เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 7 พ.ค. 68 ที่จ.นครนายก ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง มีเหตุยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ที่บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก
พบผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่บริเวณห้องนอนชั้น 2 ของบ้าน 1 ราย ต่อมาทราบชื่อ นายสิทธิพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี มีบาดแผลถูกยิงบริเวณแก้มซ้าย 2 รู มีรอยทะลุออกใกล้หูซ้าย 1 รู และมีรอยกระสุนเฉี่ยวบริเวณหัว 1 รอย ใบหน้ามีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างอริยะฯ จึงเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.นครนายก
ภายในบ้านจุดเกิดเหตุ พบหญิงสาว 1 ราย เป็นแฟนของคนเจ็บ ซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจ ไม่ให้การใดๆ เจ้าหน้าที่จึงต้องเชิญตัวไปสอบปากคำต่อที่ สภ.เมืองนครนายก บริเวณจุดเกิดเหตุ พบปลอกกระสุน 1 ปลอก ตกอยู่บริเวณประตูรั้วบ้าน และพบรูกระสุนนับ 10 รู อยู่บนเพดานห้องชั้น 2 ห้องเดียวกันกับที่ผู้บาดเจ็บอยู่ เจ้าหน้าที่ พิสูจหลักฐาน ตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเบื้องต้น คาดว่าคนก่อเหตุน่าจะยิง จากบริเวณหน้าประตูรั้วบ้านจุดพบปลอกกระสุน ขึ้นไปบริเวณหน้าต่างห้องชั้น 2 ที่คนเจ็บอยู่ ซึ่งกระสุนนั้นเป็นรอยของกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12
เพื่อนบ้านใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ได้ยินเสียงทะเลาะกันก่อน ซึ่งเท่าที่ได้ยินเสียงคนก่อเหตุพูดว่า จะกลับหรือไม่กลับ จากนั้นเสียงปืนก็ดัง ขึ้น 1 นัด ก่อนที่คนก่อเหตุจะหลบหนีไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า ผู้ก่อเหตุกับคนเจ็บนั้นเป็นเพื่อนกัน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ อส. ของศาลากลางจังหวัดนครนายกทั้งคู่ คนเจ็บกับผู้หญิงในบ้านเป็นอดีตสามีภรรยากัน ได้หย่าร้างกันแล้ว แต่ยังไปมาหาสู่กัน เพราะทั้งคู่ต่างทำเพื่อลูก ซึ่งปกติแล้วคนเจ็บจะอาศัยอยู่ที่บ้านตนเอง แต่ตอนเกิดเหตุได้มาหาอดีตภรรยากับลูกที่บ้านจุดเกิดเหตุ
ส่วนคนก่อเหตุนั้นต่อมาทราบชื่อเล่นชื่อ ปุ้ย (ไม่ทราบชื่อนามสกุล) เป็นแฟนใหม่ของฝ่ายหญิง สาเหตุการก่อเหตุนั้น ยังไม่แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด บางคนให้ข้อมูลว่าคนก่อเหตุแฟนใหม่ของฝ่ายหญิงนั้นน่าจะหึงหวงอดีตสามี บางคนก็เล่าว่า ฝ่ายหญิงกับคนเจ็บ อดีตสามี ทะเลาะกันก่อนที่ฝ่ายหญิงจะโทรเรียกคนก่อเหตุให้มาที่บ้านจุดเกิดเหตุ ซึ่งสาเหตุที่ชัดเจนต้องรอพนักงานสอบสอบปากคำข้อมูลที่ชัดเจนอีกครั้ง เนื่องจากฝ่ายหญิง และคนเจ็บยังไม่พร้อมให้ข้อมูลใดๆ
ส่วนคนก่อเหตุได้หลบหนี ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป ซึ่งมีข้อมูลว่าทางผู้ก่อเหตุจะมามอบตัว แต่ก็ยังไม่ยืนยันข้อมูลว่าจะมาจริงหรือไม่ แต่ทางชุดสืบสวนก็ไม่ได้มีการรอมอบตัวแต่อย่างใด ยังคงเร่งติดตามตัวอย่างเต็มที่เนื่องจากครอบครัวของคนเจ็บเกรงว่าคนก่อเหตุจะบุกมาก่อเหตุซ้ำที่ โรงพยาบาล เพราะคนในกลุ่มเพื่อนร่วมงานของคนเจ็บและผู้ก่อเหตุแจ้งว่าคนก่อเหตุเป็นคนอารมณ์ร้อนมาก ถ้าโมโหก็จะไม่ค่อยยอมใคร และมีข้อมูลว่าคนก่อเหตุนั้นยิงปืนแม่น จึงค่อนข้างเป็นบุคคลอันตราย
Advertisement