วันนี้ (13 พ.ค.68) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมายัง สน.บางซื่อ พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้ตนมาให้ปากคําเพิ่มเติมคดี สตง. เกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติของวิศวกรที่ปรึกษาที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคมวิศวกรที่ปรึกษา ดังนั้นจึงไม่มีสิทธิ์เป็นวิศวกรคุมงานของ สตง.
เบื้องต้นทราบว่าวันนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง 2 บริษัท คือ อิตาเลียนไทย และ ไชน่า เรลเวย์ฯ รวมถึงออกหมายจับบริษัทสถาปนิกผู้ออกแบบ บริษัทวิศวกรโครงสร้างและบริษัทวิศวกรที่ปรึกษารวมทั้งสิ้น 17 ราย ส่วนจะมีนายสมเกียรติ ที่ถูกปลอมแปลงลายเซ็นเป็นวิศวกรควบคุมงานตึก สตง. หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่เป็นไปตามที่ตนเคยยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษก่อนหน้านี้ เบื้องต้นเป็นข้อหาใช้เอกสารปลอมและร่วมกันประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
อย่างไรก็ตาม นายอัจฉริยะ ระบุว่า ยังมีบางส่วนที่เกี่ยวข้องแต่ยังไม่ถูกออกหมายจับในล็อตนี้ ซึ่งตนได้เคยให้ข้อมูลกับทางดีเอสไอและ สน.บางซื่อ ไปแล้ว คาดว่าหมายจับจะออกในช่วงบ่าย ส่วนจะสามารถจับกุมใครได้บ้างนั้นต้องรอติดตามดูที่ สน.บางซื่อ
ทั้งนี้มีรายงานว่า กรณีออกหมายจับ "วิศวกร-ผู้ควบคุมงาน-กิจการร่วมค้า" ในคดีตึก สตง. ถล่ม รวม 17 ราย นั้น โดยคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานแวดล้อม พยานวัตถุ และพยานเอกสาร เพื่อดำเนินกับบุคคลที่ผู้เข้าข่ายกระทำผิดในคดีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ถล่ม โดยพนักงานสอบสวนได้นำผลการตรวจสอบการออกแบบ จากสภาวิศวกร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ และผู้เชี่ยวชาญของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาประกอบสำนวนคดี รวมถึงผลการตรวจเหล็ก ปูน กว่า 300 ชิ้น ผลการตรวจสอบลายเซ็นจากกองพิสูจน์หลักฐาน มาประกอบสำนวนคดี และพิจารณากลุ่มบุคคลที่พบการกระทำความผิด เป็นเหตุให้อาคาร สตง. ถล่ม คาดว่าน่าจะมีความชีดเจนภายในสัปดาห์ นี้
Advertisement