วันที่ 17 เม.ย. 68 ที่ สน.บางซื่อ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาคาร สตง.ถล่ม ภายหลังมีการเข้าเก็บพยานหลักฐาน ทั้งเหล็กเส้น ปูน และสัตถุพยานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และสอบปากคำพยานผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี
โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวถึงความคืบหน้าทางคดีว่า ขณะนี้ทางนิติเวช ยืนยันศพผู้เสียชีวิตแล้ว 42 ราย ชิ้นส่วนด้านบนและท่อนล่าง 2 ราย ผู้สูญหาย 50 ราย
ส่วนการสอบปากคำ ขณะนี้สอบปากคำไปแล้ว แบ่งเป็นผู้บาดเจ็บ 7 ราย ประจักษ์พยาน 55ราย ญาติผู้เสียชีวิต 26 ราย และผู้เกี่ยวข้อง ทั้งผู้แทนผู้ว่าจ้างคือ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. และผู้แทนคู่สัญญารับจ้างออกแบบ ผู้แทนคู่สัญญารับจ้างงานก่อสร้าง ผู้แทนคู่สัญญารับจ้างควบคุมงาน ผู้ตรวจรับวัสดุของสตง. และเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง รวม 29 ปาก ทำให้รวมตอนนี้สอบปากคำไปแล้ว 117 ปาก แต่การสอบปากคำยังไม่เสร็จสิ้น
ส่วนการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวน ได้ร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐาน กรมโยธาธิการและผังเมือง และดีเอสไอ เข้าเก็บหลักฐานหน้างาน และวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง เหล็กเส้น 193 ชิ้น คอนกรีต 36รายการ โดยได้ส่งให้ทำการตรวจสอบแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำ
รวมถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งการออกแบบ การรับเหมาก่อสร้าง การควบคุมงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการลงนามลายเซ็นต์ในการออกแบบ ให้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงาน
ซึ่งผู้ออกแบบ และผู้ควบคุมงาน ขณะนี้ก็ทยอยเข้ามาให้ปากคำแล้ว โดยผู้ออกแบบ ของทั้ง2บริษัทเข้ามาให้ปากคำแล้ว3ราย และยังขาดอีก 2 ราย
ส่วนกรณีของนาย ปฏิวัติ ศิริไทย ผู้ถือหุ้นใหญ่ ของบริษัท พีเอ็นซิงค์โครไนซ์ จำกัด หนึ่งในกิจการร่วมค้า PKW ที่สตง.จ้างควบคุมงานก่อสร้าง จะต้องเรียกมาให้ปากคำด้วยหรือไม่นั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุว่า ได้นัดหมายเรียกมาสอบปากคำวันที่ 21 เม.ย.นี้ ทั้งนี้การเรียกสอบปากคำ ตำรวจได้ออกหมายเรียกตั้งแต่มีการตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนแล้ว แต่บางรายก็ขอเลื่อนจึงได้ออกหมายเรียกซ้ำ ดังนั้นหลังจากนี้หากยังไม่มา ก็จะให้ฝ่ายสืบสวนไปติดตามตัวเพื่อมาให้ปากคำในข้อเท็จจริงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรเพื่อหาผู้รับผิดชอบในแต่ละส่วนงาน ซึ่งนายปฏิวัติ เป็นส่วนหนึ่งของผู้รับสัญญาจ้างที่รับงานจาก สตง.
ส่วนจะเริ่มเอาผิดใครได้หรือยังนั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุว่า เบื้องต้นรอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานที่ส่งตรวจสอบก่อน และรอผลการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อ ที่รัฐบาลได้ตั้งไว้ ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน ทั้งนี้ได้พยายามเร่งเพื่อให้ข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ และให้หลักฐานชัดเจนบ่งชี้ว่า สาเหตุของอาคารถล่มมาจากสาเหตุใด ส่วนสำนวนชันสูตรพลิกศพ ได้ตั้งไว้แล้วเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง โดยทั้งหมดอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน
ยืนยันว่าจะทำการสอบสวนให้เร็วที่สุดเพราะนายกรัฐมนตรี ต้องการให้ความจริงกระจ่างเพื่อตอบโจทย์ของสังคมและประชาชน เพราะตั้งแต่แต่งตั้งเป็นคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตำรวจได้ทำงานทุกวันในการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเพื้อให้พยานหลักฐานชี้ชัด และต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยทั้งวิศวกรรมสถานฯ กรมโยธาธิการและผังเมือง และกองพิสูจน์หลักฐานในการตรวจสอยปูน เหล็ก วัสดุก่อสร้าง ที่ต้องรอผลการตรวจส่วนนี้ด้วย
ส่วนกรณีการปลอมลายเซ็นต์ สน.วังทองหลางได้นำเสนอเรื่องมาที่ บช.น.แล้ว จึงคาดว่าจะรวบเรื่องเป็นเรื่องเดียวกัน โดยมีสำนวนคดีอาคารถล่มเป็นคดีหลัก
Advertisement