Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ใครบ้างมีปัจจัยเสี่ยงเป็น โรคใหลตาย ดูแลตัวเองอย่างไร เพิ่มโอกาสรอด

ใครบ้างมีปัจจัยเสี่ยงเป็น โรคใหลตาย ดูแลตัวเองอย่างไร เพิ่มโอกาสรอด

1 ธ.ค. 68
16:44 น.
แชร์

โรคใหลตาย คืออะไร สาเหตุและกลไกการเกิดโรค ใครบ้างมีปัจจัยเสี่ยงควรพบแพทย์ตรวจอย่างละเอียด ดูแลตัวเองอย่างไร เพิ่มโอกาสรอด

ภาวะใหลตาย เกิดขึ้นกับคนที่ดูแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว และมักเป็นวัยหนุ่มสาวที่กำลังทำงานสร้างครอบครัว ทุกอย่างดูปกติจนกระทั่งคืนนั้นที่เจ้าตัวเข้านอนแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย

โรคใหลตาย คืออะไร

โรคใหลตาย หรือ Sudden Unexplained Nocturnal Death Syndrome (SUNDS) คือ ภาวะเสียชีวิตขณะนอนหลับ ที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ผู้ป่วยบางรายไม่มีอาการเตือนมาก่อน ทำให้ไม่รู้ว่าตนเองมีความเสี่ยง จนกระทั่งเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงในระหว่างหลับ

ทีมแพทย์ในปัจจุบันอาศัยการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram – ECG) เป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมิน เพราะผู้ที่เป็นโรคใหลตายจำนวนมากเกี่ยวข้องกับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดร้ายแรง เช่น Brugada syndrome

ในหลายกรณี อาการจะเกิดขึ้นเวลากลางคืน คนไข้เข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า Agonal breathing หรือการหายใจเฮือกเป็นจังหวะผิดปกติหลังหัวใจเต้นผิดจังหวะ เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ ผู้ป่วยอาจดิ้น เกร็ง คล้ายเป็นลมในท่านอน และหากฟื้นขึ้นมาจะมีอาการมึนงง บางรายอาจเกิดอาการเป็นลมในเวลากลางวันด้วย โดยมักเกิดขึ้นทั้งที่ไม่ได้ใช้แรงหนัก ในกรณีรุนแรงที่สุด ผู้ป่วยจะเสียชีวิตไปทันทีระหว่างหลับ

ผศ. พญ.สิรินทร์ อภิญาสวัสดิ์ สาขาวิชาโรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เผยถึว่า "โรคใหลตาย" ระบุว่าในทางการแพทย์เรียกภาวะนี้ว่า “หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน” ซึ่งความน่ากลัวของโรคนี้คือการเสียชีวิตแบบเฉียบพลัน ผู้ตายไม่มีโอกาสรู้ตัวมาก่อนเลย

สาเหตุที่สำคัญของโรคใหลตาย 

สาเหตุหลักก่อโรคใหลตาย ปัจจุบัน พอสรุปได้ว่าโรคใหลตายเกิดจาก 2 สาเหตุหลัก คือ พันธุกรรมและสาเหตุที่ไม่ใช่ส่วนของพันธุกรรม

สำหรับสาเหตุที่ไม่ใช่ส่วนของพันธุกรรม มาจากภาวะร่างกายขาดแร่ธาตุโพแทสเซียม ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง ส่งผลให้หัวใจเต้นแรงขึ้นและเสียชีวิตในที่สุด ปัจจัยที่เกี่ยวข้องของโรคมี 2 ประการด้วยกัน ได้แก่ การบริโภคอาหารที่มีสารพิษวันละเล็กน้อย จนเกิดการสะสมและเป็นพิษต่อกล้ามเนื้อหัวใจ

ปัจจัยต่อมาคือการ ขาดสารอาหารที่เป็นวิตามินบี 1 อย่างรุนแรงเฉียบพลัน ทำให้คนที่แข็งแรงอยู่ดีๆ รู้สึกอ่อนเพลียและอยากนอน เมื่อหลับแล้วก็หัวใจวายตายเกือบจะทันที โดยโรคนี้สัมพันธ์ใกล้ชิดกับภาวะทุพโภชนาการ และสุขนิสัยการกินที่ผิด

กลไกการเกิดภาวะโรคใหลตาย

โดยปกติแล้วการเต้นของหัวใจคนเรานั้นเกิดขึ้นจากไฟฟ้า ซึ่งไฟฟ้าเกิดจากเกลือแร่ที่วิ่งเข้าออกระหว่างเซลล์ตลอดเวลา โดยเกลือแร่ที่ทำให้เกิดไฟฟ้ามีหลายชนิด เช่น โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม เป็นต้น ซึ่งต้องวิ่งเข้าออกบริเวณที่เปรียบเสมือนประตู แต่ในคนที่เกิดภาวะใหลตายนั้นพบว่าประตูที่ทำให้โซเดียมเข้าออกเซลล์นั้นมีน้อยกว่าคนปกติ เป็นสาเหตุที่เกิดขึ้นแต่กำเนิด และเป็นสาเหตุในระดับเซลล์ คนกลุ่มนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับอาหารการกิน เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคใหลตาย

ใครบ้างมีปัจจัยเสี่ยงโรคใหลตาย

ศ.นพ.อภิชัย คงพัฒนะโยธิน ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการวิจัยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า ชายไทยถือเป็นกลุ่มที่พบภาวะนี้บ่อย แต่การตรวจคัดกรองทุกคนเป็นไปได้ยาก จึงควรเน้นตรวจเฉพาะผู้ที่มี “ปัจจัยเสี่ยง” ชัดเจน ดังต่อไปนี้

1. มีประวัติคนในครอบครัวเสียชีวิตกะทันหันขณะหลับ

หลายเคสพบว่าครอบครัวมีญาติที่เคย “ใหลตาย” ในช่วงอายุยังน้อย เช่น อายุไม่เกิน 40–50 ปี การมีประวัติเช่นนี้เพิ่มโอกาสเป็น Brugada syndrome แต่หากญาติเสียชีวิตในวัยสูงอายุ สาเหตุอื่น เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ อาจเป็นคำอธิบายที่พบมากกว่า

2. เคยเป็นลมโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยเฉพาะในคนอายุน้อย

อาการเป็นลมที่เกี่ยวข้องกับโรคใหลตายมีลักษณะต่างจากการเป็นลมทั่วไป เช่น

• มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือใจสั่นนำมาก่อน

• หมดสติเป็นเวลานาน

• ฟื้นขึ้นมาแล้วมึนงง

• มีอาการชัก เกร็ง หรือเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ไม่ควรเป็นลม เช่น ระหว่างออกกำลังกาย

3. มีความผิดปกติขณะหลับ

ได้แก่ กระสับกระส่าย หายใจสะดุดแบบ Agonal breathing เกร็ง หรือตื่นมาตอนเช้าด้วยอาการมึนงงเหมือนสมองขาดเลือด หากพบสัญญาณเหล่านี้บ่อยครั้ง ควรให้แพทย์ตรวจ ECG เพื่อประเมินความเสี่ยง

ดูแลตัวเองอย่างไร เพิ่มโอกาสรอด “ใหลตาย”

หากผู้ป่วยได้รับการประเมินและดูแลถูกต้องตั้งแต่เนิ่นๆ ความเสี่ยงจะลดลงอย่างมาก ศ.นพ.อภิชัย ระบุว่า ผู้ป่วยจำนวนมากที่มาพบแพทย์คือผู้ที่เริ่มมีอาการแล้ว ขณะที่ผู้ไม่มีอาการมักไม่คิดมาตรวจ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายกรณีไม่ได้รับการวินิจฉัยล่วงหน้า

เมื่อตรวจคลื่นหัวใจแล้วพบความเสี่ยงและเริ่มรับคำแนะนำจากแพทย์ ความเสี่ยงเสียชีวิตจะลดลงมาก โดยแพทย์จะระบุ “ตัวกระตุ้น” ที่ต้องหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้หัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง ได้แก่

• หลีกเลี่ยงยาที่มีผลลดการทำงานของ Sodium channel

• ระวังไม่ให้เกิดไข้สูง หากป่วยให้รีบกินยาลดไข้และเช็ดตัว

• งดแอลกอฮอล์และสารเสพติดทุกชนิด

• หลีกเลี่ยงการกินอาหารมื้อใหญ่ที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงหรือให้พลังงานมากเกินไป

การสังเกตอาการตัวเองและเข้ารับการตรวจโดยแพทย์เฉพาะทางถือเป็นแนวทางสำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่อาจมีความเสี่ยง โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติครอบครัวหรือเคยเป็นลมผิดปกติ

การปฐมพยาบาลผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะใหลตาย

จับผู้ป่วยนอนราบ ระหว่างรอรถพยาบาลหรือรอคนมาช่วยให้ประเมินผู้ป่วย หากพบว่าไม่หายใจหรือชีพจรที่คอไม่เต้น ให้กดหน้าอกยุบลงราว 1.5 นิ้ว แล้วปล่อยให้คลายตัวเป็นชุด ในความถี่ราว 100 ครั้งต่อนาทีโดยไม่หยุดจนกว่าจะถึงมือแพทย์หรือจนกว่าผู้ป่วยจะรู้ตัว

ข้อห้าม เช่น งัดปากคนไข้ด้วยของแข็งเพราะอาจเป็นอันตราย และให้ระลึกเสมอว่าคนที่เป็นโรคใหลตายอาจจะมีโรคอื่นของสมอง เช่น ลมชัก โรคหัวใจ ที่อาจเป็นเหตุให้หมดสติได้เช่นกัน

อ้างอิง : chula.ac.th/ rama.mahidol.ac.th

Advertisement

แชร์
ใครบ้างมีปัจจัยเสี่ยงเป็น โรคใหลตาย ดูแลตัวเองอย่างไร เพิ่มโอกาสรอด