ช็อกวงการบันเทิง! "แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์" นักแสดงสาวชื่อดัง พลัดตกจากเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานพระราม 7 ท่าเรือพิบูลสงคราม เขตจังหวัดนนทบุรี ระหว่างล่องเรือกับเพื่อน ๆ คืนวันที่ 24 ก.พ. 65 กระทั่งพบร่างของแตงโม เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 26 ก.พ. 65 ล่าสุด 27 ก.พ. 65 ผู้จัดการของดาราสาว เปิดเผยถึงสาเหตุเพราะไปปัสสาวะท้ายเรือทำให้พลัดตกนั้น
สำหรับจุดที่แตงโมตกน้ำ ใกล้ท่าเรือสาธารณะ 3 จุด คือ ท่าน้ำพิบูลสงคราม 1 ท่าน้ำพิบูลสงคราม และท่าน้ำวัดตึก ส่วนท่าเรือ nbc จุดที่นายปอมีการนำเรือไปจอดประจำ จากการคำนวณการใช้ความเร็วเรือประมาณ 30-35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางไปถึงประมาณ 5-6 นาที
ทีมข่าวได้มีโอกาสทดลองนั่งเรือ cobalt boats 25sc (โควบอลต์ 25 เอสซี) ความยาว 25 ฟุต จากที่จอดเรือบ้านเรือเล็ก ซึ่งเป็นเรือรุ่นเดียวกันกับลำที่เกิดเหตุ ทั้งโซนเบาะที่นั่ง และลักษณะของเครื่องยนต์ แต่แตกต่างกันที่สี และไม่มีลำโพงติดอยู่บนเพดาน ซึ่งทางด้านของท้ายเรือมีเบาะนั่งแบบพับเอนนอนได้ ในส่วนบอร์ดท้ายเรือมีลักษณะที่เหมือนกัน
ทีมข่าวจำลองการนั่งยองบริเวณบอร์ดท้ายเรือ มีการขับขาอีกคนที่นั่งอยู่บริเวณเบาะท้ายเรือจุดที่แซนนั่ง ในขณะที่เรือติดเครื่องแต่จอดนิ่ง พบว่ากระแสน้ำไม่ค่อยแรงมาก ยังคงพอทรงตัวได้
จากนั้น ลองทดลองด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งยังคงนั่งยองบริเวณบอร์ดท้ายเรือได้ปกติ ขณะที่ใช้มือจับไว้ที่ขาของคนที่นั่งท้ายเรือ ซึ่งเสียงเครื่องยนต์ค่อนข้างที่จะเบา จะได้ยินเสียงคลื่นน้ำมากกว่า แต่ยังพอทรงตัวได้ จากนั้นเพิ่มความเร็ว ประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเรือออกตัวแรงขึ้นยังพอทรงตัวได้ แม้เรือจะวิ่งโต้คลื่นน้ำ แต่จะสังเกตุคลื่นน้ำที่ใหญ่ขึ้นทำให้มีละอองน้ำบางส่วนกระเด็นมาอยู่ที่พื้นบอร์ดสีแดงที่เหยียบ แต่ด้วยลักษณะพื้นบอร์ดเป็นผิวขรุขระ แม้จะมีน้ำกระเด็นเข้ามาบ้าง แต่จากการทดลองด้วยการนั่งแบบถอดรองเท้าเหยียบ ก็ยังพอยึดกับพื้นบอร์ดได้ระดับหนึ่ง
การทดลองด้วยความเร็วทั้ง 3 แบบ อยู่ในความปลอดภัย แต่อัตรารอบการเดินทางของผู้ใช้เรือในความเร็วที่เรือวิ่งขึ้นน้ำจะเร็วขึ้นกว่าเดิม ความเร็วอยู่ประมาณที่ 30-35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ป็นความปกติทั่วไป เนื่องจากประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง ไม่สร้างคลื่นลูกใหญ่กระทบฝั่งทั้ง 2 ข้าง โดยในความเร็วระดับนี้ กัปตันเรือไม่แนะนำให้ลงไปทดสอบบริเวณบอร์ดท้ายเรือ แม้จะเป็นความเร็วที่ปลอดภัยก็ตาม แต่ก็เสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุพลัดตกลงได้
ทีมข่าวเดินเรือไปยังจุดที่คาดว่า "แตงโม นิดา" จะพลัดตกลงไป อยู่บริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างท่าเรือพิบูลย์สงคราม 1 กับ ท่าเรือพิบูลย์สงคราม 2 ซึ่งขับเรือมุ่งหน้าไปยัง จ.นนทบุรี ผ่านสะพานพระราม 7 ด้วยการจับเวลาประมาณ 5 นาที พบว่าจุดที่ ที่ขับเรือไปถึงอยู่ใกล้รัฐสภาแห่งใหม่ (เกียกกาย) ห่างจากจุดที่แตงโมตกเรือประมาณ 3.5 กม. ซึ่งคาดว่าทุกคนบนเรือน่าจะทราบแล้วว่าแตงโมตกน้ำ ซึ่งทีมข่าวใช้ระยะเวลาย้อนเรือกลับไปด้วยความเร็วประมาณ 30-35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
เมื่อถึงจุดที่คาดว่าแตงโมตกน้ำลงไป ทีมข่าวได้ลองจอดเรือ และลงไปนั่งยองอยู่บริเวณบอร์ดสีแดงที่อยู่ท้ายเรือ ซึ่งมีการจับขาคนที่นั่งท้ายเรือด้วย พบว่ายังพอทรงตัวได้เมื่อเรือหยุดนิ่ง สันนิษฐานว่าถ้าเป็นการนั่งหันหลังให้ท้ายเรือ เพื่อทำการปัสสาวะ โดยใช้อีกมือจับขาคนที่นั่งอยู่ท้ายเรือ แค่มือข้างเดียว ก็ยังพอสามารถนั่งได้ แต่อันตรายมากแม้เรือหยุดนิ่ง
จำลองทัศนภาพสายตาจากจุดนั่งของเรือ
จุดที่ 1 บริเวณหน้าเรือ จุดที่นายปอนั่ง ถ้าหันหน้าออกจากเรือก็จะเห็นวิวเรือ แต่ท้ามองมายังท้ายเรือ ก็จะเห็นบริเวณส่วนหัวของคุณแซน และหัวของแตงโมบ้างเล็กน้อย
จุดที่ 2 จุดแทนสายตาของโรเบิร์ต ส่วนของคนขับเรือ ก็จะเห็นพวงมาลัยเรือและบริเวณหน้าเรืออย่างชัดเจน แต่ถ้าหันหลังมาบริเวณท้ายเรือ ซึ่งก็จะเห็นแตงโมครึ่งตัวบน พร้อมกับคุณแซนซึ่งนั่งอยู่ท้ายเรือ
จุดที่ 3 จุดแทนสายตาของกระติก ผู้จัดการแตงโม นั่งต่อจากเบาะที่นั่งของแตงโม ลักษณะหันข้าง ถ้ามองตรงก็จะเห็นวิวข้างเรือ แต่ถ้ามองไปทางท้ายเรือก็อาจจะไม่เห็นแตงโมที่กำลังนั่งอยู่ท้ายเรือ แต่แน่นอนว่าต้องเดินผ่านกระติกไปยังท้ายเรืออย่างแน่นอน เพราะทางออกไปยังท้ายเรือออกได้ทางเดียว
จุดที่ 4 จุดแทนสายตาของจ๊อบ อยู่บริเวณด้านหลังของคนขับเรือ ซึ่งก็จะเห็นท้ายเรือชัดว่าคุณกระติก เพราะมุมที่แตงโมนั่งจะเป็นมุมทะแยงกับนายจ๊อบ ถ้าหันไปมองท้ายเรือก็คาดว่าจะเห็นแตงโมในลักษณะครึ่งตัวบน
จุดที่ 5 จุดแทนสายตาของแซน ซึ่งนั่งอยู่ท้ายเรือ แน่นอนว่าจะต้องเห็นแตงโม บริเวณบอร์ดท้ายเรืออย่างชัดเจน
ทีมข่าวได้มีการทดลองเปิดเพลงในเรือ ความรู้สึกของคนในเรือจะได้ยินเสียงเพลงค่อนข้างดัง ประกอบกับเสียงคลื่นน้ำและเสียงสายลมที่ตีกับหู ถ้าหากมีคนตกนำจริงก็คาดว่าไม่มีใครได้ยิน แต่การตะโกนคุยกัน หรือพูดป้องหูข้าง ๆ ยังพอได้ยินอยู่บ้าง
นายพิชชาภัค สุขเข ผู้ให้เช่าเรือ บริษัท Khana Yacht Charter บอกว่า การที่จะใช้บริการเรือนั้นผู้โดยสารจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ต้องสังเกตเห็นเสื้อชูชีพสีสะท้อนแสงมองเห็นง่ายและหยิบใช้ได้ มีจำนวนครบทุกคน แม้ว่ากรมเจ้าท่าจะไม่มีกฎหมายบังคับให้สวมเสื้อชูชีพ แต่เป็นการขอความร่วมมือผู้โดยสาร และเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ ในส่วนของผู้ขับเรือหรือกัปตันจะต้องมีใบท้ายเรือ ซึ่งเป็นใบอนุญาตในการขับเรือ รวมถึงการจดทะเบียนเรือที่ถูกต้องตามกฎหมายของกรมเจ้าท่า ซึ่งจะมีเลขติดบริเวณด้านหน้าของเรือทั้งสองฝั่งอย่างชัดเจน
ส่วนประเด็นเรื่องทัศนะของคนขับเรือหรือกัปตันเรือ จะไม่ใช่แค่มองบริเวณด้านหน้าเรืออย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องมองบริเวณรอบข้างตัวเองเสมอ เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของเรือ รวมถึงมองเรือลำอื่นบนรอบทิศทางตัวเอง ในความเป็นไปได้ถ้ามีคนเดินจากหน้าเรือไปยังท้ายเรือ คนขับเรือก็น่าจะมองเห็น
บริเวณบอร์ดท้ายเรือนั้น แม้ว่าผู้ใช้เรือจะใช้บ้างในการปัสสาวะ แต่ก็อยู่ในดุลพินิจของผู้ใช้เรือ ซึ่งความเป็นจริงแล้วก็ไม่ค่อยนิยม และในส่วนของเรือที่ไม่มีห้องน้ำ อยากจะแนะนำให้เข้าห้องน้ำถูกที่มากกว่า ที่สำคัญในขณะที่เรือวิ่งไม่ว่าจะด้วยความเร็วหรือช้าก็ตาม หากมีความจำเป็นจะต้องไปบริเวณท้ายเรือ จะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง ถ้าหาเรืออยู่ในความเร็วยิ่งไม่ควรจะต้องไปอยู่บริเวณบอร์ดท้ายเรือ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กระติก เพื่อนสนิท แตงโม นิดา เผยไทม์ไลน์บนเรือครั้งแรก
- เพื่อนโชว์หลักฐาน ละเอียดยิบ ไม่มีการหลอกไปเป็นเด็กเอ็น แตงโม รับรู้และเลือกวันไปเอง
- ตร.เตรียมเรียกสอบ โบ TK - ฮิปโป เพื่อนสนิทแตงโม โผล่อู่คุยก๊วนสปีดโบ๊ต
Advertisement