กรณีเฟซบุ๊กของ น.ส.ทราย แฟนสาวของเมย์ลาย กลุ่ม ”น้ำไม่อาบ” มีการลงคลิป ความยาว 1 นาที 47 วินาที เป็นเหตุความวุ่นวายเข้าไปมีปากเสียงกับนักท่องเที่ยวชาวเวียนนาม พร้อมบรรยายตามคลิป ว่า “ปกติพี่เมมันไม่หาเรื่องใครก่อน เห็นมันมาคนเดียว ไม่มีพวก จะว่างขวดเบียร์เสียงดังเดินชนมันยังไงก็ได้หรอ คุณมาที่หลังมานั่งข้าง ๆ เรา ทำตัวกร่าง เสียงดัง 20 กว่ารอบ พวกเยอะจะทำยังไงก็ได้หรอ ไม่มีมารยาทไม่เกงใจคนอื่น พนักงานร้านเดินมาให้ย้ายโต๊ะ แต่ทรายกับพี่เมไม่ย้ายเพราะมาก่อน แล้วกำลังกินอาหาร คุณต้องบอกลูกค้าคุณให้เกียรติโต๊ะอื่น เสียงดังแหกปาก 20 กว่ารอบ แล้วทำตัวกร่างในพื้นที่โต๊ะของเรา ทรายไม่เคยเข้าข้างผัว ถูกผิดว่ากันไปตามน้ำ แต่รอบนี้สมควรแล้ว”
วันที่ 17 พ.ย. 65 น.ส.ทราย แฟนของเมย์ลาย ชี้แจ้งกรณีดังกล่าวทางโทรศัพท์ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้ว่าตัวของเมย์ลายจะปรากฏอยู่ในคลิปแต่เจ้าตัวไม่ขอชี้แจงอะไรทั้งสิ้น ให้ตนเองในฐานะแฟนสาวและคนที่ถ่ายคลิปชี้แจงแทนไปเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตอนที่ตนเองกับเมย์ได้ไปนั่งทานข้าวกันที่ร้านที่เกิดเหตุ ปรากฏว่ามีกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งตอนนั้นยังไม่ทราบว่าเป็นประเทศอะไรได้มานั่งกันก่อน 1 โต๊ะ คือกลุ่มที่ใส่เสื้อสีส้มที่อยู่ในคลิป
จากนั้นก็เริ่มมีการสั่งอาหารและเครื่องดื่มมาดื่มกิน ก่อนที่จะเริ่มส่งเสียงดัง บางคนลุกเดินไปมาแล้วมีการมาโดนไหล่ ของนายเมย์ และตนเอง แต่ก็ไม่มีคำขอโทษเดินผ่านเลยไป ก่อนที่กลุ่มเพื่อนที่เหลือจะตามมาและมานั่งติดกัน ก่อนที่จะส่งเสียงดังมีการวางขวดเบียร์บนโต๊ะ เสียงดังจนนับครั้งไม่ถ้วน มีการชนแก้วคุยกันดังลั่นร้าน ไม่เกรงใจคนอื่น ๆ และมีการชนขวด ชนแก้ว เสียงดังอย่างในคลิป ไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง จนกระทั่งตนเองทนไม่ไหวจึงได้มีการถ่ายคลิปเอาไว้เพื่อเข้าไปเตือน
โดยส่วนตัวในฐานะที่อยู่ในร้านที่เกิดเหตุและเป็นคนถ่ายคลิปเข้าไปตักเตือน ยอมรับว่าพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม มีเจตนาไม่เคารพต่อการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคม และรวมถึงในฐานะที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ประเทศไทย ส่วนตัวก็เข้าใจว่าด้วยการใช้ชีวิตในประเทศของเขานั้น อาจจะมีการใช้เสียงที่ดูเหมือนปกติ แต่ในเมื่อเข้ามาในประเทศไทยก็ควรที่จะเคารพ และให้เกียรติคนอื่นบ้าง โดยในวันดังกล่าวหากตนเองไม่เข้าไปตักเตือนก็เชื่อว่าคงจะไม่มีคำขอโทษ และไม่มีแม้แต่การหยุดเงียบ และที่สำคัญในวันดังกล่าว ไม่ใช่เพียงแค่ตนเองได้รับผลกระทบ ลูกค้าในร้าน รวมถึงเจ้าของร้าน และแม้แต่คนที่ผ่านไปมาก็ยังเกิดความรำคาญตามไปด้วย
และในวันเกิดเหตุ ก็ไม่ได้มีเหตุการณ์ความรุนแรง ซึ่งแม้ว่าเข้าไปตักเตือน แต่หลังจากที่เห็นว่าฝั่งของนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามได้มีการยกมือไหว้ ประกอบกับไกด์ที่มาด้วยมีการพูดเจรจาและขอให้กลุ่มได้เงียบลง ประกอบกับมีการ์ดของตลาดเข้ามาช่วยระงับเหตุ เพื่อไม่ให้มีเรื่องทำให้ทุกอย่างก็จบลง ส่วนตนเองกับนายเมย์ก็เดินทางกลับทันที และสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ยืนยันว่าไม่ได้มีการจะทำผิดถือเป็นการไล่แขก เพราะถือว่ามีการเข้าไปตักเตือนผู้ที่ทำตัวไม่เหมาะสมเสียงดังรบกวนคนอื่นในร้าน และที่สำคัญตัวเองก็ไม่ได้กังวลหรือแคร์ใคร เพราะคนเหล่านั้นก็ไม่ได้มาช่วยตัวเองทำมาหากิน
อย่างไรก็ตามกรณีมีคนแสดงความเห็น มีการนำไปเปรียบเทียบเกี่ยวกับการส่งเสียงดังรบกวนและสร้างความเดือดร้อนรำคาญกรณีการออกทริป “น้ำไม่อาบ” นั้น น.ส.ทราย เผยว่า การออกทริปเป็นการออกกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์หลายคัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เสียงดัง แต่ส่วนตัวก็อยากให้แยกแยะ ว่าการออกทริปกับการที่ไปตักเตือนกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ส่งเสียงดังในร้านอาหาร มันเป็นคนละเรื่องกันอย่านำมารวมกัน
วันเดียวกันนี้ ทีมข่าวเดินทางไปที่ตลาดที่เกิดเหตุตั้งอยู่ในพื้นที่ย่านพระราม9 โดยร้านที่เกิดเหตุเป็นร้านขายอาหารซีฟู้ด ซึ่งอยู่บริเวณโซนด้านหน้าของตลาด พนักงานให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เมื่อวานนี้ได้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามเดินทางมาพร้อมกับไกด์คนไทย ซึ่งมี 2 คน ที่พอพูดภาษาไทยได้ หลังจากที่มานั่งสั่งอาหารซีฟู้ดจากนั้นก็มีการสั่งเครื่องดื่มไปดื่มกินกัน เริ่มที่จะมีการส่งเสียงดัง จนกระทั่งพนักงานในร้านก็ได้เข้าไปเตือนแล้ว แตกก็ยังไม่ลดความดังของเสียงลง ช่วงหนึ่งสังเกตเห็นว่ามีลูกค้าไม่พอใจได้เข้าไปตักเตือน ตนเองก็ไม่คิดว่าจะมีการถ่ายคลิปและนำไปเผยแพร่ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ไม่ได้มีความรุนแรง เพราะเนื่องจากมีการ์ดของตลาดเข้ามาห้าม จากนั้นก็ไม่ได้มีการแจ้งความหรือดำเนินคดีใด เรากลุ่มนักท่องเที่ยวก็เข้าใจว่าอาจจะอยู่ในอาการมึนเมาแล้วส่งเสียงดัง ก็มีการลดระดับเสียงและนั่งดื่มกินกันต่อ แต่ส่วนลูกค้าที่มีการถ่ายคลิปหลังจากที่เข้าไปตักเตือนเสร็จแล้วก็มีการเช็กบิลกลับบ้าน
Advertisement