
ไม่ใช่แค่น้ำเปล่า! รู้จัก 3 ประเภท "น้ำ" ที่ให้สารอาหารและประโยชน์เหลือล้น บำรุงสุขภาพ มากกว่าแค่ให้ความชุ่มชื้นแก่ร่างกาย
ร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญอยู่ประมาณ 70% ของน้ำหนักตัว และเป็นตัวกลางในการเกิดปฏิกิริยาเคมีทุกชนิดในกระบวนการเมตาบอลิซึมของร่างกายที่ต้องอาศัยน้ำ เซลล์จะไม่สามารถทำงานได้ถ้าไม่มีน้ำ ตั้งแต่กระบวนการย่อยอาหาร, ขับของเสีย, นำส่งออกซิเจน, รักษาความชุ่มชื้น, และควบคุมอุณหภูมิ ขณะเดียวกันร่างกายของเราจะสูญเสียน้ำทุกวันผ่านการขับออกเป็นเหงื่อ, ทางปัสสาวะ, และลมหายใจ ดังนั้นเราจึงต้องดื่มน้ำทดแทนเข้าไป เพื่อช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย
น้ำเปล่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับช่วยให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ แต่ก็มีน้ำประเภทอื่นๆ ที่ช่วยให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอ พร้อมให้ประโยชน์ต่อสุขภาพไปพร้อมๆ กัน
เมล็ดเจีย (Salvia hispanica) เป็นพืชล้มลุกที่อยู่ในวงศ์ Lamiaceae ถูกนำมาบริโภคกันมาแล้วหลายพันปี ผลการวิจัยในปัจจุบันบ่งชี้ว่าเมล็ดเจียมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และยืนยันถึงสรรพคุณในการส่งเสริมสุขภาพอย่างกว้างขวาง งานวิจัยชี้ให้เห็นว่าส่วนประกอบของเมล็ดเจียมีประโยชน์ต่อการปรับปรุงระดับไขมันในเลือด ทั้งในด้านการลดความดันโลหิต ลดระดับน้ำตาลในเลือด ต้านจุลชีพ และกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
การเติมเมล็ดเจียลงไปในน้ำ จะทำให้เกิดสารคล้ายเจลและช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกายด้วยไฟเบอร์ โปรตีน กรดไขมันโอเมก้า 3 แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ ปัจจัยเหล่านี้มีประโยชน์หลายประการ ได้แก่
- ระบบย่อยอาหารดีขึ้น อิ่มมากขึ้น และลดความหิว
- ลดการอักเสบและลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิด
บทความจากวารสารอาหารและฟังก์ชัน กล่าวว่า การรับประทานเมล็ดเจียช่วยลดความเสี่ยง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือดและความดันโลหิตสูงได้ เนื่องจากเมล็ดเจียเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น กรดคลอโรเจนิกและกรดคาเฟอิก เควอซิติน และเคมเฟอรอล มีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านเบาหวาน และผลดีต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดและความดันโลหิตสูง
ปัจจุบันเมล็ดเจียกลายเป็นอาหารยอดนิยมในกลุ่มผู้รักสุขภาพ เพราะมีประโยชน์ในด้านคุณค่าทางโภชนาการ เป็นแหล่งไขมันชั้นเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน เช่น กรดอัลฟา-ไลโนเลนิก และกรดไลโนเลอิก นอกจากนี้ยังมีปริมาณโปรตีนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโพรลามิน (Prolamin) และใยอาหาร มีวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มีกลูเตน เมล็ดเจียจึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคซีลิแอค (โรคเรื้อรังทางระบบย่อยอาหารและภูมิคุ้มกันที่ทำลายลำไส้เล็กเมื่อผู้ป่วยรับประทานกลูเตน )
- กระดูกแข็งแรงและหนาแน่นขึ้น
- ความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือดดีขึ้น
การบีบน้ำมะนาวลงในน้ำเปล่า จะช่วยเพิ่มรสชาติเปรี้ยวอมหวานให้กับน้ำเปล่า ซึ่งอาจช่วยเพิ่มรสชาติและดึงดูดใจให้คุณอยากดื่มน้ำมากขึ้นตลอดทั้งวัน การดื่มน้ำมะนาวอย่างเพียงพอและเหมาะสม มีประโยชน์มากมาย ได้แก่
- กระตุ้นความอยากดื่มน้ำมากขึ้น เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเครื่องดื่มรสหวานอื่นๆ
- ได้รับวิตามินซีในมะนาว
ช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้
- ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดนิ่วในไต
เนื่องจากมะนาวและผลไม้รสเปรี้ยวอื่นๆ มีกรดซิตริกซึ่งจับกับแคลเซียมเพื่อช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในไต ดร. ไบรอัน ไอส์เนอร์ ผู้อำนวยการร่วมโครงการโรคนิ่วในไตที่โรงพยาบาลแมสซาชูเซตส์ เจเนอรัล ในเครือมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุว่า การดื่มน้ำมะนาวเข้มข้นครึ่งถ้วยที่เจือจางในน้ำทุกวัน หรือน้ำมะนาวสองลูก สามารถเพิ่มปริมาณซิเตรตในปัสสาวะและอาจลดความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตได้ อีกทั้งการดื่มน้ำให้เพียงพอยังช่วยให้ไตของคุณแข็งแรงอีกด้วย
- การย่อยอาหารที่ดีขึ้นและการสนับสนุนการลดน้ำหนัก
มีงานวิจัยพบว่าเนื่องจากกรดในน้ำมะนาวสามารถช่วยเพิ่มความสามารถของกระเพาะอาหารในการย่อยอาหาร น้ำมะนาวทำให้ปริมาตรของอาหารในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า หลังรับประทานอาหาร 30 นาที น้ำมะนาวช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มทั้งการหลั่งในกระเพาะอาหารและอัตราการระบายของเสียออกจากร่างกาย การลดลงของระดับน้ำตาลในเลือดส่วนใหญ่เกิดจากการขัดขวางการย่อยแป้งผ่านการยับยั้งกรดของเอนไซม์อัลฟาอะไมเลสในน้ำลาย
น้ำมะพร้าวเป็นแหล่งอิเล็กโทรไลต์ตามธรรมชาติที่ดี รวมถึงโซเดียม แมกนีเซียม แคลเซียม และโพแทสเซียม น้ำมะพร้าวจึงมีประโยชน์สำคัญหลายประการ ดังนี้
- เติมอิเล็กโทรไลต์ให้ร่างกาย
อิเล็กโทรไลต์ คือแร่ธาตุที่มีประจุไฟฟ้าเมื่อละลายในน้ำหรือของเหลวในร่างกาย รวมถึงเลือด ประจุไฟฟ้าอาจเป็นบวกหรือลบก็ได้ ร่างกายของเรามีอิเล็กโทรไลต์ทั้งในเลือด ปัสสาวะ เนื้อเยื่อ และของเหลวอื่นๆ ในร่างกาย อิเล็กโทรไลต์มีความสำคัญ ในการช่วยปรับสมดุลปริมาณน้ำในร่างกาย ปรับสมดุลระดับกรด/เบส (pH) ของร่างกาย เคลื่อนย้ายสารอาหารเข้าสู่เซลล์ของคุณ กำจัดของเสียออกจากเซลล์ร่างกาย สนับสนุนการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท รักษาอัตราการเต้นของหัวใจและจังหวะให้คงที่ ไปจนถึงช่วยรักษากระดูกและฟันของคุณให้แข็งแรง
- ช่วยรักษาความดันโลหิตคงที่มากขึ้น
น้ำมะพร้าวเป็นแหล่งโพแทสเซียมที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งสามารถช่วยลดความดันโลหิตและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจที่ดี ข้อมูลจากสมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกาให้ข้อมูลว่า อาหารที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียมมีความสำคัญต่อการควบคุมความดันโลหิตสูง โพแทสเซียมสามารถลดผลกระทบของโซเดียมได้ โซเดียมที่มากเกินไปได้รับการพิสูจน์แล้วว่าทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ยิ่งรับประทานโพแทสเซียมมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสูญเสียโซเดียมทางปัสสาวะมากขึ้นเท่านั้น โพแทสเซียมยังช่วยลดความตึงเครียดในผนังหลอดเลือด ซึ่งช่วยลดความดันโลหิตได้อีกด้วย
- ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ
น้ำมะพร้าวมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น สารประกอบฟีนอลิก (เช่น กรดแกลลิก, กรดคาเฟอิก, กรดซาลิไซลิก) และฟลาโวนอยด์ สารเหล่านี้ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ และมะเร็ง โดยเฉพาะในน้ำมะพร้าวอ่อนจะมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าน้ำมะพร้าวแก่
น้ำมะพร้าวมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ทางชีวภาพในการปกป้องเซลล์ไฟโบรบลาสต์ผิวหนังของมนุษย์ จากความเสียหายจากออกซิเดชันหลังจากเผชิญกับภาวะเครียดออกซิเดชัน เซลล์ไฟโบรบลาสต์ผิวหนังมนุษย์ คือเซลล์ที่อยู่ในชั้นหนังแท้ (dermis) ทำหน้าที่สำคัญในการสร้างโครงสร้างเส้นใยและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เช่น คอลลาเจน, อิลาสติน และกรดไฮยาลูรอนิก ซึ่งช่วยให้ผิวหนังแข็งแรง ยืดหยุ่น และกักเก็บความชุ่มชื้น
- มีแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงขึ้น
อ้างอิง :
สมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกา , Food & Function , Science Direct , harvard health
Advertisement