เปิดทางป่าตามหานาคหนุ่ม ติดในเมืองลับแล ญาติหวั่นลางพูดชมต้นไม้สวยน่าผูกคอตาย (คลิป)

จากกรณี นายสถิตย์ อาวะแสง อายุ 40 ปี ชาวบ้าน ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี มีอาการทางจิต หายตัวไปหลังญาติพามาบวชแก้กรรมกับเจ้าอาวาสวัดภูตะเภาทอง เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 63 แต่เจ้าอาวาสยังไม่บวชให้ เนื่องจากนายสถิตย์ไม่สามารถท่องขานนาคได้ จนนายสถิตย์หายตัวไปช่วงเช้าวันที่ 21 พ.ค.63

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ระดมทีมค้นนับร้อย หานาคหนุ่มเตลิดหนีบวช เจ้าอาวาสห่วงป่วยซึมเศร้า เคยเอ่ยปากอยากตาย

ล่าสุด วันที่ 24 พ.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่วัดภูตะเภาทอง ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี โดยช่วงเช้า 09.00 น. บรรยากาศที่วัดยังไม่มีเจ้าหน้าที่กู้ภัย หรือชุดการค้นหามาร่วมปฏิบัติค้นหานายสถิตย์ มีแต่เพียงญาติของผู้สูญหาย และชาวบ้านกว่า 20 คน ที่ร่วมค้นหาในช่วงเช้า

ก่อนจะค้นหา นางอุไร ทุงฤทธิ์ อาของนายสถิตย์ ผู้สูญหาย พร้อมด้วยพี่สาวของนายสถิตย์ ได้ทำพิธีจุดธูปจุดเทียนขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขา และบ่อพญานาคของพญานาคราชมุจลินท์ ที่ทางด้านทิศตะวันออกของวัด โดยบริเวณนี้เป็นบ่อน้ำที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตร ความลึก 8 เมตร ลักษณะของบ่ออยู่ใต้หินห้อนใหญ่

นางอุไร ทุงฤทธิ์ อาของผู้สูญหาย เปิดเผยว่า วันนี้ตนและครอบครัวมาจุดธูปขอขมาพ่อปู่พญานาคราชมุจลินท์ ให้ช่วยเปิดทางให้ค้นหาตัวนายสถิตย์เจอ โดยเมื่อวานนี้ก็มีหมอดูให้ข้อมูลว่า นายสุถิตย์ได้หลงเข้าไปในเมืองลับแล ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในป่าอุทยานแห่งชาติภูเก้า ภูพานคำ และถูกผู้หญิง 2 คน ตัวผอม ผิวคล้ำ ที่เป็นเจ้าเมืองลับแลจับตัวเอาไว้ เนื่องจากก่อนจะหายตัวไป นายสถิตย์ได้พูดจาลบหลู่เจ้าเมืองลับแลว่า "อยากฆ่าตัวตาย" จึงทำให้เจ้าเมืองลับแลไม่พอใจ ตนเองและชาวบ้านจึงบนบานถวายเครื่องคาวหวานให้กับเจ้าเมืองลับแล

ทั้งนี้ หมอดูบอกอีกว่า หลังจากทำพิธีแก้บนถวายเครื่องคาวหวานให้กับเจ้าเมืองลับแลในเมื่อวาน จะทำให้เจ้าเมืองลับแลปล่อยตัวนายสถิตย์ออกมาในวันนี้ ตนรู้สึกมีความหวัง แต่ก็ยังไม่พบตัว

โดยตอนค่ำเมื่อวานนี้ ก็มีเบาะแสจากชาวบ้านว่าเจอตัวนาคสถิตย์ อยู่ที่บ้านโนนสะอาด อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดสูญหายประมาณ 25 กิโลเมตร แต่พอเจ้าหน้าที่ไปตามเบาะแสที่ชาวบ้านแจ้ง โดยดูภาพจากกล้องวงจรเปิดที่ปั๊มน้ำมัน ก็ไม่พบเบาะแสเพิ่มเติม

ล่าสุด วันที่ 21 พ.ค. 63 สัญญาณโทรศัพท์ของนายสถิตย์อยู่ที่บ้านถิ่น และกุฏิในวัดตะเภาทอง ก่อนจะหายออกไปจากวัด และผ่านจุดตรวจคัดกรองโนนหัวช้าง จ.ขอนแก่น ซึ่งจากข้อมูลพบชายรูปร่างคล้ายนายสถิตย์เดินผ่านมา และจุดสุดท้ายวัดศิริมงคล จ.ขอนแก่น พบชายรูปร่างคล้ายนายสถิตย์มานักพักอยู่ในศาลาวัด

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้สภาพจิตใจของตนและครอบครัวก็เริ่มเหนื่อยล้า แต่ก็ยังมีความหวังว่าจะได้เจอตัวนาคสถิตย์อย่างปลอดภัย และเมื่อคืนที่ผ่านมา พี่ชายของนายสถิตย์ก็ได้ฝันว่านายสถิตย์เสียชีวิตแล้ว ซึ่งตนเองก็ขอให้เรื่องนี้เป็นแค่ความฝัน

จากนั้น นางอุไร พร้อมกับชาวบ้านก็ได้พาทีมข่าวเดินเข้าไปในเมืองลับแล ซึ่งตามความเชื่อของชาวบ้านเชื่อว่านาคสถิตย์ยังคงถูกหญิงที่เป็นเจ้าเมืองลับแลจับตัวเอาไว้

โดยเดินเท้าไปตามทิศตะวันตกของกุฏินาคสถิตย์ สภาพเป็นป่ารกร้าง มีต้นไม้อยู่สองข้างทางเดิน และมีหินขนาดใหญ่สองทางเดิน เดินมา 500 เมตร พบต้นไม้ 2 ต้นที่อยู่ขนานกันเป็นคู่ระหว่างทางเดิน ชาวบ้านบอกว่าต้องพนมมือก่อนเข้าสู่ประตูเมืองลับแล ถ้าไม่ขออนุญาตก็จะหลงป่า กลับออกไปไม่ได้

ซึ่งเมืองลับแลมี 3 เมือง เมืองลับแลแห่งแรกมีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่สูงท่วมศีรษะ บริเวณลานหินด้านล่าง มีรอยเท้าประมาณ 4 รอย ขนาดเท่ารองเท้ามนุษย์ เป็นเมืองลับแลชั้นนอก

จากนั้นทีมข่าวและชาวบ้านเดินเท้าต่อไปอีก 300 เมตร พบเมืองลับแลแห่งที่ 2 เรียกว่าเมืองลับแลชั้นใน ลักษณะของเมืองเป็นกอนหินขนาดใหญ่ ด้านในเป็นโพรง ที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นถ้ำลับแล และมีรูปปั้นม้า 2 ตัว อยู่ในถ้ำแห่งนี้

จากนั้นเดินเท้าต่อไปอีก 200 เมตร พบกับเมืองหลวงของเมืองลับแล ลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่สูงประมาณ 3 เมตร และบริเวณผนังหินพบว่ามีรอยแต้มมือสีแดง ประมาณ 20 รอย ลักษณะคล้ายกับรอยที่พบในผาแต้ม จ.อุบลราชธานี ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่ารอยแต้มมือนี้มีมาหลายพันปีแล้ว

นอกจากนี้ญาติผู้หลงป่า ก็ให้ข้อมูลว่า วันที่ 18 พ.ค. 63 นาคสถิตย์บอกว่า "ต้นไม้ข้างกุฏิ 2 ต้น ทำไมสวยจัง สวยจนน่าแขวนคอตายบนนั้น"