เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 66 เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.แอน อายุ 38 ปี เจ้าของร้านคาร์แคร์แห่งหนึ่ง ว่าเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 65 ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ ลูกสาวของ นางมลคา อายุ 27 ปี พนักงานที่ร้านซึ่งเป็นคนกัมพูชา ถูกนาย สมภพ หรือ สิงห์ อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถจยย.รับจ้าง ไปรับ ด.ญ.บี หลังเลิกเรียนก่อนจะพาไปข่มขื่นในป่าข้าง ถ.ภายในซอย รปช. อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม ถึงเดือน กรกฎาคม 65 เข้าแจ้งความจนผ่านไปเกือบครึ่งปีแล้ว ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้
ทุกวันนี้คนร้ายเดินผ่านหน้าบ้านแทบทุกวัน บางทีก็กวักมือเรียกน้องให้ไปหาแต่น้องวิ่งหนีเข้าบ้านทัน ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ปลายบาง นั้น
ล่าสุดวันที่ 21 ม.ค. 66 พ.ต.ท.นิรุทธ์ ช่อผกา รอง ผกก.สส. สภ.ปลายบาง ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า ทราบผลจากแพทย์เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.65 และนัดผู้เสียหายสอบปากคำวันที่ 9 ม.ค.66 แต่ผู้เสียหายไม่ว่างจึงขอเลื่อนเป็นวันที่ 24 ม.ค.66 นั้น ความคืบหน้าวันนี้มีการเรียกผู้เสียหายมาสอบปากมนทันที พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพาเด็กหญิงบี นำชี้ที่จุดก่อนเหตุด้วย มีนางมลคา อายุ 27 ปี แม่เด็กเดินทางไป พร้อมกับนายจ้างอีกคน เป็นผู้ขับรถค่อยถามเด็กว่าเส้นทางไปยังจุดเกิดเหตุที่ไหนอย่างไร
โดยตลอดเส้น และข้อมูลจากนายเอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นนายจ้างของแม่เด็กอีกคน ตรงกันว่าสภาพจิตใจเด็กในตอนนี้ดีขึ้น กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กระยะเวลาก็นานแล้ว แต่ในระหว่างนำชี้ทางเด็กสับสนเล็กน้อย แต่ก็จำจุดที่เกิดเหตุไม่แม่นยำ เพราะตอนถึงจุดที่เกิดเหตุภายในซอย รปช. เด็กชี้และมีอาการเสียง และมือสั่นตลอดเวลา
ทั้งนี้ การนำชี้ใช้เวลานานกว่า 2 ชม. ก่อนพาเด็กมายังโรงพัก แต่ยังไม่ได้มีการสอบปากคำ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนัดหมายสอบปากคำพร้อมสหวิชาชีพในวันที่ 23 ม.ค. 66 ขณะที่ น.ส.แอน เป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูและส่งเด็กหญิงเรียนหนังสือ และสนิทกับเด็กที่มักมีอะไรก็จะเล่าให้ น.ส.แอน ฟังทุกเรื่อง โดยได้ให้ปากคำนานกว่า 3 ชม. ต่อมามีนางมลคา เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนด้วย
นายไกรสร เฮงทอง อายุ 37 ปี วินเพื่อนร่วมงาน เปิดเผยว่าส่วนตัวทำอาชีพวินจยย.รับจ้างมากว่า 10 ปี และร่วมงานกันในขณะที่ลุงมาวิ่งวินเต็มตัวประมาณ 4-5 ปี แต่ตนไม่ได้สนิทถึงขั้นที่จะพูดคุยเรื่องส่วนตัวกัน ซึ่งจากการทำงานร่วมกันมาลุง มีนิสัยเป็นคนนิ่ง ๆอินกับงาน ดังนั้นในเรื่องของงานบริการลูกค้าลุงจะใส่ใจลูกค้าทุกคน และขยันทำงาน โดยจะเข้าวินแต่เช้าและกลับมืดทุกวัน บางวัน 18.00 น. บางวันก็ 19.00 น.
ส่วนเรื่องของน้องก็ทราบว่าคุณลุงบริการน้องรับส่งกันปกติ และลุงมีความเอ็นดูน้องดี แต่ก็ไม่ค่อยได้เห็นพฤติกรรมลุงที่ปฏิบัติกับน้องเพราะว่ามีการไปรับน้องถึงที่บ้าน แต่ทราบว่าน้องคือลูกค้าประจำของลุง และรับส่งกันไม่ถึง 1 เทอมก็เกิดเรื่อง ดังนั้นหลังจากที่ตนทราบเรื่องตอนนั้นช็อกมาก ถึงขั้นนอนไม่หลับ เพราะตนมีลูกผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับน้องผู้เสียหาย และไม่คิดเลยว่าจะเป็นจริง ซึ่งตอนนั้นก็ไม่เชื่อว่าลุงเป็นคนทำ เพราะน้องตัวเล็กมาก และน้องร่าเริงมาขอเงินตนกินขนมวินเป็นประจำ จึงมองว่าเป็นไปไม่ได้ อีกอย่างลุงอายุมากแล้ว น่าจะไม่มีความคิดในเรื่องอย่างว่าแล้ว
ขณะที่คุณลงในช่วงที่ผ่านมาก็ยังขี่รถจักรยานยนต์ผ่าน และแวะมาทักทายเพื่อนที่วินรถจักรยานยนต์อยู่บ้าง แต่ตนเองเมินหน้าหนีไม่อยากจะพูดคุยด้วย แต่จากการสังเกตสีหน้าของลุงมีอาการเครียด ไม่ค่อยพูด และเปลี่ยนไปมาก ๆ กระทั่งวันนี้ผลออกมาว่าข้อเท็จจริงก็ยิ่งช็อก ไปมากกว่าเดิม จุกจนพูดไม่ออกเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อวินพอสมควร แต่ตนเองก็อยากจะบอกว่าวินดี ๆ ก็มี วินไม่ดีก็มีเหมือนคนทั่ว ๆ ไป สุดท้ายก็อยากจะฝากเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกันว่าอาชีพเราเป็นอาชีพบริการ อยากจะให้บริการลูกค้าประทับใจ จะได้มาใช้บริการในครั้งต่อไป ไม่มีการหวาดกลัว สิ่งสำคัญขอร้องวินอย่าไปคิดที่จะกระทำแบบนั้นเลย เพราะเรื่องนี้สังคมไม่ยอมรับ
นายสมภพ แสนสุข อายุ 53 ปี ผู้ถูกกล่าวหา เปิดใจว่า ขอให้มีความเป็นธรรมกับตนเองบ้างเพราะตนเคยขอพูดเจราจา แต่คู่กรณีไม่คุย จะให้รับผิดอย่างเดียว แต่ตนไม่ได้เป็นผู้กระทำ หากยอมรับและตนนั้นสามารถช่วยอะไรได้ก็ช่วย อีกทั้งมองว่าจะมีผลตรวจมาอย่างไร ตนก็ไม่รู้ว่าน้ำอสุจิมาจากตนหรือมาจากคนในคาแคร์ ซึ่งจะให้ตนรับผิด หรือสารภาพได้อย่างไรในเมื่อไม่ทำ อีกทั้งถ้ารับไปก็ถูกตีตราบาป แต่วันนี้หน้าตนลงสื่อไปแล้ว ก็ไม่อาจแก้ต่างได้ และตนก็ไม่มีเงินจ้างทนายความต่อสู้ ส่วนที่ผลตรวจยืนยันมีน้ำอสุจิของตนภายในอวัยวะเพศเด็ก แต่ตนยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ได้กระทำสิ่งนั้น
นายสิงห์ กล่าวถึงที่มาการรับส่งเด็กเป็นประจำว่าแม่เด็กหญิงคนมาติดต่อที่วินขอให้รับส่งลูกสาวไปโรงเรียน ซึ่งมีการถามกันว่าจะเอาเดือนเท่าไร ซึ่งตนเองเห็นเป็นเด็กกัมพูชา จึงคิดแค่วันละ 20 บาท เพราะดูแล้วไม่ค่อยมีเงิน จึงอยากจะช่วยเหลือ อีกครั้งตอนนั้นแม่เด็กมีสามีใหม่มีลูกเพิ่มอีกสองคน ซึ่งในช่วงนั้นก็รับส่งกันไม่ถึงเทอมก็เกิดเรื่อง
ในวันนั้นตนจำวันที่ไม่แม่นยำ ตนเองพาเด็กไปโลตัสจริง เพราะเด็กขอให้พาไปซื้อขนม โดยที่ขี่รถมาถึงบ้านแล้วนึกได้ว่าเด็กขอให้พาไปซื้อขนม ตนเองจึงส่งหลานชาย ก่อนจะบอกเด็กว่า ให้รีบซื้อเดี๋ยวกลับบ้านช้า ซึ่งโดยปกติจะไม่ค่อยพาเด็กออกนอกเส้นทาง โดยหลังจากไปโลตัส จึงนึกขึ้นได้ว่าต้องไปหาดอกอัญชัญให้หลานชาย ต้องใช้ในกิจกรรมโรงเรียน ตนจึงพาเด็กไปหาดอกอัญชัญด้วย ทำให้ตนพาเด็กกลับบ้านล่าช้า และผิดเวลา ยืนยันว่าข้อเท็จจริงมีเพียงเท่านี้จริง ๆ
ทั้งนี้ หากไปให้การก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำถึงจะมีหลักฐานอะไรมายืนยันแต่ขอไม่ยอมรับเพราะรู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องติดคุกอย่างน้อย ๆ คดีแบบนี้ก็ 20 ปี ตนยอมรับสภาพ เพราะเสียไปแล้ว จะรับหรือไม่รับก็ติดคุกอยู่ดี ย้ำว่าเคยร้องขอนายจ้างแม่เด็กที่ไม่ยอมความแล้วว่าอย่าแจ้งความ ไม่อยากให้เอาความ เพราะกลัวเป็นคดีความติดตัว ตอนแรกตนจะยอมรับ แต่ตำรวจถามแล้วว่าทำไมเมื่อวานไม่ยอมรับ ตนเองจึงบอกว่าถ้ารับไปก็ซวย จึงตัดสินใจใหม่ว่าขอให้ศาลพิจารณาดีกว่า
สำหรับตนมาโดนคดีแบบนี้ มีเรื่องเดียวที่อยากพูด อยากถามคู่กรณีว่าคิดอะไรกับตนอยู่ หากตนกระทำจริงก็ต้องถูกจับตั้งแต่ 4-5 เดือนแรกแล้วทำไมเพิ่งจะมาแจ้งความกัน ตนเองไม่เข้าใจในจุดนี้ อีกทั้งรู้ว่าทางวิทยาศาสตร์มันสามารถที่จะดูได้ว่าใครเป็นผู้กระทำใครไม่ได้เป็นผู้กระทำก็ตาม สุดท้ายก็อยากจะฝากเพื่อนเพื่อนวินรถจักรยานยนต์ทุกคนว่าตนทำดีที่สุด
Advertisement