ในภาคเกษตรกรรมยุคใหม่ "รถทำการเกษตร" ไม่ได้หมายถึงแค่รถไถเพียงอย่างเดียว แต่เป็นคำที่ครอบคลุมเครื่องจักรและยานพาหนะหลากหลายประเภทที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยเกษตรกรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดภาระแรงงาน และเพิ่มผลผลิตได้อย่างยั่งยืน โดยหลักๆ แล้ว เราสามารถแบ่งรถทำการเกษตรออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ดังนี้
รถแทรกเตอร์ (Tractor)
รถแทรกเตอร์ คือ ยานยนต์หลักที่ออกแบบมาเพื่อ สร้างแรงฉุดลาก (Tractive Effort) สูงที่ความเร็วต่ำ มีบทบาทเป็น "ต้นกำลัง" หรือ "หัวใจ" ของงานเกษตรกรรม ทำหน้าที่ลากจูง ดัน หรือขับเคลื่อนอุปกรณ์และเครื่องมือการเกษตรต่างๆ ผ่านระบบส่งกำลังสำรอง (Power Take-Off - PTO)
ประเภทของรถแทรกเตอร์ (แบ่งตามขนาดและลักษณะการใช้งาน)
- รถไถเดินตาม (Power Tiller / Walking Tractor) การทำงาน ใช้พรวนดิน เตรียมแปลงปลูกผักในพื้นที่ขนาดเล็กมาก หรือเป็นเครื่องต้นกำลังลากพ่วงขนาดเล็กเครื่องยนต์ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลสูบเดียว หรือเบนซินขนาดเล็กเชื้อเพลิง น้ำมันดีเซล หรือ น้ำมันเบนซินระบบขับเคลื่อน ล้อสองล้อ ผู้ใช้งานเดินตามควบคุม
- รถแทรกเตอร์นั่งขับขนาดเล็ก (Compact Utility Tractor) การทำงาน เหมาะสำหรับสวนขนาดเล็ก ฟาร์มขนาดกลาง งานบำรุงรักษาสนามหญ้า หรืองานเกษตรอเนกประสงค์ขนาดเล็ก-กลางเครื่องยนต์ ดีเซลเชื้อเพลิง น้ำมันดีเซลระบบขับเคลื่อน มีทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) และ 4 ล้อ (4WD)
- รถแทรกเตอร์อเนกประสงค์/ขนาดกลาง (Utility Tractor) การทำงาน เป็นที่นิยมใช้มากที่สุดในไร่นาขนาดกลางถึงใหญ่ ทำงานได้หลากหลาย เช่น ไถ พรวน เตรียมดิน ปลูก และดูแลพืชผลเครื่องยนต์ ดีเซลเชื้อเพลิง น้ำมันดีเซล (รองรับไบโอดีเซลบางชนิด) ระบบขับเคลื่อน มีทั้ง 2WD และ 4WD (4WD นิยมมากกว่า)
- รถแทรกเตอร์ขนาดใหญ่ (High Horsepower Tractor) การทำงาน สำหรับไร่นาขนาดใหญ่มาก หรืองานที่ต้องการกำลังสูงเป็นพิเศษ เช่น การไถลึก การเตรียมแปลงขนาดใหญ่ การลากจูงเครื่องจักรขนาดใหญ่และหนักมากเครื่องยนต์ ดีเซลเชื้อเพลิง น้ำมันดีเซล (รองรับไบโอดีเซลบางชนิด)ระบบขับเคลื่อน ส่วนใหญ่เป็น 4WD (อาจเป็นล้อยางคู่ หรือตีนตะขาบ)
- รถแทรกเตอร์ตีนตะขาบ (Crawler/Track Tractor) การทำงาน เหมาะสำหรับงานที่ต้องการแรงฉุดลากสูงมากเป็นพิเศษ และการกระจายน้ำหนักลงบนพื้นที่กว้างเพื่อลดการทรุดตัวในพื้นที่อ่อนนุ่ม เป็นโคลน หรือลาดชันมากๆเครื่องยนต์ ดีเซลเชื้อเพลิง น้ำมันดีเซลระบบขับเคลื่อน ตีนตะขาบ
เครื่องจักรกลการเกษตรประเภทอื่นๆ (Agricultural Machinery)
เป็นคำที่ครอบคลุมยานพาหนะและอุปกรณ์ทุกชนิดที่ใช้ในงานเกษตรกรรม นอกเหนือจากรถแทรกเตอร์ ซึ่งอาจทำงานร่วมกับรถแทรกเตอร์ หรือเป็นเครื่องจักรที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง
ประเภทและประโยชน์ (พร้อมเครื่องยนต์และเชื้อเพลิง)
- เครื่องเตรียมดิน ผานไถ, จอบหมุน, คราด/พรวนสปริง ต่อพ่วงกับรถแทรกเตอร์ ใช้เครื่องยนต์ของแทรกเตอร์ประโยชน์ พลิกหน้าดิน ย่อยดินให้ละเอียด กำจัดวัชพืช เตรียมแปลงปลูก
- เครื่องปลูกและหว่าน เครื่องหยอดเมล็ด, เครื่องปลูก ต่อพ่วงกับรถแทรกเตอร์ ใช้เครื่องยนต์ของแทรกเตอร์รถดำนา (Rice Transplanter) เป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนด้วยตัวเอง เครื่องยนต์ดีเซล (สำหรับรถดำนา)เชื้อเพลิง น้ำมันดีเซลประโยชน์ ปลูกพืชได้อย่างแม่นยำ สม่ำเสมอ รวดเร็ว ประหยัดเมล็ดพันธุ์และแรงงาน
- เครื่องดูแลรักษาพืชผล เครื่องพ่นยา, เครื่องหว่านปุ๋ย ต่อพ่วงกับรถแทรกเตอร์ หรือเป็นแบบขับเคลื่อนด้วยตัวเองขนาดเล็กเครื่องยนต์ ดีเซล (สำหรับเครื่องขนาดใหญ่), เบนซิน (สำหรับเครื่องขนาดเล็ก)เชื้อเพลิง น้ำมันดีเซล, น้ำมันเบนซินประโยชน์ พ่นสารเคมี ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืชได้อย่างทั่วถึง
- เครื่องเก็บเกี่ยว รถเกี่ยวข้าว (Combine Harvester) เป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนด้วยตัวเองขนาดใหญ่เครื่องเก็บเกี่ยวพืชไร่เฉพาะทาง (อ้อย, มันสำปะหลัง, ข้าวโพด) อาจเป็นแบบขับเคลื่อนด้วยตัวเอง หรือต่อพ่วงกับแทรกเตอร์เครื่องยนต์ ดีเซลเชื้อเพลิง น้ำมันดีเซลประโยชน์ เก็บเกี่ยวผลผลิตได้รวดเร็ว ลดการสูญเสีย ลดแรงงานคน
- เครื่องจัดการหลังการเก็บเกี่ยว เครื่องอบแห้ง, เครื่องคัดแยก/ทำความสะอาดเมล็ด มักใช้ไฟฟ้า หรือเครื่องยนต์ดีเซลในการขับเคลื่อนประโยชน์ รักษาคุณภาพผลผลิต ลดความชื้น ยืดอายุการเก็บรักษา
รถอีแต๋น / รถอีแต๊ก (Homemade Farm Vehicle)
รถอีแต๋น หรือ รถอีแต๊ก (มักใช้เรียกคันที่มีขนาดเล็กกว่า หรือแบบที่ใช้เครื่องยนต์สูบเดียว) คือ ยานพาหนะเพื่อการเกษตรที่ประดิษฐ์ขึ้นเองภายในประเทศโดยเกษตรกรหรือช่างในชุมชน สะท้อนถึงภูมิปัญญาไทยที่ดัดแปลงชิ้นส่วนจากรถยนต์เก่า เครื่องยนต์ที่ใช้แล้ว และวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น เพื่อให้ได้ยานพาหนะที่ตอบโจทย์การใช้งานเฉพาะทางและงบประมาณที่จำกัด
ประเภทของรถอีแต๋น/อีแต๊ก
- รถอีแต๊ก (แบบดั้งเดิม) มักใช้เครื่องยนต์ดีเซลสูบเดียว มีโครงสร้างเรียบง่าย เน้นการใช้งานเป็นรถไถเดินตาม หรือลากพ่วงบรรทุกของขนาดเล็ก
- รถอีแต๋นบรรทุก มีกระบะท้ายสำหรับขนส่งผลผลิตทางการเกษตร ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ อุปกรณ์ หรือคนงาน เป็นประเภทที่พบเห็นได้มากที่สุด
- รถอีแต๋นดัดแปลงสำหรับงานไถ/พรวน บางคันดัดแปลงให้ต่อกับผานไถ หรือจอบหมุนขนาดเล็กได้
- รถอีแต๋นดัดแปลงเฉพาะทางอื่นๆ เช่น รถอีแต๋นพ่นยา รถอีแต๋นสูบน้ำเคลื่อนที่
ระบบขับเคลื่อนและเชื้อเพลิง
- เครื่องยนต์ ส่วนใหญ่ใช้ เครื่องยนต์ดีเซล เป็นหลัก (สูบเดียว หรือหลายสูบจากรถกระบะเก่า)
- เชื้อเพลิง ใช้น้ำมันดีเซล
- ระบบขับเคลื่อน มักเป็นแบบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ (ล้อหลัง) เป็นหลัก ระบบไม่ซับซ้อนเท่ารถแทรกเตอร์โรงงาน
มีเชื้อเพลิงแบบรถไฟฟ้าหรือเปล่า?
- รถแทรกเตอร์และเครื่องจักรกลการเกษตรขนาดใหญ่ เริ่มมีการพัฒนาและผลิต แทรกเตอร์ไฟฟ้า ออกมาแล้วจากผู้ผลิตชั้นนำบางราย แต่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการนำมาใช้งานจริงในวงกว้าง เนื่องจากข้อจำกัดด้านกำลัง ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ และโครงสร้างพื้นฐานในการชาร์จ อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มสูงที่จะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคตอันใกล้
- เครื่องจักรกลการเกษตรขนาดเล็ก เครื่องมือบางชนิด เช่น โดรนพ่นยา เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า เลื่อยไฟฟ้า ได้เปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่แล้ว และมีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น
- รถอีแต๋น/อีแต๊ก ยังไม่มีการใช้งานรถอีแต๋น/อีแต๊กแบบไฟฟ้าในวงกว้าง เนื่องจากข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี ต้นทุน และความซับซ้อนในการดัดแปลง แต่ในอนาคตอาจมีการประยุกต์ใช้ในลักษณะที่เรียบง่ายขึ้น
ประโยชน์โดยรวมของรถทำการเกษตร
การนำเครื่องจักรกลการเกษตรมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นแทรกเตอร์มาตรฐานสากล เครื่องจักรเฉพาะทาง หรือรถอีแต๋นภูมิปัญญาไทย ล้วนมีส่วนช่วยในการยกระดับภาคเกษตรกรรมให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ด้วยประโยชน์หลักดังนี้
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน สามารถทำงานเกษตรกรรมในปริมาณที่มากขึ้นได้รวดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับการใช้แรงงานคนหรือสัตว์
- ลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว แม้การลงทุนเริ่มต้นจะสูง แต่ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงานคนและสัตว์ในระยะยาว อีกทั้งยังเพิ่มปริมาณผลผลิตต่อหน่วยพื้นที่ ทำให้เกิดความคุ้มค่า
- เพิ่มผลผลิตและคุณภาพของพืชผล ช่วยให้การเตรียมดิน การปลูก และการดูแลรักษาพืช ทำได้อย่างสม่ำเสมอและแม่นยำ ส่งผลให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีขึ้นและมีปริมาณมากขึ้น
- ลดภาระและเพิ่มความปลอดภัยให้เกษตรกร ลดความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก และลดความเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมีโดยตรง
- ทำงานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย สามารถทำงานในพื้นที่ขนาดใหญ่ พื้นที่ดินแข็ง ดินอ่อน โคลน หรือสภาพอากาศที่ไม่อำนวยได้ดีกว่าการใช้แรงงานคน
- ความยืดหยุ่นและอเนกประสงค์ เครื่องจักรหลายชนิดสามารถต่อพ่วงกับอุปกรณ์หลากหลาย ทำให้เครื่องจักรหนึ่งเครื่องสามารถทำงานได้หลายหน้าที่
เครื่องจักรกลการเกษตรเหล่านี้จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนและยกระดับภาคเกษตรกรรมให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมรับมือกับความท้าทายภาคเกษตรของโลกในอนาคต