Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ชาวออฟฟิศต้องระวัง! นั่งนาน ขยับน้อย เสี่ยงหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น

ชาวออฟฟิศต้องระวัง! นั่งนาน ขยับน้อย เสี่ยงหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น

19 ก.ค. 68
07:00 น.
แชร์

หลายคนอาจคิดว่า "แค่ปวดหลังเล็กน้อย เดี๋ยวก็หาย" แต่รู้หรือไม่ว่า อาการปวดหลังหรือปวดคอเรื้อรัง ที่หลายคนมองข้ามนั้น อาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรค "หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น" หากปล่อยไว้นานเกินไป อาการจะรุนแรงขึ้นจนยากจะรักษาให้กลับมาเหมือนเดิม

นายแพทย์กิติเดช บุญชัย ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ ชำนาญการด้านโรคกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น (Herniated Disc) คือ ภาวะที่หมอนรองกระดูกสันหลังซึ่งทำหน้าที่รองรับแรงกระแทกและช่วยให้กระดูกสันหลังเคลื่อนไหวอย่างยืดหยุ่น เกิดการฉีกขาดหรือเคลื่อนออกจากตำแหน่งปกติ จนไปกดทับเส้นประสาทที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้เกิดอาการปวดและชาตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหลัง คอ สะโพก หรือขา

หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นอาจมีอาการที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ปลิ้นและความรุนแรงของการกดทับเส้นประสาท เช่น

• ปวดหลังหรือคอเรื้อรัง โดยเฉพาะเวลาขยับตัวหรือยกของหนัก

• ปวดร้าวไปตามแนวเส้นประสาท เช่น ปวดร้าวลงขา กรณีปลิ้นบริเวณเอว หรือปวดร้าวลงแขน กรณีปลิ้นบริเวณคอ

• อาการชาหรืออ่อนแรง บริเวณขา แขน หรือมือ

• รู้สึกเสียวหรือปวดแปล๊บเหมือนไฟฟ้าช็อต เมื่อมีการขยับหรืออยู่ในท่าบางอย่าง

• กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเคลื่อนไหวลำบาก

• หากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา อาจทำให้เกิดอาการรุนแรงขึ้น เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง กล้ามเนื้อฝ่อลีบ ปวดร้าว ชามากขึ้น หรือ มีปัญหาเรื่องการควบคุมปัสสาวะ-อุจจาระ

สาเหตุของหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นสามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น มักพบในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30-50 ปีขึ้นไป, การใช้งานกระดูกสันหลังผิดท่า เช่น การยกของหนัก การนั่งหรือยืนในท่าที่ไม่ถูกต้อง, อุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บ ที่ส่งผลต่อกระดูกสันหลังโดยตรง, น้ำหนักตัวเกิน (โรคอ้วน) เพิ่มแรงกดที่กระดูกสันหลัง, และขาดการออกกำลังกาย ทำให้กล้ามเนื้อหลังไม่แข็งแรงพอในการพยุงกระดูกสันหลัง

การตรวจวินิจฉัยโรคหมอนรองกระดูกปลิ้นทับเส้นประสาท แพทย์จะวินิจฉัยได้จากการซักประวัติและตรวจร่างกายเป็นหลัก และอาจมีการตรวจเพิ่มเติมเช่น การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ที่จะช่วยในการตรวจวินิจฉัยอาการปวดหลังที่ต้นเหตุได้

สำหรับการรักษาโรคหมอนรองกระดูกปลิ้นในรายที่อาการไม่รุนแรงหรืออยู่ในระยะเริ่มต้น แพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยการใช้ยาแก้ปวด กายภาพบำบัด และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน6 เดือน หรือ มีอาการเปลี่ยนแปลงเป็นมากขึ้นจนรบกวนชีวิต ประจำวัน เช่น ปวดร้าวลงขามาก นอนพักไม่ได้ เดินได้น้อย หรือ มีปัญหาเรื่องการควบคุมปัสสาวะ อุจจาระ การผ่าตัดอาจเป็นทางเลือกหนึ่งของการรักษาโดยปัจจุบันมีเทคนิคการผ่าตัดด้วยกล้อง Endoscope ซึ่งแผลผ่าตัดจะมีขนาดเล็กประมาณ 1 เซนติเมตร ลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อ ส่งผลให้ความเจ็บปวดจากแผลผ่าตัดน้อยลง ใช้ระยะเวลาในการนอนโรงพยาบาลสั้น ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวและกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติเร็วขึ้น

แม้ว่าเราไม่อาจหลีกเลี่ยงโรคหมอนรองกระดูกปลิ้นที่เกิดจากความเสื่อมตามวัยได้ แต่เราสามารถชะลอการเกิดและลดความรุนแรงของอาการได้ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง ทั้งการควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ออกกำลังกายตามความเหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูบบุหรี่ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ นั่ง ยืน ก้ม เงยและยกของหนักในท่าที่ถูกต้อง เปลี่ยนอิริยาบถขณะนั่งทำงานบ่อย ๆ รวมทั้งระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุที่อาจส่งผลกระทบต่อกระดูกสันหลัง

Advertisement

แชร์
ชาวออฟฟิศต้องระวัง! นั่งนาน ขยับน้อย เสี่ยงหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น