
หัวใจเต้นผิดจังหวะ : ร่างกายของสายปาร์ตี้ เปราะบางกว่าที่คิด ปัจจัยเสี่ยงสะสมที่คนอายุ 20–30 มักไม่รู้
ในโลกที่เรายังแข็งแรง เต้นได้จนถึงบีทสุดท้ายตอนตีหนึ่ง กินอะไรก็ยังไม่อ้วน ดื่มเหล้าก็ยังไม่แฮงค์ สั่งชาเย็นวันละสองก็ยังไม่ใจสั่นมากนัก ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องห่วง “หัวใจเต้นผิดจังหวะ”
เรามักคิดว่าโรคแบบนี้เป็นเรื่องของคนแก่ คนป่วย หรืออย่างน้อยๆ ก็คนที่สุขภาพไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด แต่ในความเป็นจริง โรคมันไม่เคยเลือกอายุ และน่าเศร้าที่ร่างกายของคนอายุยี่สิบต้นๆ อาจเปราะบางกว่าที่คิด ถ้าคุณใช้ชีวิตแบบ "สายปาร์ตี้" ทุกคืนเสาร์ โดยไม่รู้เลยว่ากำลังสะสมปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้หัวใจล้มเหลวได้ทันที
หัวใจมนุษย์เต้นเฉลี่ยวันละแสนครั้ง การทำงานของมันขึ้นอยู่กับไฟฟ้า แร่ธาตุในร่างกาย และจังหวะจากสมอง ทุกอย่างต้องประสานกันอย่างละเอียดอ่อน ร่างกายที่คุณใช้สนุกสุดเหวี่ยง อาจดูปกติภายนอก แต่ลึกๆ แล้วเริ่มมีรอยร้าวจากวิถีชีวิตบางอย่างที่คุณอาจไม่เคยนึกถึง
กับดักแรกแบบเนียนๆ สมองมนุษย์ต้องการการนอนเพื่อล้างพิษที่สะสมทั้งวัน โดยเฉพาะสมองส่วนที่ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ หากคุณนอนน้อย สารเคมีควบคุมจังหวะหัวใจ เช่น norepinephrine, cortisol หรือแม้แต่สารส่งสัญญาณไฟฟ้าในระบบประสาทอัตโนมัติจะไม่สมดุล ระบบพาราซิมพาเทติกที่ช่วยให้หัวใจเต้นเป็นปกติจะทำงานแย่ลง การนอนน้อยจึงไม่ได้แค่ทำให้คุณหน้าโทรม แต่มันเปลี่ยน "โหมดการสั่งงาน" หัวใจให้ผิดเพี้ยนได้
ถ้าคุณยังเอาคาเฟอีนเข้าไปกระตุ้นหัวใจมากๆ อย่างการดื่มกาแฟ แก้วแรกตอนเช้า แก้วสองตอนบ่าย และจบวันด้วยชาเขียวใส่ช็อตเอสเพรสโซเพิ่ม มันจะสะสมระดับคาเฟอีนในเลือดโดยที่คุณไม่รู้ตัว คาเฟอีนกระตุ้นหัวใจและระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้หัวใจเต้นเร็ว บีบตัวแรง และอาจเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ง่ายในบางคนโดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่ไวต่อสารกระตุ้น หรือมีโรคหัวใจพันธุกรรมซ่อนอยู่แบบไม่รู้ตัว
คุณอาจจะบอกว่า “แต่เราก็กินข้าวก่อนออกไปปาร์ตี้นะ”... ใช่ แต่ถ้าการกินข้าวของคุณเป็นแบบรีบๆ ขาดมื้อบ้าง อัดน้ำตาลเยอะในบางมื้อ ข้ามมื้อหลักบางวัน หรือยึดหลัก “มื้อเช้าเป็นกาแฟ มื้อเย็นเป็นเบียร์” พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดผันผวน และเมื่อผันผวน ร่างกายจะพยายามปรับด้วยการปล่อยฮอร์โมนอย่างอินซูลินหรืออะดรีนาลีนออกมาควบคุม ซึ่งกระตุ้นหัวใจแบบกลายๆ น้ำตาลที่ลดฮวบในคนที่กินไม่เป็นเวลายังทำให้สมองพร่า หัวใจเต้นผิด และหมดสติได้ง่ายโดยไม่มีสัญญาณ
และสุดท้ายที่หลายคนไม่รู้ คือ ภาวะขาดวิตามินบางชนิดที่มักเป็นในสายปาร์ตี้แบบไม่รู้ตัว เช่น วิตามิน B1 (ไทอามีน) ที่ร่างกายใช้ในการผลิตพลังงานให้หัวใจ วิตามิน D ที่สำคัญต่อกล้ามเนื้อหัวใจ หรือแม้แต่แมกนีเซียมและโพแทสเซียม ซึ่งควบคุมคลื่นไฟฟ้าหัวใจ คนที่ดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ มักขับแร่ธาตุเหล่านี้ออกทางปัสสาวะเยอะขึ้น ทำให้ร่างกายเสียสมดุลโดยที่ไม่มีอาการใดๆ นอกจาก...วันหนึ่งหัวใจ “หยุด” อย่างไม่มีใครคาดคิด
เพราะฉะนั้น “สายปาร์ตี้” ไม่ได้แปลว่าคุณไม่แข็งแรง แต่มันหมายถึงการใช้ร่างกายในโหมดเร่ง-กระตุ้น-เสพ-อด และวนลูปแบบนี้โดยไม่มีเวลาพักจริงๆ ซึ่งเป็นสูตรลับของความเสื่อมแบบเงียบๆ ที่หัวใจรับรู้ก่อนใคร
คนวัย 20-30 ปี อาจรู้สึกยังเต้นได้อีกหลายเพลง แดนซ์ต่ออีกหลายคืน ตื่นมาก็สบายดีไม่แฮ้งค์ แต่นั่นแหละ หัวใจของคุณอาจไม่รอถึงบีทสุดท้ายอย่างที่คุณคิด ความเสื่อมของร่างกายอาจไม่แสดงอาการในตอนนี้ แต่มันจะเอาคืนในวันที่คุณเดินทางไปถึงในวัยเลข 4 หรือไม่ อาจเร็วกว่านั้น?
อ้างอิง : msutoday.msu.edu sleepfoundation.org pmc.ncbi.nlm.nih.gov pmc.ncbi.nlm.nih.gov
Advertisement