สายซ่าเย็นชื่นใจต้องระวัง! เคสอุทาหรณ์ ดื่มน้ำอัดลมแทนน้ำเปล่า ป่วยหนัก เลือดเป็นกรด
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ปรียาภัทร โพธิ์ทอง ได้โพสต์ภาพร้อมเรื่องราวหวังเตือนเป็นอุทาหรณ์ หลังหลานสาว "กัสจัง" ป่วยหนักเพราะชอบดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ โดยระบุว่า
"รบกวนไม่เลื่อนผ่านนะคะโพสต์นี้ ฝากไว้เตือนทุกคนด้วยนะคะ
กัสจังเป็นเด็กชอบดื่มน้ำอัดลมมาก (เราได้แต่เตือนให้ลดๆ บ้าง) แต่ไม่ได้ห้ามลูก จนน้ำตาลในเลือดสะสมมาก และเลือดเป็นกรด กัสจังต้องเข้าห้องฉุกเฉิน หมอบอกว่าลูกของคุณ หัวใจพร้อมจะหยุดเต้น (มือ-เท้ากัสจังเขียวหมดแล้ว)
นาทีนั้น คิดเพียงว่า ทำยังไงก็ได้ให้หัวใจกัสจังกลับมาเต้นเป็นปกติ กัสจังโดนใส่ท่อช่วยหายใจขนาดใหญ่ แรงดันสูงสุด และฉีดยาอะไรเยอะแยะ เข็มจิ้มมือ 2 ข้าง เท้า 2 ข้าง สายอะไรไม่รู้เต็มไปหมด
กัสจังต้องนอนไอซียู 2 คืน ร้องหาแต่แม่ (แม่หนูล่ะๆ) แม่อยากเข้าไปอยู่ใกล้ใจจะขาด เพราะรู้ว่าลูกกลัวเข็ม กลัวหมอ (แต่ครั้งนี้กัสจัง ต้องต่อสู้กับความกลัวทุกอย่างคนเดียวในห้องฉุกเฉิน-ห้องไอซียู) แม่ทำได้แค่ยืนมองหน้าประตู
หลังจากพักฟื้น 2 วัน (ตรวจเจอฝีที่ขาอีก โดนผ่าฝีอีก) พอหมอให้กลับบ้านได้ เราสองคนแม่ลูกกอดกันร้องไห้ดีใจมาก ที่เราผ่านมาได้ (เพราะเรามีแม่ทัพที่เก่ง คือยายคนสวย) คนเก่งของแม่ #รักลูกอย่าลืมดูแลเรื่องการกิน #ดวงใจแม่ #ขอบคุณทุกคนที่รักและเป็นห่วงกัสจัง นะคะ"
นอกจากนี้ ยังมีภาพที่แคปมาจากไอจีของ กัสจัง ระบุว่า "กัสจังกินน้ำอัดลมมาตั้งแต่เด็ก กินแทนน้ำเปล่าเลยก็ว่าได้ บวกกับพักหลัง กินน้ำหวานต่างๆ กินตามใจตัวเองมากๆ
เดือน พ.ค. ร่างกายเริ่มเตือน น้ำหนักลงแบบฮวบเลย คือหายไป 5 โล ตอนแรกคิดว่าตรอมใจ กินอะไรไม่ลง แต่เราก็กินเหมือนเดิมนะ ฉี่บ่อย แบบบ่อยมากๆ วันนึงเกิน 10 รอบ แต่เราเป็นคนกินน้ำเยอะ เลยไม่ติดใจอะไร แต่เราเป็นคนไม่ชอบออกกำลังกาย ไม่ค่อยกินผักผลไม้ วันนึงเหงื่อแทบไม่ออก และพักหลังเริ่มไม่ถ่ายหนัก ท้องผูกด้วย
จนมาวันที่เข้า รพ. ตี 3 วันที่ 27 ลุกมาถ่ายหนัก 1 รอบ ใช้เวลานานมาก 20 นาทีได้ คือเข้าใจว่าคงท้องผูก ตี 4 ลุกมาถ่ายอีกรอบ เช้า 6 โมงลุกมาอาบน้ำแต่งตัวจะไป รร. สรุปมันเวียนหัว ไม่มีแรง คิดว่าคงไม่สบาย เลยลา รร. และนอน 1 ตื่น ตื่นมาถ่ายอีกรอบ และหายใจแรงมาก สั่งข้าวมากิน ลงไปเอาชั้นล่าง ขึ้นมา เหนื่อยแบบคนหอบ และก็จะอ้วก กินข้าวไป 2 คำ กินยาและนอน ตื่นมาถ่ายอีก ละเหนื่อยอีก วนแบบนี้ นอนถ่ายเหนื่อย จนครบ 5 รอบ เริ่มไม่มีแรง เลยโทรหาอาให้ชื้อยามาให้ กินข้าวกินยาไปนอนไปอีกตื่นนึง ก็ยังไม่ดีขึ้น เลยมา รพ.
และที่พีกคือ มาถึง รพ. อัตราการเต้นหัวใจกัสล่อ 30 กว่า คนปกติทั่วไปไม่เกิน 16 หัวใจแทบหลุดออกมา ค่าออกซิเจนคนเราต้องมี 96-100 กัสเหลือ 6 ค่าน้ำตาลคนเรา 100-120 กัส 350 น้ำตาลสูง เลือดเป็นกรด ส่งผลให้มีคาร์บอนในปอด เพราะเลือดสูบฉีดออกซิเจนไม่ทัน"
ขณะที่เพจฯ Dr. Dark ให้ข้อมูลเสริมในประเด็นดังกล่าวว่า "เป็นเบาหวาน (น่าจะไม่เคยตรวจมาก่อน) ดื่มแต่น้ำอัดลม จนน้ำตาลสูง เลือดเป็นกรด"
โรงพยาบาลเมดพาร์ค อธิบายถึง ภาวะเลือดเป็นกรด DKA (Diabetic ketoacidosis) ว่า เกิดขึ้นเมื่อระดับอินซูลินในร่างกายต่ำมาก ทำให้น้ำตาลในเลือดไม่สามารถเข้าไปในเซลล์ เพื่อถูกนำไปใช้เป็นพลังงาน
ผลที่ตามมา คือ ร่างกายจะย่อยไขมันเพื่อใช้เป็นพลังงานแทนน้ำตาล ซึ่งกระบวนการนี้อาจส่งผลให้เกิดการสะสมของกรดที่ชื่อ คีโตน ในกระแสเลือด หากปล่อยทิ้งไว้ คีโตนที่สะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จะก่อให้เกิดภาวะที่เรียกว่า เลือดเป็นกรด
ผู้ที่อาจเกิดภาวะเลือดเป็นกรด DKA ได้แก่ ผู้ป่วยเบาหวานประเภท 1 ผู้ที่เป็นเบาหวานแต่ยังไม่ได้รับการวินิจฉัย และผู้ป่วยบางคนที่เป็นเบาหวานชนิด Ketosis Prone ภาวะเลือดเป็นกรด DKA เกิดได้กับทุกวัย
โดยประมาณ 20-40 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่มีภาวะเลือดเป็นกรด DKA นั้น เป็นผู้ป่วยใหม่ของโรคเบาหวานประเภท 1 ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวานประเภท 2 ยังอาจมีภาวะเลือดเป็นกรด DKA ได้ ถึงแม้จะเป็นไปได้ยาก
Advertisement