ไทยฉาว! แหม่มถูกตีหัวลากเข้าป่าหวังปล้ำ เหยื่อดิ้นสู้หนีระทึก อมรินทร์รุดดูเจอเหยื่อเพิ่มอีก (คลิป)

จากกรณีนาง Elena Zyalkova อายุ 38 ปี ชาวรัสเซีย ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายขณะวิ่งออกกำลังกาย และได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะแตก บริเวณลำคอมีรอยเขียวช้ำ ตามร่างกายมีบาดแผลถลอก สวมชุดวิ่งออกกำลังกาย เหตุเกิดภายในคันแดมป์อ่างเก็บน้ำมาบประชัน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

วันที่ 19 พ.ค. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ เป็นอ่างเก็บน้ำมาบประชัน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยด้านในจะเป็นพื้นที่สำหรับอนุญาตให้ประชาชนและชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเข้าไปใช้สำหรับการออกกำลังกาย มีชาวบ้านมาเริ่มออกกำลังกายตั้งแต่ช่วงเวลา 15.00-22.00 น. แต่เรื่องของระบบไฟสองสว่างจะมีเพียงแค่สันเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำ ส่วนจุดอื่นจะมีไฟติดค่อนข้างบางตา และด้านในอ่างเก็บน้ำจะมีบ้านพักของพนักงานจ้างของกรมชลประทาน เป็นโรงเก็บเครื่องมือของกรมชลประทานอีกส่วนหนึ่ง

บริเวณที่เกิดเหตุแม้ว่าจะผ่านไปหลายชั่วโมง และเมื่อคืนก็ยังมีฝนตกหนักลงมาในพื้นที่ แต่ยังมีกองเลือดกองใหญ่อยู่บริเวณกลางถนนลาดยาง จากนั้นจะมีรอยหยดเลือดเป็นทาง ลักษณะถูกลากเข้าไปที่พงหญ้าข้างทาง จากแนวของริมถนนเข้าไปบริเวณด้านในพงหญ้า จะเห็นเป็นลักษณะต้นหญ้าล้มเป็นแนวทาง ลึกเข้าไปประมาณ 10 เมตร และยังมีต้นไม้บางช่วงกิ่งหัก และมีหยดเลือดของแหม่มสาวติดที่ใบไม้ แต่เมื่อถึงจุดสิ้นสุดที่ถูกลากเข้าป่า ไม่มีร่องรอยเป็นหญ้าล้มแนวกว้างคล้ายกับคนต่อสู้กัน เป็นเพียงแค่ทางแนวยาวล้มเข้าไปเท่านั้น

และจากจุดที่เกิดเหตุ ยังสังเกตว่าจะมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งร้านขายของอยู่ห่างออกไปไม่ถึง 15 เมตร แต่ในช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นช่วงที่ก่อนฝนตก กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าได้กลับบ้านก่อนเวลาประมาณ 19.00 น. จึงทำให้เป็นช่วงรอยต่อที่คาดว่าคนก่อเหตุสามารถมาดักรอได้

ตรวจสอบกล้องวงจร บริเวณทางเข้าออกด้านหน้าติดกับถนนหมายเลข 3240 ซึ่งมีร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนอยู่บริเวณทางเข้าออก คืนวันเกิดเหตุ 15 พ.ค. เวลาประมาณ 20.55 น. จะเห็นว่ามีผู้หญิงวิ่งออกจากประตูของอ่างเก็บน้ำมาบประชัน ลักษณะโบกมือไปมาคล้ายขอความช่วยเหลือ ก่อนที่จะวิ่งมาหยุดอยู่ที่เกาะกลางถนน และรอช่วงจังหวะที่รถวิ่งผ่านเพื่อจะวิ่งข้ามมาอีกฝั่งแล้วมาเจอกับกลุ่มพลเมืองดีที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

กล้องบริเวณฝั่งตรงข้าม เห็นช่วงที่แหม่มสาววิ่งมายืนอยู่เกาะกลาง โบกมือเพื่อขอความช่วยเหลือ ก่อนที่จะมีพลเมืองดีเป็นผู้ชาย 3 คน เข้าไปสอบถาม เรียกให้มานั่งรออยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสากู้ภัยเข้ามาถึงที่เกิดเหตุ นำตัวแหม่มสาวส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา

นายพัฒน์ (นามสมมติ) พลเมืองดีที่เข้าไปช่วยเหลือแหม่ม เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนเองนั่งอยู่ที่ร้านค้าฝั่งตรงข้าม เห็นแหม่มสาววิ่งออกมาจากประตูอ่างเก็บน้ำ มองเห็นว่ามีลักษณะคล้ายรอยเลือดอาบท่วมตัว จึงได้ตะโกนเพื่อให้ข้ามถนนมาอีกฝั่ง แต่เมื่อเข้าไปสอบถามรายละเอียดเจ้าตัวไม่สามารถที่จะให้การอะไรได้ พูดเป็นภาษาอังกฤษ บอกแต่ว่ามีคนทำร้าย ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าใครทำร้าย และไม่รู้ว่าพฤติกรรมเป็นอย่างไร เมื่อทุกคนพาเจ้าตัวมานั่งรอรถกู้ภัยอยู่ฝั่งตรงข้ามแล้ว ตนเองจึงได้ขับย้อนเข้าไปดูภายในอ่างเก็บน้ำ ปรากฏว่าเห็นผู้ชายคนหนึ่งวิ่งออกกำลังกายอยู่ในละแวกแถวนั้น แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นผู้ต้องสงสัยหรือไม่ ซึ่งก็ให้เป็นไปตามการตรวจสอบของตำรวจชุดสืบสวนที่กำลังมีการลงพื้นที่

แต่เมื่อตนเองไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุ สังเกตเห็นว่าบนพื้นจะมีกองเลือดของแหม่มสาวตกอยู่ แล้วมีลักษณะเหมือนย่าล้มถูกลากเป็นทางยาวเข้าไป ตนเองจึงเข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์เดียวกันกับที่โดนทำร้าย จึงได้ย้อนกลับมาถามเจ้าตัว ซึ่งแหม่มสาวก็ตอบแต่ว่าถูกคนทำร้ายตีหัวโดยกะทันหัน จำไม่ได้ว่าใครเป็นคนกระทำ และไม่รู้อาวุธที่ใช้ จากนั้นตนเองก็ได้ส่งตัวให้กับกู้ภัยและตำรวจนำไปสอบสวนเพื่อตามหาเบาะแสของคนก่อเหตุต่อไป

สำหรับพื้นที่อ่างเก็บน้ำมาบประชัน ยอมรับว่าก่อนหน้านี้จะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ที่ป้อม แต่หลังจากช่วงโควิด มีการเปิดพื้นที่ให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ ก็มีการเปิดให้เข้าออกตลอดเวลา ไม่มีการตรวจสอบรถเข้าออกและไม่มีพนักงานรักษาความปลอดภัย ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวก่อนหน้านี้ช่วงปลายปี 2564 ก็มีผู้หญิงเคยถูกทำร้ายจากการจี้ชิงทรัพย์ โดยมีลักษณะการถูกทำร้ายทุบตีคล้ายกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าจนถึงปัจจุบันจับตัวคนร้ายได้แล้วหรือไม่ ดังนั้นตนเองอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาสอดส่องดูแล และดูแลความปลอดภัยให้กับชาวบ้านรวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาออกกำลังกายบริเวณอ่างเก็บน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก

นางสาวดาริน (นามสมมติ) ชาวบ้านที่ออกกำลังกายบริเวณอ่างเก็บน้ำมาบประชัน เปิดเผยว่า เมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว ตนเองยืนซื้อน้ำเปล่าอยู่บริเวณทางเข้าของอ่างเก็บน้ำ ตอนนั้นสังเกตเห็นว่ามีอะไรรถมอเตอร์ไซค์ของชายปริศนา คาดว่าเป็นชาวไทยผิวสีดำแดง สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ลักษณะจอดรอและมองความเคลื่อนไหว เดาว่าตนเองกำลังซื้อน้ำเพื่อเตรียมที่จะไปวิ่งออกกำลังกาย หลังจากที่ตนเองกำลังมีการจ่ายเงินนั้น ปรากฏว่าชายต้องสงสัยได้ขับรถเข้าไปภายในอ่างเก็บน้ำ เหมือนมีลักษณะดักรอระหว่างทางที่กำลังจะวิ่งผ่าน ในช่วงจังหวะที่ตนเองวิ่งภายในอ่างเก็บน้ำ เห็นจอดอยู่แต่ตัวคนหายไป

ตนเองก็วิ่งอยู่บริเวณสันอ่างเก็บน้ำวนไปมา เห็นชายคนดังกล่าวกลับมานั่งคอมรถลักษณะดักรออยู่ด้านหน้า ตนเองจึงได้รีบเปลี่ยนเส้นทางวิ่งในจุดอื่น แล้วไปขอความช่วยเหลือกับฝรั่งผู้ชาย ซึ่งพาหมาออกมาวิ่งออกกำลังกาย ในตอนนั้นตนเองก็เห็นท่าไม่ดีจึงพยายามขอให้ฝรั่งผู้ชายคนดังกล่าวอยู่เป็นเพื่อน ให้รู้ว่าตนเองปลอดภัย จึงจะยอมออกจากอ่างเก็บน้ำ เหตุการณ์ครั้งนั้นตนเองก็เชื่อว่าชายปริศนาจงใจที่จะตามประกบ ก่อเหตุเรื่องของทรัพย์สิน รวมทั้งอาจจะเรื่องอื่นที่เกี่ยวกับเรื่องเพศก็ได้

ส่วนตัวก็ไม่คิดว่าหลังจากเหตุการณ์ของตนเองแล้วจะมีแหม่มสาวชาวรัสเซียถูกทำร้าย ส่วนตัวในฐานะที่ชื่นชอบในเรื่องของการออกกำลังกายและมาใช้พื้นที่ตรงนี้ อยากจะให้หน่วยงานเข้ามาสอดส่องดูแล มีการติดตั้งไฟส่องสว่างและกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม รวมทั้งอาจจะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยเข้ามาตรวจสอบบุคคลเข้าออก

ขณะที่ความคืบหน้าทางคดี ทีมข่าวตรวจสอบไปยังโรงพักหนองปรือ ทราบข้อมูลจากผู้กำกับว่า เบื้องต้นตัวของผู้เสียหายหลังจากได้รับการรักษาและออกโรงพยาบาลแล้ว ยังมีการให้ปากคำวกวนไปมา รู้แต่ว่ามีคนดักทำร้าย และลากเข้าไปในโพรงหญ้า แต่ยังไม่สามารถที่จะระบุรูปพรรณสันฐาน ลักษณะของพฤติกรรมการก่อเหตุได้

ทั้งนี้ ได้มีการสั่งการให้ชุดสืบสวนได้มีการแกะรอยจากกล้องวงจรปิด บริเวณทางเข้าออกของอ่างเก็บน้ำ เพื่อที่จะเก็บรถและบุคคลที่ผ่านเข้าออกในช่วงเวลาก่อนและหลังเกิดเหตุ ตรวจสอบเบื้องต้นก่อนที่จะได้รับคำให้การจากผู้เสียหาย