การใช้งานปุ่ม O/D ที่รถยนต์รุ่นใหม่อยู่ตรงไหน ไม่เห็นมีสักหน่อย!
ต้องขอบอกก่อนว่า ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในสมัยนี้ถูกพัฒนาขึ้นไปให้มีความฉลาดอัจริยะมากขึ้น ทำให้ปุ่มนี้หายไป กลายเป็นโหมดใช้งานต่างๆ แทน
ปุ่ม O/D ใช้งานยังไง และควรจะใช้ตอนไหน? บางคนบอกว่ากดปุ่มนี้แล้วเครื่องจะกินน้ำมันน้อยลง แต่บางคนก็บอกว่าให้กดปุ่มนี้เวลาจะแซงรถคันหน้า ไม่ทราบว่าแบบไหนถึงจะถูก งงล่ะสิ!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เรื่องราวเกี่ยวกับปุ่ม O/D นี้ หลาย ๆ คนที่เพิ่มขับรถใหม่ ๆ อาจจะซื้อรถยนต์มือสองมาใช้ และมักจะสับสนเกี่ยวกับเจ้าปุ่มนี้ หรือบางคนอาจจะขับรถมาเป็นสิบ ๆ ปี แต่ยังไม่เข้าใจในเรื่อง O/D หรือ OVERDRIVE ก็ยังมีอีกไม่น้อย เชื่อมั้ย?
สำหรับเรื่อง ปุ่ม O/D ที่หลายคนข้องใจ ขออธิบายคร่าว ๆ แบบนี้ ปุ่ม O/D ที่ว่านี้ ถ้าจะเรียกชื่อเต็ม ๆ ก็เรียกว่า ปุ่มโอเวอร์ไดร์ฟ (OVERDRIVE) ปุ่มนี้ถ้าจะอธิบายให้ฟังง่าย ๆ ก็เป็นปุ่มสำหรับเข้าตำแหน่งเกียร์สูงสุดของรถนั่นเอง หรือเป็นตำแหน่งเกียร์ประหยัดของรถนั่นเอง เมื่อเกียร์อยู่ในตำแหน่งนี้แล้ว รถก็จะกินน้ำมันเชื้อเพลิงน้อยลง
ข้อดีของ O/D เมื่อใช้แล้วจะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ข้อเสีย คือ จะทำให้รถไม่มีกำลังในการเร่งแซง เพราะเมื่อใช้อัตราทด O/D แล้ว เพลาเกียร์จะหมุนได้ 1 รอบในขณะที่เครื่องยนต์หมุนไม่ถึง 1 รอบ ในขณะที่ตำแหน่งเกียร์อื่น ๆ เครื่องยนต์จะหมุนมากกว่าหรือเท่ากับรอบของเพลาเกียร์ ซึ่งแบบนี้ก็ไม่ถือว่าประหยัดน้ำมัน
เมื่อ O/D ทำให้เครื่องยนต์หมุนน้อยรอบกว่าเพลาเกียร์ ก็เลยทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่านั่นเอง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ทำให้เครื่องยนต์ส่งกำลังฉุดลากออกมาได้น้อยลงตามไปด้วย เพราะรอบเครื่องยนต์หมุนอยู่ไม่สูงมากนัก คุณทดลองดูก็ได้ โดยขับรถที่ความเร็ว 100 กม./ช.ม. และยังไม่ใช้ O/D (สังเกตที่หน้าปัดจะมีคำว่า OVERDRIVE OFF ขึ้น)
สมมติว่าที่ความเร็วระดับนี้ รอบเครื่องยนต์อยู่ที่ 3000 รอบ/นาที แล้วลองกดที่ปุ่ม O/D ดู (สังเกตที่หน้าปัดคำว่า OVERDRIVE OFF จะดับลง) สังเกตว่ารอบเครื่องยนต์จะลดต่ำลงทันที เหลือประมาณ 2500 รอบ/นาทีหรือต่ำกว่านั้น นั่นแสดงว่า คุณกำลังใช้งานเกียร์ O/D อยู่ รอบเครื่องยนต์ที่หายไปกว่า 500 รอบ/นาทีนั้น ก็ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้เยอะเลย แต่ถ้ากดปุ่ม O/D ซ้ำอีกครั้ง (สังเกตที่หน้าปัดจะมีคำว่า OVERDRIVE OFF สว่างขึ้นอีกครั้ง) ก็จะเป็นการปลดตำแหน่งเกียร์ O/D หรือเกียร์ประหยัดออก รอบเครื่องก็จะหมุนสูงขึ้นไปอยู่ที่ 3000 รอบ/นาทีเช่นเดิม
ส่วนจะใช้ O/D ตอนไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ขับเอง ถ้าขับใช้งานตามปรกติก็เปิด O/D ไว้ เพื่อความประหยัด แต่ไม่ควรใช้ O/D ในขณะที่ความเร็วรถต่ำกว่า 60 กม./ช.ม. เพราะจะทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าปรกติ และยังเสี่ยงทำให้เกียร์พังเร็วกว่าเดิมด้วย
อีกอย่างก็ไม่ควรใช้ O/D ในขณะเร่งแซงในที่คับขัน เพราะกำลังในการฉุดลากไม่เพียงพอ ความเร็วของรถขึ้นช้า อาจจะทำให้แซงไม่พ้นเกิดอันตรายได้ ที่สำคัญยังเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าปรกติหลายเท่าด้วย ดังนั้นเวลาเร่งแซงในที่คับขัน ซึ่งรถต้องการกำลังส่งมาก ก็ควรปลด O/D หรือ OVERDRIVE OFF ซะก่อน เพื่อที่รถจะได้มีกำลังเร่งแซงมากขึ้นนั่นเอง
หวังว่าคงจะเข้าใจเรื่องของ OVERDRIVE หรือ O/D มากขึ้นนะ จากนี้ไปคงใช้งานเกียร์ O/D ได้อย่างถนัดและคล่องแคล่วกว่าเดิมได้
