กระแสวิจารณ์ถึงคอนเทนต์ของ "นารา เครปกะเทย" ที่ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอประชาสัมพันธ์ แคมเปญ LAZADA 5.5 เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 65
นารา เครปกะเทย ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า ในส่วนของแอปฯที่ได้จ้างนาราทำงานการโปรโมตโฆษณา ซึ่งงานที่ได้มานั้นคือละครที่นาราจะเสนอออกมา เนื้อเรื่องท่านแม่มาขโมยของนาราและจับตัวไม่ได้สรุป ท่านแม่เป็นคนเอาไปและจุดพีกคือแม่เดินได้ นี่คือบทละครที่ทำมา ไม่มีเจตนาหรือล้อเลียนใครในส่วนของคลิป พูดจริง ๆ สาบานว่าไม่ได้จะพาดพิงใคร และคิดว่าการแสดงแบบนี้นาราก็ไม่ได้ทำคนเดียว ยังมีอีกหลายตัวละครที่เล่าบทนี้
โดยทางแอปฯไม่ได้มีส่วนในการบรีฟงานในครั้งนี้ และงานนี้เป็นงานเร่งด่วน นาราให้หนูรัตน์ได้ถ่ายด้วย ถ้าในส่วนของคลิปนาราตั้งใจที่จะล้อเลียนใคร นาราจะเอามัมดิวมาถ่ายคลิปด้วยแล้ว แต่นี่เจตนาของนาราคือหนูรัตน์ที่เล่นเป็นแม่และขโมยของแค่นั้น ส่วนประเด็นเรื่องกระแสโจมตีไปถึงลาซาด้า ถ้าจะแบนให้แบนตัวนารา ไม่ต้องแบนลาซาด้า เพราะทางแอปฯไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ล่าสุด ลาซาด้าออกเอกสารชี้แจง ระบุว่า บริษัทลาซาด้าขอใช้โอกาสนี้ในการขออภัยต่อความผิดพลาดที่เกิดจากการผลิตและเผยแพร่เนื้อหาวิดีโอโดยอินฟลูเอนเซอร์ นาราเครปกะเทย บนโซเชียลมีเดีย เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 เราเข้าใจดีว่าเนื้อหาดังกล่าวสร้างความกระทบกระเทือนจิตใจต่อสังคมและลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ ทันทีที่เรารับทราบถึงคลิปดังกล่าว เราได้มีคำสั่งให้ถอดคลิปดังกล่าวออกทันที เพราะเนื้อหาและข้อความเป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักการทำงานและความเชื่อของลาซาด้าในการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ให้ความเคารพต่อกันและกัน และไม่แบ่งแยก
แม้ว่าทางบริษัท อินเตอร์เซคท์ ดีไซน์ แฟคทอรี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนที่ดูแลการจัดการด้านอินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงคุณนาราเอง จะได้ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อสาธารณชน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมแล้วก็ตาม แต่เหตุการณ์ที่ผิดพลาดอย่างรุนแรงในครั้งนี้เป็นผลมาจากความไม่รอบคอบของทางลาซาด้าอย่างปฏิเสธไม่ได้ หากเนื้อหาในวิดีโอดังกล่าวได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน วิดีโอนี้จะไม่ได้รับการเผยแพร่อย่างเแน่นอน เนื่องจากมีเนื้อหาที่ขัดต่อหลักการที่ลาซาด้ายึดถือ
ลาซาด้าขอแสดงความเสียใจอีกครั้งต่อความผิดพลาดและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เราได้ใช้เวลาในการตรวจสอบเรื่องนี้โดยละเอียด รวมถึงทบทวนและน้อมรับคำแนะนำและเสียงสะท้อนที่ได้รับจากทุกภาคส่วน ทีมงานของบริษัทลาซาด้า ขอใช้พื้นที่นี้ในการขอโทษและแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่อสังคม รวมถึง ลูกค้า ผู้ขาย และพาร์ทเนอร์ของเรา
ท้ายที่สุดนี้ เราจะปรับปรุงการทำงานและกระบวนการให้รัดกุมยิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต
ส่งผลให้ บริษัท อินเตอร์เซคท์ ดีไซน์ แฟคทอรี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเอเจนซี่ ออกแถลงการณ์ระงับคลิปดังกล่าวด่วยเช่นกัน ระบุว่า "จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอเพื่อประชาสัมพันธ์ แคมเปญ Lazada 5.5 เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 โดยบริษัท อินเตอร์เซคท์ ดีไซน์ แฟคทอรี่ จำกัด ซึ่งได้รับมอบหมายจากบริษัท Lazada ให้เป็นผู้ประสานงานและติดต่อจัดทำคลิปโปรโมทแคมเปญ โดยหนึ่งในคลิปที่ได้ทำการเผยแพร่ออกไปผ่านทางบัญชี นาราเครปกะเทย ได้นำเสนอภาพที่ไม่เหมาะสมและกระทบต่อความรู้สึกของผู้ที่ได้รับชมคลิปดังกล่าว
บริษัท อินเตอร์เซคท์ ดีไซน์ แฟคทอรี่ จำกัด ในฐานเป็นผู้รับผิดชอบในการติดต่อและประสานงานการแต่เพียงผู้เดียวมีความเสียใจเป็นอย่างมาก ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขออภัยต่อความรู้สึกของคนสังคม และบริษัท Lazada ถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น โดนทางบริษัท อินเตอร์เซคท์ ดีไซน์ แฟคทอรี่ จำกัด ขอน้อมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว และได้เร่งดำเนินการระงับการเผยแพร่คลิปดังกล่าวทันที
บริษัทฯ ยืนยันว่า ไม่ได้มีความตั้งใจหรือเจตนาอื่นใดในการล้อเลียนพฤติกรรมหรือสภาพร่างกาย หรือเชื่อมโยงพาดพิงถึงบุคคลและสถานการณ์ต่าง ๆ ทางบริษัทฯ ใคร่ขอน้อมรับทุกคำแนะนำเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขในการผลิตงานครั้งต่อไป ให้มีความเหมาะสมและให้ความสำคัญกับเนื้อหาและรายละเอียดอย่างรอบคอบ และกราบขออภัยสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้"
วันที่ 6 พ.ค. 65 ที่หน้าศูนย์การค้าดิเอ็มควอเทียร์ ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ นายนพดล พรหมภาสิต เลขาธิการศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) นำเครือข่ายที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบันฯ รวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือถึงผู้บริหารลาซาด้า (Lazada) ที่มีสำนักงานใหญ่ในอาคารภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ ทวงถามความรับผิดชอบ กรณีทำการตลาดสร้างความแตกแยกของผู้คนในสังคม ระหว่างนั้นมีบุคคลที่ระบุว่าเป็นตัวแทนของลาซาด้าลงมารับหนังสือ แต่ผู้ชุมนุมได้ปฏิเสธ และขอพบผู้บริหารระดับที่สูงกว่านี้ ทั้งนี้ ไม่พบว่ามีผู้บริหารลาซาด้าลงมาพบผู้ชุมนุมตามที่ร้องขอ กลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้ตัดสินใจฉีกหนังสือ ก่อนจะแยกย้ายออกจากพื้นที่
ขณะที่ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางมาที่บ้านของหนูรัตน์ ใน ต.บ้านยาง อ.เสาไห้ จ.สระบุรี พ่อของหนูรัตน์ บอกว่า ที่เกิดเหตุดังกล่าวนั้นเนื่องจากเสียใจมาก และไม่ทราบว่าคนที่พาไปแสดงนั่งวิลแชร์แต่งชุดไทย ทำไมถึงทำแบบนี้ ทำให้เกิดเรื่องกับน้องและมีคนมาต่อว่าเป็นจำนวนมาก ไม่คิดว่าจะนำไปเป็นภาพแบบที่ดูไม่ดีกับสังคม จึงอยากให้ผู้ที่พาไปนั้นรับผิดชอบ รวมทั้งในการพาหนูรัตน์ไปทำงานนั้นรู้เพียงแต่ว่าได้ค่าตัว 5,000 บาท เท่านั้น และมีคนติดต่อไป
หลังจากนั้นพอมีภาพออกมาก็รู้สึกตกใจ และต้องขอโทษทางสังคมด้วย ส่วนเรื่องนี้ที่เกิดขึ้นต้องออกมารับผิดชอบ เนื่องจากทำให้ลูกเกิดความเสียหาย และกลัวว่าจะไม่มีการแสดงที่ไหนได้อีก หากมีกระแสดราม่าเกิดขึ้นแบบนี้
นอกจากนี้ ลีน่าจัง ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านไลฟ์ถึงเรื่องดังกล่าว แสดงความเป็นห่วงถึงมัมดิว ที่มีการแต่งชุดไทยในคอนเทนต์ว่าอาจจะไม่เป็นเรื่องที่ดี เพราะอาจจะมีคนที่ไม่ชอบอยากไปพบตัว แต่แม้การการทำดังกล่าวจะพึงทำได้โดยไม่ผิดกฎหมายก็ตาม
ด้านเฟซบุ๊ก "มัมดิวไดอารี่" โพสต์ข้อความระบุว่า "วันนี้คุณแม่ก็มาแถลงในตีมคุณกมลา Live & Learn... ค่ะ สำหรับโฆษณาแอพดัง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณแม่นะคะ ใครโยงว่าเค้าจ้างคุณแม่ ขออนุญาตไล่ฟ้องหมด ข้อหาทำเสื่อมเสียชื่อเสียง ฝากลูกๆแคปมาด้วยนะคะ
ส่วนกรณีเซรั่มน้องนารา... คุณแม่ไปรับเซรั่ม ในฐานะผู้ถูกจ้างนะคะ ใครเขียนโพสทำให้เข้าใจผิด ว่าคุณแม่ เป็นคนจ้างหรือคนต้นเรื่อง คุณแม่จะไล่ฟ้องเช่นกัน ฝากลูกๆทุกคนทำหน้าที่ ดังนี้
1. แคปหน้าจอและโพส ที่ยั่วยุ ก่อนให้เกิดความเสียหายตามประเด็นดังกล่าว
2. Copy URL link ทั้งโพสต์และ Facebook ของคนๆนั้นแนบมาด้วยนะคะ
3. หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมเช่นชื่อจริง เบอร์โทร ก็ส่งมา
ส่งมาที่ Inbox เพจมัมดิวไดอารี่ จะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องอย่างเร็วที่สุด
ด้านบิลลี่ โอแกน โพสต์ข้อความว่า "มัน-ยำต่ำช้าจริงๆ รับไม่ได้ โกรธมาก ขอต่อต้านอย่างถึงที่สุด !"
ด้านเฟซบุ๊ก "Atom SP" โพสต์ถึงดังกล่าวว่า "สถาบันหรือราชวงศ์จักกรีไปทำอะไรให้พวกคุณครับ พวกคุณถึงทำคลิปไปแซะสถาบันหรือราชวงศ์จักกรีครับ พวกคุณเคยทำอะไรเพื่อแผ่นดินนี้ที่คุณเหยียบยืนอยู่บ้างครับ ถ้าพวกคุณไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเท่าพระองค์ท่าน พวกคุณอย่าไปแซะพระองค์ท่านและราชวงศ์จักรีเลยครับ มันดูไม่ดีกับพวกคุณและวงศ์ตระกูลพวกคุณถ้าไม่ห่วงตัวเองก็หัดห่วงวงศ์ตระกูลตัวเองบ้างครับ สิ่งที่พวกคุณได้ก็ได้แค่ให้พวกคุณเองมาชื่นชมกัน ผมดูแล้วอย่างพวกคุณจนวันสุดท้ายของชีวิต พวกคุณก็ยังไม่สามารถเป็นผู้นำสังคมไทยในด้านดีๆและเป็นประโยชน์กับผู้อื่นได้อย่างเป็นชิ้นเป็นอันแน่นอนครับ เลิกเถอะครับถ้าพวกคุณไม่อายคนอื่นในสังคม ก็หัดอายตัวเองบ้าง"
ล่าสุด เฟซบุ๊ก "นารา เครปกะเทย" โพสต์คลิปและภาพการไปทำบุญช่วยเหลือคนพิการ ระบุว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ คือคนมองว่านาราล้อเลียนหรือบูลลี่คนพิการในคลิปที่นาราแสดงออกไป ย้ำในคลิปเท่านั้น สิ่งเดียวที่นาราขอพูดจากใจนารา ว่านาราไม่มีเจตนาล้อเลียนหรือบูลลี่คนพิการทั้งสิ้น
และวันนี้สิ่งที่นาราจะขอโทษและรับผิดชอบคือกลุ่มคนพิการที่ถูกพูดถึง นาราขอใช้น้ำใจและความจริงใจของนาราเพื่อมอบความบริสุทธิ์ใจว่านาราไม่มีเจตนาหรือความตั้งใจล้อเลียนหรือบูลลี่ในแบบที่คนอื่นพูด นาราขอมอบความบริสุทธิ์ใจให้กับกลุ่มคนพิการ 100,000 บาท ให้กับที่นี่ที่แรก❤️ #และวันนี้สิ่งที่นาราทำคนมองว่าไม่ถูกต้อง นาราจะเก็บประสบการณ์ครั้งนี้ไว้เป็นบทเรียนในชีวิตและการเสนอคอนเทนท์ในครั้งต่อไป"
ด้าน “ดอยตุง” ที่มีร้านในแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ดอยตุงอยู่ระหว่างทบทวนช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ พร้อมทั้งระบุรายชื่อช่องทางจำหน่ายต่าง ๆ ที่มากมาย แต่ระงับการขายผ่านลาซาด้าในขณะนี้ เช่นเดียวกับทาง "ดอยตุง"
Advertisement