปัน) ที่มีลูกสาวเป็นพยาบาล เมื่อไปถึงป้าเห็นสภาพนายปัน ก็ดูท่าไม่ดี ลูกสาวที่เป็นพยาบาลก็สอบถามอาการ จนแน่ชัดว่าอาการไม่ดีแน่ จึงพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ เมื่อไปถึงหมอรีบพาไปทำ ซีทีแสกน ผลออกมาพบว่า "กระดูกคอหัก ข้อที่ 5-6 หัก ทับเส้นประสาท" จึงทำให้ไม่มีแรง ไม่มีความรู้สึกที่แขนและขา ทางโรงพยาบาลสมุทรปราการ จึงแจ้งกลับไปที่โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม ว่าจะรับรักษาคนไข้ต่อหรือไม่ ถ้าไม่รับทาง รพ.สมุทรปราการ จะรับรักษาเอง เนื่องจากต้องผ่าตัดเชื่อมกระดูกคอโดยด่วน
ทางโรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม ตอบกลับมาว่า จะรักษาเอง จึงส่งรถพยาบาลมารับกลับไปแอดมิด และทำการผ่าตัดที่คอ รวมถึงมีการเจาะคอ แต่รักษาได้ 1 เดือน นายปัน ก็เสียชีวิต เมื่อวันที่ 25 เมษายน แพทย์ลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจาก "ไขสันหลังบาดเจ็บอย่างรุนแรง มีสภาวะแทรกซ้อนการติดเชื้อที่ปอด" ทำให้ญาติเกิดความไม่พอใจและตั้งคำถามถึงการประเมินอาการที่ผิดพลาดล่าช้า ทำให้การรักษาไม่ทัน จึงมาร้องขอความเป็นธรรมที่เพจสายไหมต้องรอด
น.ส.ชฎาธร บอกอีกว่า เมื่อ รพ.เอกชน นำตัวอากลับไปรักษาที่ รพ. เธอก็ไม่ได้ถาม เพราะพาตัวอาไปอยู่แผนกฉุกเฉินทันที และมีการผ่าตัด และรักษา จนนายปันเสียชีวิต ทำให้เธอและญาติติดใจกับทาง รพ.เอกชน ที่ในครั้งแรกทำไมไม่รักษา บอกมาเพียงแค่ว่า เอ็กซเรย์แล้วไม่มีอะไร ทั้งที่ผู้ป่วยแจ้งว่าแขนขาชาผิดปกติ แต่ยังให้ผู้ป่วยกลับบ้าน มีการเคลื่อนย้ายขยับร่างกาย ที่ส่งผลเป็นอันตรายต่อร่างกายและการรักษา
ด้าน นายเอกภพ ระบุว่า หลังจากนี้ตนจะดำเนินการประสานไปทางกระทรวงสาธารณสุขผ่าน นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสั่งการให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ให้ไปดูขั้นตอนการรักษา เพราะเชื่อว่าบุคลากรทางการแพทย์ไม่ต้องการให้คนไข้เสียชีวิตอยู่แล้ว แต่ต้องไปดูว่าขั้นตอนไหนผิดพลาด มีอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีอะไรผิดพลาดถึงตรวจไม่เจอตั้งแต่แรก ทั้งที่คนไข้อยู่ในอาการวิกฤติ แต่ รพ.สมุทรปราการ กลับพบเจอสาเหตุ โดยพรุ่งนี้ตนจะพาญาติผู้เสียชีวิตไปกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้หาคำตอบและให้ครอบครัวหายสงสัยในประเด็นนี้
Advertisement