ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า BMW และ MINI ในไทย โตกระฉูด พุ่งขึ้นแตะ 200%

22 ม.ค. 67

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เติบโตต่อเนื่อง ยอดจดทะเบียนแข็งแกร่งทั้งในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและกลุ่ม Luxury Class ครองตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์พรีเมียมของประเทศไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ทั้งนี้ มียอดจดทะเบียนในปี 2566 รวมทั้งสิ้น 15,477 คัน เพิ่มขึ้น 3% แบ่งเป็น BMW 14,128 คัน และ MINI 1,349 คัน

bmw i7 xdrive Msport

กลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 200% จากปี 2565 มียอดจดทะเบียน 1,604 คัน ด้วยรถยนต์ 6 รุ่นที่เปิดตัวในประเทศไทย คือ BWM iX3, BMW iX, BMW i4, BMW i5,BMW i7 และ MINI Cooper SE ส่วนในรถกลุ่ม Luxury Class ของ BMW ก็ไม่น้อยหน้าทำยอดขายได้ 668 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 46% ไม่ว่าจะเป็น BMW Series 7, BMW i7, BMW Series 8, BMW X7, และ BMW XM

BMW i7 Black

สำหรับในตลาดโลกปี พ.ศ. 2566 BMW ก็เติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นเดียวกัน ด้วยยอดขาย BMW MINI และ Rolls-Royce ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ คิดเป็นยอดส่งมอบรวม 2,555,341 คันทั่วโลก เติบโตขึ้น 6.5% โดยรถยนต์ในกลุ่มพลังงานไฟฟ้า 100% มียอดขายเติบโตขึ้นถึง 74.4% จากปี พ.ศ. 2565 คิดเป็นยอดส่งมอบทั่วโลกรวม 376,183 คัน สะท้อนถึงความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ตอบรับเทรนด์พลังงานสะอาดที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ซึ่งทาง บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มองว่าเทรนด์ความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในหมู่ผู้ใช้งานจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป และคาดการณ์ว่าจะทำยอดขายได้กว่า 500,000 คัน ในปี พ.ศ. 2567

MINI motor expo 2023

มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวถึงผลงานความสำเร็จในปี พ.ศ. 2566 ว่า "บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มุ่งมั่นในการผลักดันนวัตกรรมความเป็นเลิศทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และการบริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความพยายามดังกล่าวสะท้อนออกมาให้เห็นเป็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน จากยอดจดทะเบียนรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากลูกค้าในประเทศไทยซึ่งยังคงให้ความไว้วางใจกับแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในปีที่ผ่านมา เรามีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งจากความสำเร็จที่พนักงานและผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูและมินิอย่างเป็นทางการทุกคนต่างมีส่วนช่วยให้เรายังครองตำแหน่งผู้นำในเซ็กเมนต์รถยนต์พรีเมียมอีกครั้งในปี พ.ศ. 2566 นอกจากนี้ เป้าหมายการขับเคลื่อนไปสู่ความยั่งยืนของเราก็ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้บีเอ็มดับเบิลยูยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในไทย ควบคู่ไปกับการส่งมอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้า และการก้าวสู่อนาคตของยานยนต์ที่มีความเป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น"

"กลุ่มรถยนต์ที่ขับเคลื่อนเป้าหมายด้านความยั่งยืนของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นจากอัตราการเติบโตในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่เพิ่มขึ้นสองเท่า (200%) จากปี พ.ศ. 2565 ด้วยยอดจดทะเบียนทั้งหมด ที่ 1,604 คัน จากรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 6 รุ่น ที่เปิดตัวในตลาดประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู iX3, บีเอ็มดับเบิลยู iX, บีเอ็มดับเบิลยู i4, บีเอ็มดับเบิลยู i5, บีเอ็มดับเบิลยู i7 และมินิ คูเปอร์ เอสอี ยิ่งไปกว่านั้น รถยนต์ในกลุ่ม Luxury Class ของบีเอ็มดับเบิลยู ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 7, บีเอ็มดับเบิลยู i7, บีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 8, บีเอ็มดับเบิลยู X7 และบีเอ็มดับเบิลยู XM ยังคงสร้างผลงานการเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยยอดจดทะเบียนในปี พ.ศ. 2566 ทั้งหมด 668 คัน เพิ่มขึ้น 46% จากปีก่อนหน้า สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิมียอดจดทะเบียนในปี พ.ศ. 2566 รวมทั้งหมด 15,477 คัน โดยแบ่งเป็นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 14,128 คัน และมินิ 1,349 คัน ส่งผลให้เรายังคงครองตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งมาเป็นปีที่สี่ติดต่อกันในเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียม ในขณะที่ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งด้วยยอดจดทะเบียนในปี พ.ศ. 2566 รวมทั้งหมด 1,079 คัน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าในประเทศไทยที่ยังคงไว้วางใจและเลือกให้เราเคียงข้างในทุกการเดินทาง"

"การครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทย 4 ปีซ้อน ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการตอบโจทย์ลูกค้าและความทุ่มเทของพนักงาน ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ และพันธมิตรทุกรายในประเทศไทยของบีเอ็มดับเบิลยู ที่ร่วมกันส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับสูงสุดให้แก่ลูกค้า ช่วยเสริมสร้างความภักดีต่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู ดังจะเห็นได้จากรางวัลมากมายจากสื่อชั้นนำที่บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้รับในปี พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความยอดเยี่ยมทั้งในด้านการบริหารจัดการ ผลิตภัณฑ์ และการบริการ ได้แก่ รางวัล 2023-2024 Thailand’s Most Admired Company ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้รับติดต่อกันเป็นปีที่ 6 จากนิตยสาร BrandAge, รางวัล Thailand Top Company Awards 2023 ในหมวด Best Customer Focus Award จากนิตยสาร Business+, รางวัล Car and bike of the Year 2023 รวม 14 รางวัล จากบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และรางวัล The Best of Luxury Electric Vehicle สำหรับรถบีเอ็มดับเบิลยู i7 จากนิตยสาร Robb Report ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยูจะยังคงมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศต่อไปในทุกผลิตภัณฑ์และบริการของเรา เพื่อยกระดับประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง" มร. บารากา กล่าว


bmw group thailand customer

advertisement

Powered by อมรินทร์ นิวส์ - ยานยนต์

ยานยนต์ คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม