สืบเนื่องจากกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา วันที่ 1 พ.ย. 65 หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ยานนาวา รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท มีผู้ได้รับบาดเจ็บภายในสวนสาธารณะ ใต้สถานีรถไฟฟ้าตากสิน ถนนสาทร แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ ที่เกิดเหตุพบกองเลือดจำนวนมาก ยาวเป็นทางไปจนถึงสะพานลอยข้ามคลองสาทร ระยะทางประมาณ 100 เมตร
ทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเลิศสิน เป็นหญิง 1 ราย ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนปืนที่ข้อเท้าขวา บาดเจ็บเล็กน้อย และผู้บาดเจ็บผู้ชายจำนวน 2 คน โดยคนหนึ่งอายุ 19 ปี ถูกแทงด้วยกรรไกรเข้าที่หน้าท้องถูกเส้นเลือดใหญ่ อาการสาหัส และอายุ 16 ปี ถูกกรรไกรแทงที่หลังมือซ้าย บาดเจ็บเล็กน้อย และในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ในที่เกิดเหตุยังจับกุมตัวผู้ก่อเหตุให้อาวุธกรรไกรไว้ได้ทราบชื่อ นายเสฏฐวุฒิ มากสม อายุ 20 ปี พร้อมกรรไกรเปื้อนเลือด 1 เล่ม
ต่อมา สน.ยานนาวา ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลเลิดสินว่ามีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 20 คน ขี่ จยย. มาจับกลุ่มหน้าโรงพยาบาล เพื่อมารอแก้แค้นกลุ่มผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่สายตรวจนับสิบนายปิดล้อมหน้าโรงพยาบาล กลุ่มวัยรุ่นต่างแตกย้ายกันหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ก็จับกุมตัววัยรุ่นได้ 2 คน คือ นายตอง (นามสมมติ) และ นายน็อต (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกโม่แบล็งกัน ดัดแปลงพร้อมกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 5 นัด มีดพกยาว 1 ฟุต ถูกใส่ไว้ใต้เบาะ จยย. นำตัวไปสอบสวนที่ สน.ยานนาวา
โดยกล้องวงจรปิดจากมุมที่อยู่ตรงข้ามจุดเกิดเหตุ เห็นการเคลื่อนไหวช่วงที่กลุ่มคนก่อเหตุ และช่วงหลังเกิดเรื่องที่มีการนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล เนื่องจากจุดเกิดเหตุนั้นจะอยู่ภายในสวนสาธารณะ ห่างจากกล้องที่ทีมข่าวได้มาประมาณ 300 เมตร ต้องมีการข้ามสะพานใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสะพานตากสิน
ช่วงเวลา 18.27 -18.30 น. เห็นว่าเริ่มมีชายและผู้หญิงแต่งกายในชุดนักเรียนและชุดนอก ขับรถมาและจอดก่อนจะมีการพูดคุยและเดินข้ามสะพานไปยังจุดเกิดเหตุ คาดว่าเป็นกลุ่มของคนก่อเหตุหรือฝั่งคลองเตย
ต่อมาเวลา 18.31 น. เห็นว่าเริ่มมีการเดินข้ามไปยังจุดเกิดเหตุ คาดว่าเป็นช่วงที่มีการก่อเหตุภายในสวนสาธารณะ ก่อนที่เวลา 18.32 น. มีการวิ่งออกมาของกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 ฝั่ง ตลอดจนยังมีในส่วนของน้องผมสั้นใส่ชุดสีดำ เป็นบุคคลที่ได้รับลูกหลงเดินลูบคอมาตามที่ปรากฎในคลิป เวลา 18.36 น. คนในพื้นที่เริ่มเห็นความผิดปกติ มีการเข้าไปดู ตลอดจนมีหารส่องไฟช่วยเหลือ และเป็นช่วงที่รถพยาบาลเข้ามาในพื้นที่ มีการรับตัวผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลต่อไป
ล่าสุดที่ สน.ยานนาวา ตำรวจชุดสืบสวนแจ้งว่าในส่วนของผู้ก่อเหตุมือยิง ตำรวจได้ทราบชื่อและข้อมูลแล้ว แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เนื่องจากชายคนดังกล่าวนั้นอายุ 16 ปี เป็นเยาวชน อยู่ในช่วงติดตามตัวคาดได้ตัวในเร็ววันนี้ ขณะที่ในส่วนของนายตอง อายุ 17 ปี และ นายน็อต อายุ 20 ปี นั้น ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นชุดหลังที่สามารถคุมตัวได้ในบริเวณหน้าโรงพยาบาล พร้อมอาวุธปืนและมีด ยอมรับว่า 2 คน ดังกล่าวเป็นกลุ่มเพื่อนของผู้ก่อเหตุ
โดยที่ทางเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายตองไว้ในห้องขัง ข้อหาพกพาอาวุธปืนติดตัวในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ขณะที่ทางนายน็อตนั้นได้ทำเรื่องประกันตัวไปในข้อหาพกพาอาวุธมีด
เวลา 10.00 น. นายสมควร (นามสมมติ) พ่อของนายตอง เยาวชนอายุ 17 ปี หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุที่โดนจับกุมอาวุธปืนเมื่อคืนนี้ บริเวณหน้าโรงพยาบาลเลิดสิน เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์เมื่อคืนนั้นเบื้องต้นลูกของตนไม่ใช่คนก่อเหตุ และไม่ใช่มือปืน แต่เหตุการณ์ทั้งหมดที่เขาเองโดนจับนั้นเพราะว่าเมื่อวานประมาณ 20.00 น. กว่า ขณะที่ตนนั่งอยู่ที่บริเวณหน้าวินปากซอยบ้าน ทางลูกชายของตนที่อยู่กับนายน็อต ซึ่งเป็นเพื่อนที่มาจากพระประแดง ได้ขับรถออกจากบ้านไปกัน 2 คน โดยที่ไม่ได้บอกว่าไปไหน
แต่ตนมาทราบภายหลังว่าเหมือนทางแก๊งคนก่อเหตุที่อยู่ย่านคลองเตยที่รู้จักกับทางนายน็อต ได้โทรมาตามว่าเพื่อนมีเรื่องให้ออกไปหาหน่อย ทางนายน็อตเลยตัดสินใจชวนทางนายตอง ลูกชายของตนออกไป ก่อนจะไปโดนจับที่หน้าโรงพยาบาลเลิดสิน ส่วนรายละเอียดว่าใครทะเลาะกับใคร ในส่วนนี้ตนไม่ทราบ แต่ในช่วงที่เกิดเหตุยืนยันว่าลูกชายตนไม่ได้อยู่ เพิ่งจะตามไปทีหลัง ส่วนเรื่องปืนนั้นตนเองก็เพิ่งทราบว่าลูกชายตนมีปืน จากการสอบถามเขาเองยอมรับว่าเขาขื้อปืนมาจากทางเพจออนไลน์ในเฟซบุ๊ก อามาเพื่อป้องกันตัว เนื่องจากก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ปีก่อนลูกชายของตนก็มีเรื่องเกี่ยวกับชกต่อยและใช้อาวุธมีดไปฟันคู่กรณีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส กำลังจะขึ้นศาลเยาวชนในข่วงวันที่ 8 พ.ย. 65 แต่กลับมาเกิดเรื่องนี้เสียก่อน
ตนไม่ทราบว่าทำไมลูกชายของตนพกปืนไป ขณะที่ในส่วนของนายน้อตเอง หลังเกิดเรื่องก็โดนแจ้งข้อหาพกพาอาวุธมีดก่อนจะประกันตัวออกไป และขับรถคันที่โดนจับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านตนก่อนจะหลับบ้านไป โดยที่ไม่บอกตนสักคำ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองไม่เข้าข้างลูกชายเเน่นอน หากผิดก็ว่าไปตามผิด ตนเองก็พยายามสอนและเตือนเขาหลายรอบแล้ว แต่เขาทำตัวเขาเอง ขณะที่หลายคนมองว่าการไปดักรอหรือดักหาเรื่องคู่กรณีที่โรงพยาบาลนั้นอาจจะไม่เหมาะสม และดูไม่ดี ในส่วนนี้ตนก็คิดเช่นกัน เนื่องจากมีข่าวหลายกรณีแล้วที่มีการบุกไปทำร้ายคนเจ็บที่โรงพยาบาล เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ตนไม่ขอเข้าข้างลูก อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
"ถ้าเขาก่อเหตุก็ต้องรับโทษไปตามกฎหมาย การบุกจะไปทำร้ายอีกฝั่งถึงโรงพยาบาลหากลูกทำจริง ก็ไม่สมควรเป็นอย่างมาก คุณกล้าทำก็ต้องยอมรับ สุดท้ายแม้เขาผิดจริง คนเป็นพ่อยังไงก็ยังรักลูกเสมอ"
นายสายธาร อายุ 17 ปี รุ่นพี่ของเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า เหตุการณ์เมื่อวานนี้ตนเองก็อยู่ในข่วงที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุประมาณ 18.00 น. ตนเองไปนั่งเล่นพร้อมเพื่อนที่สวนสาธารณะที่เกิดเหตุ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ทราบจากเพื่อนว่าจะมีการนัดเคลียร์ปัญหากัน ระหว่างกลุ่มเด็กพระราม 3 และเด็กคลองเตย กรณีเรื่องชู้สาว แต่รายละเอียดนั้นตนไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร ทั้งคู่มีการโพสต์ด่ากันผ่านทางเฟซบุ๊กมาก่อนแต่ได้ลบไปแล้ว
ช่วงที่ตนเองเดินทางไปถึงกลับพบว่ามีกลุ่มเด็กพระราม 3 รออยู่ที่เกิดเหตุ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงและมีผู้ชายไม่ถึง 5 คน หลังจากที่นั่งเล่นกันได้สักพัก ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงก็มีกลุ่มเด็กคลองเตยประมาณ 7-8 คน มาที่เกิดเหตุ ไม่พูดจาอะไร แต่ลงมือยิงกลุ่มเด็กพระราม 3 ประมาณ 3-4 นัด จากนั้นก็เกิดการชุลมุนแยกย้ายหลบหนี จนมารู้ที่หลังว่าตนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณลำคอ 2 จุด รวมทั้งบริเวณต้นขาขวา จากสะเก็ดกระสุน อีกทั้งตอนนั้นตนเองไม่ทราบว่าเป็นฝั่งผู้ชายหรือผู้หญิงที่เป็นคนยิง แต่มีทั้งมีดและปืน ตลอดจนยืนยันว่าฝั่งคลองเตยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
ส่วนสาเหตุทราบว่ารุ่นพี่ผู้หญิงของเด็กพระราม 3 สั่งให้รุ่นน้องผู้ชายไปหลอกล่อชักชวนให้ผู้หญิงซึ่งเป็นคู่กรณีทางฝ่ายคลองเตยออกมาเพื่อเคลียร์ปัญหาเรื่องชู้สาว แต่ฝั่งเด็กคลองเตยทราบเริ่องก่อน จึงมีการนัดหมายกลุ่มเพื่อนคลองเตย พร้อมนำอาวุณปืนเข้ามาก่อเหตุดังกล่าว อีกทั้งที่ผ่านมาตนเองก็เคยมีปัญหากับกลุ่มเด็กคลองเตย หรือหญิงสาวคู่กรณีคนนี้ เพราะมีพฤติกรรมเรื่องชู้สาวมาโดยตลอด ส่วนตัวหลังจากนี้อาจจะต้องระวังตัวมากขึ้น และอาจจะเว้นช่วงที่จะไม่ไปนั่งบริเวณดังกล่าว ย้ำว่าเด็กคลองเตยเองที่มาก่อเรื่อง ส่วนตัวไม่คุ้นหน้าและไม่เคยเจอมาก่อน
Advertisement