Honda e:N1 เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของฮอนด้าในประเทศไทย

26 มี.ค. 67

Honda e:N1 รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของฮอนด้าในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่น แบรนด์หลักที่ผลิตในประเทศไทยเป็นแบรนด์แรก

Honda e:N1 พัฒนาภายใต้แนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง (Human-centered Development) มาพร้อม แพลตฟอร์ม e:N Architecture F รองรับการขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 3-in-1 (Motor, Power Drive Unit และ Gearbox) ให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 68.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) วิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 500 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

Honda e:N1

การออกแบบภายนอก

• กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ สะท้อนความเป็นยนตรกรรมไฟฟ้า
• ช่องชาร์จแบตเตอรี่ด้านหน้าพร้อมไฟแสดงสถานการณ์การชาร์จ ทำให้รู้สถานะการชาร์จได้ง่ายและรวดเร็ว
• โลโก้ H Mark ใหม่ สไตล์พรีเมียมมินิมอล ที่จะเป็นสัญลักษณ์ของยนตรกรรมไฟฟ้าของฮอนด้า ที่มาพร้อมกับคำว่า Honda ภายใต้ฟอนต์ใหม่ที่ด้านหลังของตัวรถ
• ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
• ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
• ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
• ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke แบบเต็มความยาวที่เชื่อมต่อกับไฟท้ายทั้งสองข้าง
• ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ และระบบปัดน้ำฝนด้านหลังแบบหน่วงเวลา
• สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต
• เสาอากาศครีบฉลาม
• ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
• กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
• กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง
• ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ขนาด 18 นิ้ว

hondaen1_interior_064_1024x6hondaen1_interior_067_1024x6hondaen1_interior_070_1024x6

การออกแบบภายใน

ห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพสูง จัดวางแสงนุ่มนวลด้วยไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารสีฟ้า (Blue Ambient Light) คอนโซลกลางได้รับการออกแบบใหม่ หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.1 นิ้ว และมาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว การจัดวางปุ่มเกียร์ที่เรียบง่ายเข้ากับสวิตช์เบรกมือไฟฟ้า ฟังก์ชันในการขับขี่ต่างๆ จัดวางอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องละสายตาจากการขับขี่ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System มอบทิศทางลมที่หมุนเวียน กระจายลมได้อย่างเหมาะสม ทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร พร้อมด้วยช่องปรับอากาศตอนหลัง

มาพร้อมเบาะหนังดีไซน์สปอร์ตสีดำตกแต่งด้วยขอบสีขาวและด้ายสีฟ้า พร้อมปรับผังที่นั่งใหม่ให้รองรับสรีระและการบุนุ่มเพื่อรองรับส่วนที่สัมผัสบ่อย เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถแยกพับแบบ 60:40  โดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ 2 รูปแบบ พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ ได้แก่
• Utility Mode: เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง
• Long Mode: เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว

ฟังก์ชันการใช้งานครบ

• ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 15.1 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay แบบ ไร้สาย และ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto ใช้งานได้ง่ายด้วยการจัดวางเมนูแบ่งเป็นสัดส่วน 3 โซนบนหน้าจอ ที่สามารถเลือกใช้ได้สะดวก รวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียสมาธิในการขับขี่ ประกอบไปด้วย
     - โซนบนเป็นโซน ‘Connect’ ที่รวม ระบบการนำทาง นาฬิกา และจอแสดงผลของกล้องมองหลัง
     - โซนกลางเป็นโซน ‘Driver Assist’ หรือระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ที่จะแสดงสถานะการทำงานของรถยนต์ การตั้งค่าระบบเสียงและการสื่อสาร พร้อมด้วยเมนูการแสดงการทำงานของระบบ EV
     - โซนล่างจะเป็นโซนควบคุมระบบปรับอากาศ ที่แสดงข้อมูลการปรับอากาศภายในห้องโดยสาร
• ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง ด้านหน้า 2 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง (USB-A 1 ช่อง ในช่องหน้า และUSB-C ในช่องหน้า 1 ช่อง และช่องหลัง 2 ช่อง)
• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา
• แผ่นกรองอากาศกรองฝุ่น PM 2.5
• ระบบสตาร์ทรถยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Climate Pre-conditioning)
• พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง, ปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ และปุ่มควบคุมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING
• กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ
• อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
• ลำโพง 6 ตำแหน่ง
• ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารสีฟ้า
• เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
• ช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลัง
• แผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย

hondaen1_interior_086_1024x6

Honda e:N1 ใหม่ ยังมาพร้อมกับสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ง่าย มีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่
• โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) ที่ช่วยปรับการทำงานของมอเตอร์ให้พร้อมตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้น มอบประสบการณ์ที่ตื่นเต้นเร้าใจมากขึ้น
• โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) โดยระบบจะขับเคลื่อนโดยมอบอัตราเร่งที่นุ่มนวลและทรงพลัง ให้ประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหมาะสมและมอบความสะดวกสบายในห้องโดยสาร
• โหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECON Mode) พร้อมปรับการทำงานของมอเตอร์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดพลังงานมากขึ้น ตามรูปแบบการขับขี่

นอกจากนี้ Honda e:N1 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ระดับพรีเมียมที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่และทำให้การขับขี่ราบรื่นในทุกเส้นทาง ได้แก่
• มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว
• ระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบสวิตช์
• ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) พร้อม ระบบ Auto Brake Hold
• ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)
• ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist - HSA)

hondaen1_exterior_010_1024x6hondaen1_exterior_025_1024x6hondaen1_interior_001_1024x6hondaen1_interior_002_1024x6hondaen1_interior_004_1024x6hondaen1_interior_005_1024x6hondaen1_interior_012_1024x6hondaen1_interior_013_1024x6hondaen1_interior_040_1024x6

Honda e:N1 มีให้เลือก 1 รุ่นย่อย มาพร้อม สีภายนอก 1 สี ได้แก่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก)

advertisement

Powered by อมรินทร์ นิวส์ - ยานยนต์

ข่าวยอดนิยม