วันที่ 6 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความว่า “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย อยากได้ไปฟ้องเอา ชายอายุ 46 ปี ขับรถชนหญิง 40 ปีบาดเจ็บสาหัส นอนติดเตียง 4 เดือน ไร้การเยียวยา ณ บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์”
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 260/1 หมู่ที่ 18 ต.กันจุ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.น้ำผึ้ง เจ็ดศร อายุ 40 ปี ผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุถูกรถเก๋งของนาย ชาคริต อายุ 46 ปี ชาว ต.ซับสมอทอด อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ขับเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของ น.ส.น้ำผึ้ง เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา ปัจจุบันเวลาผ่านไปเกือบ 4 เดือน เงินเยียวยาสักบาทก็ไม่เคยได้รับ น.ส.น้ำผึ้งต้องจ่ายเงินรักษาตัวเองไปแสนกว่าบาท
ขณะที่ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บึงสามพัน เคยนัดไกล่เกลี่ยโดยนายชาคริตบอกว่าจะจ่ายเงินเยียวยาให้ 70,000 บาท แต่ น.ส.น้ำผึ้งก็ยังไม่ได้รับเงิน ล่าสุดนายชาคริตไปพูดคุยกับคนที่ทำงานว่า ถ้าอยากได้เงินเยียวยาให้ไปฟ้องเอา แต่ น.ส.น้ำผึ้งฐานะครอบครัวค่อนข้างยากจน ไม่มีเงินไปดำเนินคดีใดๆ
จากการสอบถาม น.ส.น้ำผึ้ง เล่าว่า ในวันเกิดเหตุตนขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อกับข้าว ขากลับจู่ๆ รถของคู่กรณีก็พุ่งออกมาจากบริษัทแห่งหนึ่งที่เขาทำงานอยู่ไปชนกับแบริเออร์เกาะกลางถนนแล้วรถกระเด็นมาชนกับรถของตน โชคดีที่รถไม่เหยียบซ้ำ ห่างจากอกไปนิดเดียว โดยคู่กรณีอยู่ในอาการเมาสุรา จากนั้นคนแถวนั้นก็รีบวิ่งมาช่วยนำตนส่งโรงพยาบาล เพราะอาการสาหัส แขนขาข้างซ้ายหัก อีกทั้งมีอาการแทรกซ้อน คือเส้นเลือดในสมองอุดตันสมองตีบ ทำให้ยากแก่การผ่าตัด ซึ่งไม่รู้ว่าจะกลับมาเดินได้อีกหรือไม่
สำหรับคู่กรณีแรกๆ ก็มาเยี่ยม แต่พอทำสำนวนคดีเจรจาเรื่องการไกล่เกลี่ยค่าเยียวยาเสร็จก็ไม่มาอีกเลย ปัจจุบันค่าเยียวยา 70,000 บาท ที่บอกว่าจะให้ก็ยังไม่ได้รับมิหนำซ้ำคู่กรณียังไปพูดกับเพื่อนที่ทำงานว่า ถ้าอยากได้ให้ไปฟ้องเอา เขาบอกว่าเขาไม่มีปัญหาให้หรอก สร้างความเสียใจให้กับตนและครอบครัวมาก ตนจึงอยากให้คู่กรณีเข้ามาพูดคุยเรื่องค่าเยียวยาให้สมเหตุผลมากกว่านี้ ไม่ใช่บอกว่าเราแค่ขาหัก
จากการสอบถามนาย ศรีนิล คล้ายสุบรรณ อายุ 62 ปี พ่อของ น.ส.น้ำผึ้ง เรื่องอาการของลูกสาว ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะสงสารลูกสาวมาก จากคนที่เดินได้ทำงานได้ และเป็นเสาหลักของครอบครัว กลับมามานอนป่วยติดเตียงอยู่แบบนี้ มิหนำซ้ำคู่กรณียังไม่เหลียวแลไม่เยียวยาใดๆ ตอนนี้ครอบครัวเดือนร้อนมาก จะพาไปหาหมอก็ไม่มีเงิน ไฟฟ้าก็โดนตัดยกหม้อไปแล้ว เพราะไม่มีเงินจ่ายต้องขอพ่วงไฟจากข้างบ้านมาใช้ชั่วคราว รถก็จะโดนยึด เงินที่มีก็หมดไปกับค่ารักษาตัว ตอนนี้ไม่มีอะไรเลย ชีวิตลำบากมากจึงอยากให้คู่กรณีเข้ามาดูแลบ้างด้านคดี 4 เดือนแล้วก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย จากที่เคยทำไร่นาก็ไม่ได้ทำ เพราะเงินหมดไปกับค่ารักษา ตอนนี้ยิ่งมองดูลูกสาวก็ยิ่งสงสารลูก
Advertisement