เจาะลึกเรื่อง ระบบภูมิคุ้มกัน กับ นพ.ธนีย์ ธนียวัน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปอด วิกฤตบำบัด และการปลูกถ่ายปอด พร้อมเปิด 6 วีธีดูแลตัวเองให้แข็งแรงในทุกวัน
ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของเราเนี่ย มันก็เหมือนกับ การป้องกันเมืองเมืองหนึ่ง เราต้องมีทหารมีตํารวจคอยตรวจตราสิ่งแปลกปลอม ถ้าเกิดว่าเราลองดูร่างกายของเราเนี่ย ส่วนนอกที่สุดก็คงจะเป็นผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ มันก็จะเป็นการที่เราป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายโดยตรง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ น้ำตา น้ำมูก น้ำลาย ของเราพวกนี้ก็จะมีสารที่เอาไว้ต้านเชื้อโรคได้ เชื้อโรคในที่นี้ก็เหมือนกับศัตรูที่เข้ามาจากนอกเมือง แต่ถ้าเกิดสมมุติว่าเชื้อโรคมันผ่านด่านพวกนี้เข้าไปได้แล้วเนี่ยนะครับ มันก็จะเจอกับระบบภูมิต้านทานอีก 2 ระบบ ระบบแรกก็คือ
• ระบบภูมิต้านทานที่มีมาตั้งแต่กําเนิด ชื่อว่า Innate immunity
ซึ่งระบบนี้มันจะตอบสนองแบบไม่ได้สนใจว่ามันมีความจําเพาะอะไร ขอแค่มันเป็นสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย มันก็จะจัดการแล้วนะครับ อันเนี้ยก็จะมีเซลล์ต่างๆ มากมายนะครับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดต่างๆ เช่น macrophage, neutrophil พวกนี้เป็นต้น แต่ถ้าเกิดว่ามันยังไม่สามารถกําจัดสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ไปได้ มันก็จะเข้าสู่กระบวนการที่ใช้สิ่งที่เหนือกว่านั้นก็จะเป็น
• ภูมิคุ้มกันชนิดที่มีการปรับให้มันเหมาะกับเชื้อโรคชนิดนั้น เราเรียกว่า Adaptive immunity
พวกนี้ก็แน่นอนครับ มันมีความสามรถสูงกว่าเพราะว่ามันสามารถออกแบบวิธีในการต่อต้านเชื้อโรคให้มันตรงกับสิ่งที่ร่างกายเราเจอได้ พวกนี้ก็จะมีเซลล์เม็ดเลือดขาวบางชนิด เช่น T-Lymphocytes, B-Lymphocytes หรือ พลาสมาเซลล์ บางคนอาจจะเคยได้ยินคําว่า แอนติบอดี ก็อยู่ในกรณีนี้ด้วยนะครับ
หลังจากที่ระบบนี้ถูกกระตุ้นแล้วเนี่ย มันก็จะสร้างเป็นความทรงจํา ถ้าครั้งหน้าเจอเชื้อโรคตัวเดิมมันก็จะตอบสนองได้เร็วมากขึ้น นี่คือกลไกการเกิดภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ถ้าเราป่วยบ่อย ติดเชื้อบ่อย หรือบางคนมีเริมขึ้นที่ปากทุกเดือนเลย หรือบางคนมี งูสวัด ตรงนั้นตรงนี้เยอะแยะไปหมดนั่นแปลว่าภูมิต้านทานของเราอาจจะผิดปกติ อาจจะต้องไปตรวจ รักษากับหมอนะครับ
ภูมิตกในทางการแพทย์ หมายความว่า ภูมิต้านทานของเราไม่สามรถจัดการกับเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ถ้าเกิดว่าเราไปเจอคนที่เขาไม่สบายมาแล้วเราติดเข้ามาในร่างกาย เราอาจจะติดง่ายกว่าคนอื่นเขา เช่นไปกัน 10 คนมีเราเป็นอยู่คนเดียวหรือเที่เราไม่สบายขึ้นมาทีหนึ่งเราหายยากแต่คนอื่นเขาหายง่าย
บางครั้งก็ป่วยบ่อยๆ แทนที่จะปีหนึ่งจะเป็นหวัดสักครั้งหนึ่ง เราอาจจะเป็น 3 ครั้ง 4 ครั้ง บางคนอาจจะเป็นหวัดนิดเดียว แต่เราเป็นทีไร เป็นไซนัสอักเสบ หูอักเสบ ปอดอักเสบ ทุกครั้งเลย ตรงนี้อาจแปลว่า ภูมิต้านทานของเราตกลง เนื่องจากว่ามันไม่สามารถสู้กับสิ่งแปลกปลอมได้อย่างที่มันควรจะเป็น
การบูสต์ภูมิ คือการที่ทำให้ภูมิต้านทานของเราทำงานได้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่างแรกคือ
• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
• รับประทานอาหารให้สมดุล
• อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
• ตัดคน Toxic ออกจากชีวิต
• ลดการเล่นโซเชียลไปอยู่กับธรรมชาติบ้าง
สิ่งนี้ช่วยเราได้เลยทีเดียว ซึ่งมีงานวิจัยที่ญี่ปุ่น ถ้าใครเคยไปที่ญี่ปุ่นจะรู้จักการ "อาบป่า" ก็คือช่วงวันหยุดพวกเขาจะไปกันที่ ป่าสน โดย ต้นสน หรือต้นไม้ใหญ่ เขาจะมีสารตัวหนึ่งชื่อว่า Phytoncide สารพวกนี้มันจะเป็นสารที่ต้นไม้เขาหลั่งออกมาเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคมาทำลายต้นไม้ แต่ว่ามันสามารถกระตุ้นภูมิต้านทานของเราได้ มันสามารถกระตุ้นเซลล์ตัวหนึ่งเรียกว่า Natural killer cell ซึ่งมันมีหน้าที่ในการกำจัดมะเร็ง ไวรัสต่างๆ ถ้าเซลล์กลุ่มนี้มันมีการกระตุ้นได้ดี มันก็จะป้องกันสิ่งต่างๆ เหล่านั้นได้ดีขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งสาร Phytoncide ที่เราไปได้มาจากธรรมชาติ ต้นไม้ใหญ่ๆ พวกนี้มันช่วยเราเรื่องนี้ได้ ไม่เพียงแค่นั้นการได้ไปเดินอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ นอกจากจะช่วยบูสต์ภูมิคุ้มกันให้เราแล้ว มันยังช่วยให้เรา สบายใจ ลดความเครียด ซึ่งความเครียดมันเป็นศัตรูกับภูมิต้านทานของเรา เรากำจัดมันออกไปก็เป็นสิ่งที่ดีกับร่างกายของเราครับ
Advertisement