การเผาตอซังฟางข้าวในแปลงนาเป็นวิธีที่เกษตรกรจำนวนมากเลือกใช้ในการกำจัดเศษซากพืชหลังการเก็บเกี่ยว ด้วยเหตุผลที่ว่ารวดเร็ว สะดวก และไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติม แต่เบื้องหลังของความสะดวกนี้กลับแฝงไว้ด้วยปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำลายโครงสร้างของดิน การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อน และการก่อมลพิษทางอากาศที่ส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน
เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างเป็นระบบ แนวคิดการลดการเผาตอซังฟางข้าวโดยใช้จุลินทรีย์ย่อยสลาย ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมในวงการเกษตรกรรมยุคใหม่ โดยเฉพาะในบริบทของการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
หนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับการส่งเสริมและทดลองใช้จริงในพื้นที่โครงการของ “มูลนิธิชัยพัฒนา” คือการใช้ “ซอยล์ ไดเจสต์” (Soil Digest) เป็น “จุลินทรีย์กลุ่มบาซิลลัส” ซึ่งผ่านการวิจัยว่าสามารถย่อยสลายตอซังข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัยต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม
จุลินทรีย์ทางเลือกใหม่เพื่อดินที่สมบูรณ์
การใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายตอซังฟางข้าวมีประโยชน์มากมายที่ไม่เพียงแต่ช่วยลดมลพิษ แต่ยังช่วยฟื้นฟูดินและระบบนิเวศในแปลงนาได้อีกด้วย
เปลี่ยนตอซังให้เป็นปุ๋ย : จุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายเศษซากพืชให้กลายเป็นอินทรียวัตถุ เพิ่มธาตุอาหารในดิน ทำให้ดินกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
ส่งเสริมระบบนิเวศในดิน : อินทรียวัตถุที่เพิ่มขึ้นช่วยให้จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์อื่นๆ เจริญเติบโต ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพในดิน
ลดต้นทุนเพิ่มผลผลิต : ดินที่ดีทำให้พืชแข็งแรง ลดการพึ่งพาปุ๋ยเคมี ส่งผลให้ต้นทุนลดลง และมีโอกาสได้ผลผลิตที่สูงขึ้นในระยะยาว
ประหยัดเวลาในการจัดการแปลง : กระบวนการย่อยสลายด้วยจุลินทรีย์ใช้เวลาเพียง 5-7 วัน เร็วกว่าการปล่อยให้เศษซากพืชย่อยสลายเองตามธรรมชาติซึ่งอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่ออากาศที่สะอาด
การเผาตอซังฟางข้าวไม่เพียงปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมาก แต่ยังเป็นแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคุณภาพอากาศและสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะในฤดูแล้งที่ปัญหาหมอกควันทวีความรุนแรงในหลายภูมิภาคของประเทศ การเปลี่ยนมาใช้จุลินทรีย์ในการย่อยสลายตอซังจึงมีข้อดีหลายประการ
ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจก - เมื่อไม่เผาย่อมไม่ปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศ ซึ่งเป็นการช่วยลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
ลดฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศ - ลดปริมาณ PM2.5 ซึ่งเป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจโดยตรง
ส่งเสริมสุขภาพของประชาชน - อากาศสะอาดมากขึ้น ส่งผลให้ประชาชนในชุมชนมีสุขภาพดีขึ้น ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง
การเปลี่ยนแปลงเริ่มได้จากแปลงนาเรา
การใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายตอซังฟางข้าวจึงเป็นมากกว่านวัตกรรมทางการเกษตร เพราะมันคือทางเลือกของการ “ลงทุนในอนาคต” ที่ไม่เพียงให้ผลตอบแทนในรูปของผลผลิต แต่ยังสะท้อนถึงความรับผิดชอบร่วมกันต่อโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ หรือความยั่งยืนของระบบนิเวศในระดับชุมชนและประเทศ
ซึ่งปัจจุบันได้รับความสำคัญในลำดับต้นๆ ของวาระระดับโลก ถือเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชน และการสร้างอนาคตทางการเกษตรที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว
Advertisement