นโรดม แพน โมนิกา หญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าทหารไทย ไหว้ขอความเมตตา
นโรดม แพน โมนิกา หญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าทหารไทย ไหว้ขอความเมตตา อ้างถูกคนไทยไล่ ทั้งที่อยู่แผ่นดินเขมร ขณะที่เพจดังชี้ เจ๊ผิดกฎหมายไทยเต็มๆ
จากกรณี นโรดม แพน โมนิกา หลานของสมเด็จสีหนุ ซึ่งเป็นบุตรสาวของศาสตราจารย์ดุริยดนตรี แก้ว แผน หญิงชาวกัมพูชาที่เข้ามาชี้หน้าด่าทอทหารไทย ในเขตพื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จนทำให้เกิดความวุ่นวาย เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุดโลกโซเชียลได้โพสต์คลิปหญิงกัมพูชาคนดังกล่าว ที่ออกมากล่าว “ขอสวัสดีพี่น้องอีกครั้ง ตามเหตุที่เกิดขึ้น ฉันและพี่น้อง พร้อมเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศไม่เคยเห็น ปราสาทตาเมือนธม เขาอยากมาดูปราสาท แต่ตนเองเคยมาแล้วกับบริษัทครั้งหนึ่งแล้ว เคยออกวิดีโอ”
“ส่วนสาเหตุ มาจากเสื้อตัวนี้ที่มีรูปปราสาทเขาพระวิหาร และผ้าขาวม้าผืนนี้ที่มีรูปธงชาติกัมพูชา ทหารไทยไม่ให้ขึ้นไป ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเคยมาแล้ว และทหารเขมรก็บอกตนตั้งแต่ข้างล่างแล้วว่าอย่าไปก่อปัญหา”
“พอไปถึงปราสาท ตนก็นั่งคอยอยู่ข้างล่าง ให้แต่เพื่อนๆ ขึ้นไปบนปราสาท จากนั้นก็มีคนไทย 2 คน มายืนคุยกันบริเวณนั้นว่าแผ่นดินตรงนี้เป็นของไทย ตนฟังภาษาไทยออก ตนก็เงียบไม่ได้พูดอะไร ไม่อยากให้มีปัญหา อยากให้คุยกันอย่างสันติวิธี”
“จากนั้นสักครึ่งชั่วโมงได้ ก็มีคนเชื้อชาติไทยมาไล่ตนว่าให้ไป ตรงนี้เป็นแผ่นดินไทย ให้ไปอยู่ตรงนั้น ตนจึงตอบไปว่าตนก็อยู่ที่ตีนปราสาทของตน ไม่ได้อยู่บนแผ่นดินไทย ทำไมถึงได้มาไล่ ไล่แล้วไล่อีก”
“และก็ช่วยเมตตา อย่าเอาวิดีโอของตนเองไปตัดต่อให้ตนเสียหาย ทั้งหมดไม่ใช่การแสดงทั้งสิ้น ตนส่งเสียงดังพี่น้องทหารเขมรเลยพากันวิ่งมาดู”
โดย นโรดม แพน โมนิกา พูดไปพร้อมกับยกมือไหว้ไป
ขณะที่เฟซบุ๊กเพจ “ชุมชนคนสุรินทร์” โพสต์ข้อความระบุว่า “เข้าข่ายหรือไม่? การที่เจ๊เข้ามาเที่ยว แล้วชี้หน้าด่าทหารไทยในราชอาณาจักรไทย จะมีความผิดเข้าข่าย มาตรา 136 ผู้ใดดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
[อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ.2560]
“มาตรา 393 อาญา” คือหนึ่งในมาตราของประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “ผู้ใดดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
[อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ.2558] หรือไม่?
Advertisement
