Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ปวดคอเรื้อรัง นำไปสู่โรคทางจิตเวชได้ ความเครียด กระตุ้นให้ยิ่งปวด

ปวดคอเรื้อรัง นำไปสู่โรคทางจิตเวชได้ ความเครียด กระตุ้นให้ยิ่งปวด

31 ต.ค. 68
15:58 น.
แชร์

ปวดคอเรื้อรัง ไม่ใช่เรื่องเล็ก ส่งผลทั้งกาย–ใจ เสี่ยงสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิต รู้เร็ว ป้องกันก่อนสายเกินไป

การก้มหน้าดูจอสมาร์ทโฟนเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน อาจกำลังทำร้ายคอและจิตใจคุณอย่างเงียบ ๆ อาการปวดคอแบบไม่จำเพาะเจาะจง (Non-specific Neck Pain) เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุดในยุคดิจิทัลนี้

โดยสถิติจากพบว่าผู้ป่วยถึง 70–80% มีอาการปวดคอแบบไม่ชัดเจน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงาน ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่แท้จริงแล้วนี่คือสัญญาณเตือนร้ายแรงของร่างกายที่ไม่ควรมองข้าม

โรงพยาบาลพระรามเก้า โดยศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ผนึกความร่วมมือกับ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เปิดเวทีประชุมวิชาการระดับประเทศ “Update in Common Neck Pain 2025” โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู ออร์โธปิดิกส์ และประสาทวิทยามาร่วมถ่ายทอดมุมมองการรักษาแบบองค์รวม ครอบคลุมตั้งแต่ลักษณะของอาการปวดคอ การวินิจฉัยแยกโรค การปรับตัวของระบบกล้ามเนื้อและประสาท การควบคุมท่าทาง การฟื้นฟูด้วยการออกกำลังกายเชิงประสาท ไปจนถึงเทคโนโลยีการกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็ก (Magnetic Stimulation)

ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ที่ได้รับความสนใจในวงการแพทย์ระดับโลก สะท้อนความมุ่งมั่นของสองสถาบันชั้นนำในการยกระดับมาตรฐานเวชศาสตร์ฟื้นฟูของไทยให้เทียบเท่าสากล

นพ.ชนศักดิ์ หทัยอารีย์รักษ์ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลพระรามเก้า อธิบายว่า อาการปวดคอเรื้อรังไม่ได้สร้างความเจ็บปวดทางร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับความเครียด วิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า ซึ่งสามารถกระตุ้นให้ความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้เพียงการสัมผัสเบา ๆ หรือ ความเครียดเล็กน้อยก็สามารถปลุกอาการปวดได้ กลไกนี้เกี่ยวข้องกับสารสื่อประสาทสำคัญ เช่น เซโรโทนิน, นอร์เอพิเนฟรีน หากขาดหายไปอาจนำไปสู่โรคทางจิตเวช หรือทำให้อาการทางจิตที่มีอยู่เดิมกำเริบได้

อาการปวดคอเรื้อรังส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยบางรายไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ต้องลาหยุดงาน หรือใช้ชีวิตอย่างจำกัด หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง อาการปวดเรื้อรังนี้สามารถลุกลามจนบั่นทอนคุณภาพชีวิตอย่างแท้จริง กลุ่มเสี่ยงพบมากในวัยรุ่นตอนปลายถึงวัยทำงานตอนต้น โดยพบในเพศชายและหญิงใกล้เคียงกัน สาเหตุสำคัญเกิดจากไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการใช้งานหน้าจอในท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน

นพ.ชนศักดิ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การรักษาอาการปวดคอแบบไม่จำเพาะเจาะจงจำเป็นต้องใช้แนวทางแบบองค์รวมและสหสาขาวิชาชีพ ร่วมกับแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ศัลยแพทย์กระดูก จิตแพทย์ นักกายภาพบำบัด และนักกิจกรรมบำบัด โดยการรักษาครอบคลุมทั้งการฟื้นฟูทางกายภาพ การปรับพฤติกรรม และการดูแลทางจิตใจ การทำกายภาพบำบัดถือเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งสามารถใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การประคบร้อนหรือเย็น คลื่นอัลตราซาวด์ คลื่นช็อกเวฟ คลื่นไฟฟ้า และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อคลายกล้ามเนื้อและฟื้นฟูความแข็งแรง

การปรับท่าทางให้ถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็น เช่น การจัดระดับหน้าจอ คีย์บอร์ด และเก้าอี้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม รวมถึงการเปลี่ยนอิริยาบถทุก 30–60 นาที จะช่วยลดแรงกดต่อคอและบ่าได้อย่างมาก นอกจากนี้ การออกกำลังกายเบื้องต้น เช่น ท่าเก็บคาง (Chin Tuck) โดยค้างไว้ 10 วินาที ทำซ้ำ 10 ครั้งต่อรอบ วันละ 3 รอบ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอชั้นลึก และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการปวดซ้ำ

ด้าน นพ.วิทยา วันเพ็ญ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า และจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ว่า ความเครียด วิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า สามารถกระตุ้นให้อาการปวดรุนแรงขึ้นได้อย่างมหาศาล การทำจิตบำบัดและการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาทางกาย งานวิจัยจำนวนมากยืนยันว่า ความเครียดและอาการปวดเรื้อรังคือสองด้านของเหรียญเดียวกัน ที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลควบคู่กัน

“อาการปวดคอเรื้อรัง” ที่ยาวนานเกิน 3 เดือนถือเป็นสัญญาณเตือนอันตรายที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะวงจรของความปวดและความเครียดสามารถขัดขวางการฟื้นฟูของร่างกาย และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตในระยะยาว ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าหรือวิตกกังวล มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการปวดเรื้อรังหลังจากการบาดเจ็บ ดังนั้นการดูแลแบบองค์รวมที่ใส่ใจทั้งร่างกายและจิตใจ จึงเป็นหัวใจสำคัญของการฟื้นตัวที่ยั่งยืน

นพ. วิทยา ให้ข้อมูลปิดท้ายว่า อาการปวดคอไม่ใช่เรื่องเล็ก การเริ่มต้นปรับพฤติกรรม จัดสภาพแวดล้อม และบริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด หากอาการปวดต่อเนื่องหรือรบกวนชีวิตประจำวัน ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามจนบั่นทอนคุณภาพชีวิต เป้าหมายของการรักษาไม่ใช่เพียงการสมานร่างกาย แต่คือการฟื้นฟู “คนทั้งคน” ทั้งกายและใจ เพราะการขอความช่วยเหลือไม่ใช่ความอ่อนแอ หากแต่เป็นก้าวที่ทรงพลังที่สุดสู่การหายดีอย่างแท้จริง

“อย่าปล่อยให้อาการปวดคอเป็นเรื่องเล็กอีกต่อไป เพราะการเริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ คือการลงทุนเพื่อร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงในวันข้างหน้า การฟื้นฟูไม่ใช่เพียงแค่รักษาอาการ แต่คือการคืนคุณค่าให้ชีวิตของคุณ เพราะคุณคือคนสำคัญที่สุดที่ควรได้รับการดูแลอย่างแท้จริง”

Advertisement

แชร์
ปวดคอเรื้อรัง นำไปสู่โรคทางจิตเวชได้ ความเครียด กระตุ้นให้ยิ่งปวด