สายชาบูโปรดทราบ! 6 วิธีกิน “ชาบู Fasting” กินอย่างไรให้ลดน้ำหนักได้แบบไม่เกินความสามารถ ไม่ทรมาน แถมอิ่มคุ้มเหมือนเดิม
ในยุคที่ร้านชาบูแข่งกันจัดโปรโมชั่นลดเดือดเอาใจลูกค้า แน่นอนว่าผลดีย่อมตกอยู่ที่ลูกค้าอย่างเราๆ ที่จะได้อิ่มเต็มคุ้ม แถมสบายเงินในกระเป๋า แต่รู้หรือไม่ว่าการกินชาบูก็เป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยลดน้ำหนักได้ เพียงแค่ต้องกินให้ถูกหลัก ไม่เช่นนั้นจากลดจะกลายเป็นเพิ่มแบบกู่ไม่กลับเอาได้
เรื่องนี้ หมอเจด นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้แชร์เคล็ดลับการกิน “ชาบู Fasting” กินอย่างไรให้ลดน้ำหนักได้ ด้วย 6 วิธีการที่หลายคนสามารถทำตามได้ ดังนี้
1. ต้องกินโปรตีนให้ถึงแล้วจะอิ่มนาน
อันนี้เป็นเรื่องสำคัญนะ อย่างที่เรารู้ว่า ในเนื้อสัตว์มีโปรตีนรวมไปถึงไขมันด้วย ซึ่งเราควรจะรับโปรตีน 1 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ใน 1 วัน เช่น ถ้าคนหนัก 60 กิโลกรัม ก็ต้องได้รับโปรตีน 60 กรัม ซึ่งเนื้อหมู 100 กรัม จะได้โปรตีนอยู่ที่ประมาณ 26 กรัม นั่นหมายความว่าคุณต้อง ได้กินเนื้อ 300 กรัมต่อวัน ข้อดีของชาบู fasting คือสามารถทานเนื้อหลายอย่างร่วมกันได้นะ ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ เนื้อ หรือกุ้ง ปลา พวกนี้คุณกินรวมกันจะได้ไม่เบื่อ
2. ลดคาร์บ
ข้อนี้สำคัญมาก การทำ fasting ให้เวิร์ก ควรที่จะตัดคาร์บออก ไม่ว่าจะเป็นกินชาบูกับข้าว กับเส้นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น วุ้นเส้น เส้นบุก หรืออะไรก็ตาม พวกนี้ควรจะเปลี่ยนจากคาร์บเป็นน้ำตาล ซึ่งอาจจะทำให้เกิดโรคตามมาได้ รวมไปถึงลดความอ้วนที่ตั้งใจไว้อาจจะไม่สำเร็จ
3. น้ำจิ้ม
สิ่งที่น่ากลัวในชาบูก็คือน้ำจิ้ม เพราะส่วนผสมมีน้ำตาล ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ทางที่ดีคือไม่จิ้มเลย หรือจะเห็นเป็นน้ำจิ้มคีโตก็ได้นะ เดี๋ยวนี้หาซื้อได้ง่ายขึ้นแล้วนะครับ บางเจ้าก็น้ำตาล 0% อันนี้ผมว่าก็เป็นอีกทางเลือกนะ
4. น้ำซุป
เวลาไปกินชาบูที่ร้านทุกคนก็ต้องคุ้นกับซุปน้ำดำ ซุปกระดูกหมู หรือซุปเห็ดหอม จริงๆ แล้วถ้าพูดตรงๆ น้ำซุปที่ร้านจะปรุงรสด้วยน้ำตาลให้กินง่ายขึ้น ถ้าจะทำชาบู Fasting ผมแนะนำให้ทำน้ำซุปเองดีกว่า ก็คือเป็นน้ำต้มกระดูกหมูหรือต้มโครงไก่ หรือที่เรียกกันว่าน้ำสต๊อกนั่นแหละ แต่ไม่ควรใส่น้ำตาลหรือปรุงซอสเพิ่มนะ แนะนำว่าให้ใส่เป็นหัวไชเท้าหรือหัวหอม เพื่อที่จะเพิ่มรสชาติความนัว
5. เลือกกินผักที่เป็นใบ
ใครที่กังวลว่ากินแต่เนื้อจะได้ไฟเบอร์ไหม การขับถ่ายจะดีไหม อันนี้เราก็สามารถเพิ่มผักไปได้นะ แต่ไม่แนะนำผักที่เป็นผักหัว ยกตัวอย่างเช่น กะหล่ำปลี ข้าวโพด เพราะมีคาร์โบไฮเดรต จะทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงได้ แนะนำผักเป็นใบ ยกตัวอย่างเช่น ปวยเล้ง
6. น้ำดื่ม
เวลาเราไปร้านชาบู ก็จะเจอกับตู้กดน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหวาน น้ำอัดลม บางร้านมีให้เลือกหลายอย่าง การทำ fasting แนะนำกินน้ำเปล่านะครับ หรือจะเป็นชาเขียวที่ไม่ใส่นมใส่น้ำตาลอันนี้ก็ได้ หรือถ้าใครอยากจะชื่นใจก็เป็นน้ำผสมอุทัยทิพย์ก็ได้เช่นกันครับ
แล้วก็จะมีคำถามต่อมาคือ หนูต้องกินกี่มื้อคะ แล้วสามารถทำได้นานแค่ไหน ก็ต้องตอบว่า เหมือนการทำ IF ทั่วไปเลย จะกินเป็น 3 มื้อในตอนแรกแล้วค่อยลดเหลือ 2 ก็ได้ หรือจะเป็นมื้อเดียวก็ได้ถ้าใครรู้สึกอิ่ม สิ่งสำคัญคือไม่กินจุกจิกระหว่างมื้อนะ แนะนำทำติดกันประมาณ 7 วันนะ ซึ่งอันนี้มันก็คล้ายๆ กับวิถี LC+IF นะ ก็เป็นการปรับการลดความให้เข้ากับวิถีชีวิต และความชอบของตัวเอง
อย่างไรก็ตามการทำชาบู Fasting เป็นเพียงหนึ่งในวิธีการลดน้ำหนัก ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับทุกคน การเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น
Advertisement