
ไม่ใช่แค่ "คัน"! ไขความจริงทำไม "แพ้กุ้ง" อันตรายถึงตาย เรียนรู้การรับมือและแนวทางหลีกเลี่ยงแบบ "แตะไม่ได้เลย"
อาการแพ้อาหารทะเล โดยเฉพาะ “กุ้ง” เป็นหนึ่งในประเด็นสุขภาพที่หลายคนยังเข้าใจไม่หมด ทั้งที่ความจริงแล้วมันเป็นภาวะที่อันตรายกว่าที่คิดมาก เพราะแม้จะกินเพียงคำเล็กๆ ก็อาจทำให้เกิดปฏิกิริยารุนแรงถึงขั้นช็อกเฉียบพลันได้
สำหรับบางคน การแพ้กุ้งไม่ใช่เรื่องของ “กินแล้วคัน” หรือ “ขึ้นผื่นนิดหน่อย” แต่เป็นภาวะที่อาจพลาดไม่ได้แม้แต่น้อย เพราะมันเกี่ยวข้องกับโปรตีนในกุ้งที่สามารถเปิดสวิตช์ภูมิคุ้มกันของร่างกายแบบฉับพลัน และบางกรณีถึงตายได้ภายในไม่กี่นาที
หัวใจของปัญหาอยู่ที่โปรตีนชื่อ tropomyosin ซึ่งเป็นตัวก่อภูมิแพ้หลักในกุ้งและอาหารทะเลหลายชนิด โปรตีนนี้มีความ “ทนความร้อน” ต่อให้ต้ม นึ่ง ลวก หรือผัดจนสุกเต็มที่ ก็ยังไม่สลายง่าย เมื่อร่างกายของผู้ที่แพ้สัมผัสโปรตีนนี้ แม้เพียงปริมาณเล็กน้อย ระบบภูมิคุ้มกันจะมองว่าเป็นอันตรายและปล่อยสารฮิสตามีนอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดผื่น หายใจติดขัด หรือแม้แต่หลอดลมบวมจนหายใจไม่ได้
ปัญหาที่หลายคนไม่รู้คือ การแพ้กุ้งเป็นหนึ่งในชนิดที่เกิดจาก “ปริมาณน้อยก็แพ้ได้” เช่น
• แค่โดนซุปที่มีน้ำสต็อกจากเปลือกกุ้ง
• ใช้ตะหลิวกระทะเดียวกับเมนูทะเล
• หรือแม้แต่ไอระเหยจากการผัดอาหารทะเลในบางราย
สิ่งเหล่านี้ก็สามารถทำให้คนแพ้รุนแรงเกิดอาการขึ้นได้ทันที นี่ยังไม่นับเรื่อง การแพ้ข้าม (cross-reactivity) ที่พบได้บ่อย เช่น แพ้กุ้งแล้วมีโอกาสแพ้ปู หอย หรือแม้กระทั่งไรฝุ่น เพราะโปรตีนคล้ายกัน
สัญญาณเริ่มต้นของปฏิกิริยาแพ้ที่ไม่ควรมองข้าม ได้แก่
• ปาก ลิ้น คอ รู้สึกชา คัน ตึง
• ผื่นลมพิษขึ้นเร็วทั่วตัว
• หายใจไม่สะดวก เสียงเริ่มแหบ
• หน้ามืด ความดันตก คลื่นไส้รุนแรง
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่อาการเบา ๆ แต่เป็นสัญญาณของ anaphylaxis ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรับการรักษาทันที เพราะสามารถทำให้เสียชีวิตได้ในเวลาอันสั้น
หลายคนเชื่อว่าการกินบ่อย ๆ น่าจะทำให้ร่างกายชิน แต่สำหรับการแพ้อาหารทะเล โดยเฉพาะกุ้ง แนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องจริง การสัมผัสซ้ำเป็นเพียงการเพิ่มโอกาสให้เกิดอาการแพ้ที่รุนแรงกว่าเดิม และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต อีกทั้งการแพ้กุ้งไม่ใช่ชนิดที่สามารถใช้วิธีฝึกรับประทานเพื่อให้ร่างกายทนได้เหมือนการแพ้นมในเด็กบางราย
เพจฯ Tensia เผยเคส ชาย 25 ปี อยากลองกินกุ้งถังกับเพื่อนทั้งๆ ที่รู้ว่าแพ้ สุดท้ายช็อก เดิมรู้อยู่แล้วว่าแพ้พวกอาหารทะเล โดยเฉพาะกุ้ง กินแล้วผื่นคล้ายลมพิษกระจายทั่วตัวเลย วันเกิดเหตุ เพื่อนเล่าว่า ชวนกันไปกินกุ้งถัง ผู้ป่วยก็ขอไปด้วย ซึ่งเพื่อนๆ เองก็ไม่มีใครรู้ว่าผู้ป่วยแพ้กุ้ง (ปกติไปกินอย่างอื่นกัน)
หลังจากกินกุ้งอย่างอร่อยไปไม่ถึง 15 นาที ผู้ป่วยเริ่มลุกออกไป เหมือนคลื่นไส้ ทุกคนก็คิดว่าน่าจะแนวๆ อาหารเป็นพิษเหตุการณ์ได้ผ่านไปเร็วมาก ผื่นลมพิษกระจายขึ้นทั่วตัว คันไป หายใจหอบไป เพื่อนถามว่าเป็นอะไร ทำไมหนูเหนื่อยๆ ผู้ป่วยแจ้งว่า แพ้กุ้ง เท่านั้นแหละ เพื่อนรีบขับรถมาส่ง รพ.
ที่ห้องฉุกเฉิน %ออกซิเจนลงเหลือ 89 แล้ว, ฟังปอดได้ยินเสียงวี๊ด (หลอดลมตีบ) ทั่วปอดเลย ความดันวัดได้ 85/60 mmHg, แพทย์จึงรีบให้การรักษาเบื้องต้นคือฉีด adrenaline พร้อมกับยาอื่นๆ เช่น ยาฉีดสเตียรอยด์
ดังนั้นการแพ้จากการกิน ไม่ใช่เรื่องที่จะมา challenge ได้ เพราะทุกครั้งที่สัมผัสการแพ้ มันจะยิ่งเพิ่มเม็ดเลือดขาวที่เล็งสารนั้น มากขึ้นมากขึ้น ตัวเซนเซอร์ IgE ก็จะมากขึ้น มากขึ้น สุดท้ายพอเจอครั้งต่อๆ ไป เม็ดเลือดขาวที่รออยู่แล้วก็ ‘บูม’ เทกระจาดประหนึ่งวันสิ้นโลก ดังภาพค่ะ อ้อ… ผู้ป่วยพกยาแก้แพ้ CPM มาด้วยนะคะ แน่นอนว่าช่วยอะไรไม่ได้ค่ะ
• ควรหลีกเลี่ยงแบบ “ศูนย์เปอร์เซ็นต์” ไม่ใช่เลี่ยงเฉพาะตัวที่เห็นเป็นชิ้น เนื่องจากโปรตีนกุ้งสามารถหลุดปนเปื้อนได้ง่าย
• สำหรับผู้ที่เคยมีอาการรุนแรง เช่น หายใจลำบาก ตัวบวม หรือความดันตก แนะนำให้พบแพทย์เฉพาะทางภูมิแพ้เพื่อประเมินว่าควรพก Epinephrine auto-injector ไว้หรือไม่
• เมื่อสงสัยว่ากินหรือสัมผัสกุ้งโดยไม่ตั้งใจ และเริ่มมีอาการแม้เพียงเล็กน้อย ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที เพราะการรอดูอาการเองอาจเสี่ยงช็อกได้
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาที่ทำให้หายขาดได้แน่นอน แม้จะมีงานวิจัยเกี่ยวกับการปรับภูมิคุ้มกัน (immunotherapy) แต่ยังอยู่ในขั้นทดลอง และมีความเสี่ยงในขั้นตอนการรักษา จึงยังไม่ใช่มาตรฐานหลักในตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหลีกเลี่ยง การรู้เท่าทันอาการ และการเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินสำหรับผู้ที่มีประวัติอาการรุนแรง
อ้างอิง :
1. Lopata, A. L., O’Hehir, R. E., & Lehrer, S. B. (2010). Shellfish allergy. Clinical & Experimental Allergy, 40(6), 850–858.
2. Leung, P. S. C., & Chu, K. H. (2021). Allergy to crustacean shellfish. Clinical & Experimental Allergy, 51(4), 463–475.
3. Yu, C. J., et al. (2003). Tropomyosin is the major allergen in shrimp. Journal of Allergy and Clinical Immunology, 112(1), 120–126.
4. NIAID (National Institute of Allergy and Infectious Diseases). (2010). Guidelines for the Diagnosis and Management of Food Allergy in the United States. Journal of Allergy and Clinical Immunology, 126(6 Suppl), S1–S58.
5. Simons, F. E. R. (2010). Anaphylaxis: Recent advances in assessment and treatment. Journal of Allergy and Clinical Immunology, 124(4), 625–636.
6. FARE – Food Allergy Research & Education. (2023). Shellfish Allergy.
7. American College of Allergy, Asthma & Immunology (ACAAI). (2024). Shellfish Allergy Symptoms & Diagnosis.
8. Palm, N. W., & Rosenstein, R. K. (2017). IgE and Food Allergy. Annual Review of Immunology, 35, 731–755.
9. Turnbull, J. L., Adams, H. N., & Gorard, D. A. (2015). The diagnosis and management of food allergy and food intolerances. Alimentary Pharmacology & Therapeutics, 41(1), 3–25.
10. Tensia
Advertisement