Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
สารหนู มัจจุราชเงียบ เช็กอาการเฉียบพลัน สะสมร่างกายก่อสารพัดโรคร้าย

สารหนู มัจจุราชเงียบ เช็กอาการเฉียบพลัน สะสมร่างกายก่อสารพัดโรคร้าย

22 พ.ค. 68
18:04 น.
แชร์

สารหนู ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้รส เปรียบดั่ง "มัจจุราชเงียบ" เช็กอาการป่วยได้รับสารพิษเฉียบพลัน สะสมร่างกายนานก่อโรคร้ายอะไรบ้าง วิธีป้องกันสุขภาพ

สารหนู สารเคมีที่แม้จะดูไกลตัว แต่ความจริงแล้วใกล้กว่าที่คิด สามารถพบได้ในอาหารที่เรากิน น้ำที่เราดื่ม หรือแม้กระทั่งอากาศที่เราหายใจ

สารหนูเป็น "ภัยเงียบ" เพราะสามารถสะสมในร่างกายโดยไม่แสดงอาการในทันที แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับก่อให้เกิดโรคร้ายแรงนานัปการ ตั้งแต่มะเร็ง จนถึงความผิดปกติทางระบบประสาท

Amarin Online จะพาคุณไปรู้จักกับสารหนู "มัจจุราชเงียบ" พร้อมเตือนถึงอันตรายที่อาจมาที่เราคาดไม่ถึงและวิธีการป้องกันตัวเอง

สารหนู คืออะไร

สารหนู (Arsenic) เป็นธาตุธรรมชาติที่พบได้ในเปลือกโลกในรูปแบบสารประกอบต่าง ๆ มีทั้งแบบอินทรีย์ และอนินทรีย์ ซึ่งรูปแบบหลังนี้มีความเป็นพิษสูงกว่าอย่างมาก

ประเภทของสารหนู

• สารหนูอินทรีย์ (Organic Arsenic) : พบในสัตว์ทะเล เช่น ปลา กุ้ง ปู โดยทั่วไปจะถูกขับออกจากร่างกายได้รวดเร็ว มีพิษน้อย

• สารหนูอนินทรีย์ (Inorganic Arsenic) : พบในน้ำใต้ดิน ดิน และหิน มีความเป็นพิษสูง ตกค้างในร่างกายได้นาน และเป็นสาเหตุของโรคหลายชนิด

สารหนูเป็นสารไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่มีรส จึงไม่สามารถรู้ได้ว่ามีอยู่ในอาหารหรือน้ำได้จากการสัมผัสหรือชิม จำเป็นต้องใช้การตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ

2. แหล่งที่มาของสารหนู

ธรรมชาติ

สารหนูสามารถพบได้ตามธรรมชาติในหิน ดิน และน้ำใต้ดินบางพื้นที่โดยเฉพาะแหล่งที่มีภูเขาไฟหรือเหมืองแร่เก่า เมื่อฝนตกลงมาหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงของน้ำใต้ดิน สารหนูสามารถละลายเข้าสู่น้ำดื่มและเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร

การกระทำของมนุษย์

• อุตสาหกรรมเหมืองแร่ : การทำเหมืองโดยไม่จัดการสารพิษที่แฝงในหินอาจทำให้สารหนูแพร่สู่ดินและน้ำ

• การใช้สารเคมีทางการเกษตร : สารกำจัดศัตรูพืชบางชนิดในอดีตมีส่วนผสมของสารหนู แม้ปัจจุบันจะถูกห้ามใช้ในหลายประเทศ แต่ผลตกค้างในดินยังคงมีอยู่

• โรงงานอุตสาหกรรม : การผลิตเหล็ก เหล็กกล้า เซรามิกส์ และแก้วบางประเภทมีการใช้หรือปล่อยสารหนูออกสู่สิ่งแวดล้อม

สารหนูในน้ำ

น้ำบาดาลที่ไม่ผ่านการกรองอย่างเหมาะสมในหลายพื้นที่ทั่วโลกมีการพบสารหนูในปริมาณเกินมาตรฐาน องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดค่ามาตรฐานสารหนูในน้ำดื่มไม่เกิน 10 ไมโครกรัมต่อลิตร แต่ในบางประเทศ เช่น บังคลาเทศ พบได้สูงถึง 200–500 ไมโครกรัมต่อลิตร

สารหนูเข้าสู่ร่างกายได้อย่างไร

• การดื่มน้ำ : แหล่งหลักในการรับสารหนูเข้าสู่ร่างกาย

• การรับประทานอาหาร : โดยเฉพาะข้าว ปลา อาหารทะเล

• การหายใจ : โดยเฉพาะในพื้นที่โรงงานที่มีการปล่อยสารหนู

• ทางผิวหนัง : จากการอาบน้ำหรือสัมผัสน้ำที่ปนเปื้อนสารหนูเป็นเวลานาน

เมื่อเข้าสู่ร่างกาย สารหนูจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด แพร่กระจายไปยังอวัยวะต่าง ๆ เช่น ตับ ไต ผิวหนัง ปอด และสามารถสะสมอยู่ในร่างกายได้เป็นเวลานาน

สารหนูก่อให้เกิดโรคอะไร

สารหนูเป็นพิษที่ไม่ก่อให้เกิดอาการในทันทีหลังได้รับเข้าสู่ร่างกาย แต่เมื่อสะสมในระยะยาว สามารถก่อให้เกิดโรคร้ายแรงจำนวนมาก โดยเฉพาะโรคเรื้อรังที่ค่อยๆ บั่นทอนสุขภาพจนผู้ได้รับพิษไม่ทันรู้ตัว

1. ผลกระทบเฉียบพลันจากการได้รับสารหนูในปริมาณสูง

แม้ส่วนใหญ่สารหนูจะสร้างผลกระทบเรื้อรังในระยะยาว แต่หากร่างกายได้รับในปริมาณมากอย่างเฉียบพลัน อาการจะรุนแรงและสามารถทำให้เสียชีวิตได้

อาการทั่วไป

• คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องรุนแรง

• ท้องเสีย (บางครั้งรุนแรงถึงขั้นมีเลือด)

• อ่อนแรง ชัก หรือหมดสติ

• ความดันโลหิตลดลง หัวใจเต้นผิดปกติ

• อาจนำไปสู่ไตวายเฉียบพลันหรือเสียชีวิตภายใน 24–48 ชั่วโมง

2. ผลกระทบเรื้อรังจากการสะสมสารหนู

2.1 มะเร็งชนิดต่างๆ

องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้ สารหนูอนินทรีย์ เป็นสารก่อมะเร็งชนิดรุนแรงระดับ 1 (Group 1 Carcinogen)

• มะเร็งผิวหนัง: เป็นมะเร็งชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ที่สัมผัสสารหนูระยะยาว อาการอาจเริ่มจากจุดสีน้ำตาลบนผิวหนังที่กลายเป็นแผลเรื้อรัง

• มะเร็งปอด: เกิดจากการสูดดมสารหนูจากอากาศในพื้นที่เสี่ยง เช่น โรงงาน หรือเหมืองแร่

• มะเร็งตับและกระเพาะปัสสาวะ: จากการได้รับสารหนูผ่านทางอาหารและน้ำดื่มเป็นประจำ

2.2 โรคหัวใจและหลอดเลือด

การศึกษาหลายชิ้นชี้ว่าสารหนูเพิ่มความเสี่ยงต่อ

• ภาวะความดันโลหิตสูง

• ภาวะหลอดเลือดตีบ

• หัวใจวายเฉียบพลัน

โดยกลไกหนึ่งคือการที่สารหนูทำให้เกิด การอักเสบของเยื่อบุหลอดเลือด ส่งผลให้เกิดการสะสมของคราบไขมันและอุดตัน

2.3 เบาหวานชนิดที่ 2

สารหนูส่งผลต่อ การทำงานของอินซูลิน และการตอบสนองของเซลล์ร่างกายต่ออินซูลิน ทำให้ความสามารถในการควบคุมระดับน้ำตาลลดลง เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานในกลุ่มที่ไม่เคยมีประวัติ

2.4 ระบบประสาทและสมอง

โดยเฉพาะในเด็กที่มีพัฒนาการทางสมองอย่างต่อเนื่อง สารหนูสามารถ

• ทำให้ ไอคิวต่ำลง

• เกิดความผิดปกติด้านการเรียนรู้และพฤติกรรม

• ทำให้เซลล์ประสาทเสียหายแบบไม่สามารถฟื้นตัวได้

ในผู้ใหญ่ อาจส่งผลต่อ

• ความจำเสื่อม

• ภาวะซึมเศร้า หรือวิตกกังวลเรื้อรัง

• ความสามารถในการตัดสินใจลดลง

2.5 ปัญหาทางผิวหนัง

• จุดดำตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า

• ผิวหนังหนาผิดปกติ (hyperkeratosis)

• ผื่นเรื้อรังที่ไม่หายขาด

3. กลุ่มเสี่ยงสูง

เด็กเล็ก

เด็กมีอวัยวะที่ยังไม่พัฒนาเต็มที่ การได้รับสารหนูแม้ในปริมาณน้อยก็อาจมีผลกระทบต่อระบบสมอง ระบบประสาท และการเจริญเติบโตในระยะยาว

หญิงตั้งครรภ์

การได้รับสารหนูในระหว่างตั้งครรภ์อาจนำไปสู่

• การแท้งบุตร

• ทารกมีน้ำหนักแรกเกิดต่ำ

• ความผิดปกติของระบบอวัยวะและสมองของทารก

ผู้สูงอายุ

เนื่องจากระบบขับของเสียเสื่อมถอยตามอายุ สารหนูที่เข้าสู่ร่างกายจึงอาจสะสมในระดับที่สูงกว่าคนทั่วไป นำไปสู่โรคเรื้อรังอย่างรวดเร็วขึ้น

4. สารหนูทำลายร่างกายอย่างไร

4.1 กลไกการเกิดพิษในระดับเซลล์

สารหนูส่งผลต่อ

• ไมโตคอนเดรีย (แหล่งผลิตพลังงานของเซลล์) ทำให้เซลล์ตายจากความเครียดภายใน

• การทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมดีเอ็นเอ

• ก่อให้เกิด อนุมูลอิสระ ที่ทำลายเซลล์

4.2 การกลายพันธุ์ของยีน

มีหลักฐานว่า สารหนูสามารถเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อบุคคลนั้นเท่านั้น แต่ยังอาจถ่ายทอดไปยังลูกหลานได้ด้วย

5. หลักฐานจากการศึกษา

• บังคลาเทศ: ประชากรกว่า 20 ล้านคนดื่มน้ำปนเปื้อนสารหนูที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ พบความสัมพันธ์กับอัตรามะเร็งผิวหนังและปอดที่สูงผิดปกติ

• ไต้หวัน: พบความชุกของโรคเบอร์เกอร์ (โรคหลอดเลือดอักเสบ) ในพื้นที่ที่มีสารหนูในน้ำดื่ม

• ไทย : ปลายปี พ.ศ. 2530 พื้นที่เหมืองแร่เก่า เช่น ที่ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช พบสารหนูปนเปื้อนในน้ำและดิน ทำให้มีผู้ป่วยมะเร็งผิวหนังและโรคผิวหนังเรื้อรังจำนวนมาก

และล่าสุด 22 พ.ค. 2568 ปรากฏการณ์กระทบต่อสุขภาพของประชาชนชาวไทย และต้องเฝ้าระวังขณะนี้ก็คือการ พบสารหนูและตะกั่ว ปนเปื้อนในแม่น้ำกก จ.เชียงราย หลายจุดเกิดค่ามาตรฐาน

กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนไปยังประชาชนหลีกเลี่ยงบริโภคปลาน้ำจืดในแหล่งน้ำที่มีความเสี่ยง พร้อมออกคำแนะนำในการป้องกันตนเองในเบื้องต้นสารพิษปนเปื้อน พร้อมตรวจหาสารหนูในระบบห่วงโซ่อาหารนาน 4 เดือน ตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำประปาหมู่บ้าน และได้ประสาน รพ.สต.และโรงพยาบาลในพื้นที่เฝ้าระวังอาการผิดปกติที่อาจเชื่อมโยงกับพิษสารหนูและตะกั่ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยจากพิษสารหนูเรื้อรัง

การปฐมพยาบาลเบื้องต้นกรณีได้รับสารหนู

• หากสงสัยว่าได้รับสารหนูเฉียบพลัน ให้รีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว

• ห้ามทำให้ผู้ป่วยอาเจียน

• พยายามจดจำหรือเก็บตัวอย่างอาหาร น้ำ หรือสารที่สงสัยว่าเป็นต้นเหตุ เพื่อนำไปให้แพทย์ตรวจสอบ

อ้างอิงข้อมูล : องค์การอนามัยโลก (WHO) / ฐานความรู้ความปลอดภัยด้านสารเคมี / อบจ.เชียงราย / human rights watch

Advertisement

แชร์
สารหนู มัจจุราชเงียบ เช็กอาการเฉียบพลัน สะสมร่างกายก่อสารพัดโรคร้าย