Honda HR-V e:HEV RS ราคาค่าตัว 1,179,000 บาท (ราคายังไม่รวมสีพิเศษ เพิ่ม 6,000-10,000 บาท) ยังเป็นรถที่น่าสนใจแค่ไหน? ท่ามกลางกระแสรถ EV จากประเทศจีน ที่โถมกระหน่ำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างคึกคัก และยังมีมาตราการของภาครัฐเข้ามาสนับสนุนกลุ่มรถยนต์ EV มาช่วยส่งเสริมเข้าไปอีกแรง
วันนี้ทาง AmarinTV Online ได้มีโอกาสสัมผัสกับเจ้า Honda HR-V e:HEV RS แบบเต็มๆ ลองขับแบบยาวๆ โดยจะขอข้ามเรื่องสเปคต่างๆ ของตัวรถ ที่สามารถค้นหาทั่วไปได้อยู่แล้ว แต่จะขอมาเล่ามาสรุปให้ฟัง ถึง 9 ข้อเด่น แถมกับอีก 7 ข้อที่อยากขอปรับเถอะนะ แล้วมันจะดีมากๆ เลย
9 ข้อเด่น ที่ชอบม๊ากมาก
1.ไฟหน้า Full LED
ดีไซน์ไฟฟ้ามีความสวยงามลงตัว และที่ชอบคือเป็นระบบ LED เต็มระบบ อัดระบบมาทั้งไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติอีกด้วย
2.ไฟเลี้ยว Sequential Light
ไฟเลี้ยงแบบวิ่ง (Sequential Light) ถามว่าจำเป็นมากมั้ย ก็คงต้องบอกว่าไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น แต่ถ้ามีก็ทำให้ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์ ดูมีลูกเล่นโดดเด่นขึ้นยามอยู่บนท้องถนน
3.อัตราการบริโภคน้ำมัน อัตราเร่ง
อัตราบริโภคน้ำมันขอยกให้เป็นจุดเด่นคำโตๆ เลยทีเดียว ในเมืองอยู่ราว 22 กม./ลิตร ส่วนวิ่งทางยาวๆ ลอยๆ ทำได้แตะ 20 กม./ลิตร ตัวเลขประหยัดแบบนี้มีให้เห็นแน่นอน ประหยัดไม่พอ อัตราเร่งก็ไม่ขี้เหร่ตอบสนองได้ทันใจเอาเรื่องไม่น้อย
4.ช่วงล่าง
ช่วงล่างแม้ด้านหลังจะเป็นแบบคานแข็ง (ทอร์ชันบีม) แต่ความนุ่มนวลถือว่าทำได้ดี การเข้าโค้งให้ความมั่นใจ แม้ตัวรถจะมีความสูงจากพื้นถนนถึง 197 มม. สูงกว่ากระบะตัวเตี้ยซะอีก แต่การโยนตัวหรืออาการโคลงเคลงมีน้อยมากๆ
5.ระบบฝาท้ายไฟฟ้า
ระบบฝาท้ายแบบไฟฟ้า รวมถึงระบบเตะเปิด ทำงานแม่นยำไม่ต้องเตะหลายทีให้เมื่อยตุ้ม ใช้งานง่ายทำความเข้าใจไม่ยาก ช่วยผ่อนแรงได้ดี
6.กระจกข้างผู้โดยสารตอนหลัง
กระจกข้างผู้โดยสารตอนหลังนี่คือประทับใจ การดีไซน์ให้เป็นทรงยาว ยาวโดยไม่มีอะไรกั้น มันทำให้ตัดปัญหาเรื่องความอึดอัดไปได้เลย ในขณะนั่งโดยสารด้านหลังหากมองผ่านกระจกออกไป แทบจะมองเป็นวิวพาโนรามาก็ว่าได้
7.ไฟ LED หาของสัมภาระท้าย
ห้องสัมภาระท้าย มีการติดตั้งไฟ LED ที่ให้ความสว่างค่อนข้างดี ช่วยในการหาของในช่วงเวลากลางคืน ถือว่าใส่ใจในรายละเอียดในจุดนี้
8.ดีไซน์ไฟท้าย
ไฟท้ายยามค่ำคืน คือความโดดเด่นสวยงามมากๆ สำหรับ HR-V โฉมนี้ โดยเฉพาะ LED ยาวกลางฝาท้าย สวยไม่เป็นรองใครบนท้องถนนแน่นอน
9.การเก็บเสียงลมเข้าห้องโดยสารที่ความเร็วสูง
การเก็บเสียงลมที่เข้าปะทะตัวรถ ทำได้ดี ห้องโดยสารมีความเงียบแม้จะใช้ความเร็วสูง ถ้าสามารถปรับให้เสียงจากใต้ท้องรถเบาลงได้อีกนิด จะถือว่าเป็นรถที่เก็บเสียงภายในห้องโดยสารในระดับแถวหน้าได้เลย
7 ข้ออยากขอปรับ
1.เบาะนั่งความยาวน้อยไปนิด
สำหรับคนขายาวหรือตัวสูง อาจเจอปัญหาบริเวณเบาะรองนั่งมีขนาดสั้นไปนิด ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง อย่างน้อยๆ ถ้าปรับให้ที่นั่งตอนหน้ายาวได้อีกนิด จะลงตัวสุดๆ เลย
2.เสียงเครื่องยนต์ขณะเร่ง
แม้ HR-V ตัวนี้จะเป็นระบบ e:HEV ที่เงียบกริบยามมอเตอร์ทำงาน แต่เมื่อต้องใช้พละกำลังในการเร่งจากเครื่องยนต์ กลับพบว่าเสียงเครื่องคำรามดังเอาการ
3.ไฟท้ายยังไม่เป็น LED เต็มระบบ ไฟเลี้ยวกับไฟถอยยังเป็นหลอด
ไฟท้ายที่เป็นจุดเด่นก็ส่วนจุดเด่น แต่น่าเสียดายที่ทำไมหนอ ยังอุตส่าห์มีจุดให้ต้องพูดถึงเล็กๆ อย่างไฟเลี้ยวกับไฟถอยหลังที่ยังเป็นหลอดไส้ดั้งเดิมอยู่ น่าเสียดาย
4.ที่ปิด Panoramic Glass Roof แบบแผ่นของผู้โดยสารตอนหลัง
อันนี้อยากจะ No Comment เพราะก็บ่นกันมาเยอะ ที่จริงมันก็ไม่เลวร้ายกับการใช้งาน วิศวกรก็พยายามทำออกมาให้ดีที่สุดแล้วแต่มองไปมองมามันก็อดขัดตาไม่ได้จริงๆ
5.รูปทรงกระจกมองหลังซ้าย-ขวา
กระจกมองข้าง รูปทรงอ้วนป้อม รู้สึกมองยากองศาการมองมันแคบไปสักหน่อย แม้จะมี Honda Lanewatch มาให้ก็จริง แต่มีเฉพาะด้านซ้าย ส่วนด้านขวาฝั่งคนขับต้องพึ่งใจตัวเองล้วน
6.ไม่มียางอะไหล่ ให้เป็นน้ำยาปะยางฉุกเฉิน
ยางอะไหล่ที่ขาดหาย ก็พบได้ในรถยนต์หลายๆ รุ่น แต่จริงๆ ก็เหมือนจะใช้งานได้สะดวกสบายดีสำหรับน้ำยาปะยางฉุกเฉิน แต่ข้อเสียคือมันใช้ไม่ได้ในทุกสถานการณ์นี่สิ
7.พบปัญหาเกจ์ระดับน้ำมันขึ้นช้าหลังจากเติมน้ำมัน แต่เมื่อใช้สักพักก็กลับเป็นปกติ
ขั้นตอนสุดท้าย เราพบปัญหาของเกจ์น้ำมันที่ขึ้นช้าผิดปกติ หลังจากทำการเติมน้ำมันกลับเข้าถัง ต้องใช้งานไปอีกหลายสิบกิโลเมตร ก่อนที่เกจ์จะค่อยๆ ขึ้นทีละนิด จนมาในระดับที่ควรจะเป็น
หลังจากได้ทดลองขับแบบยาวๆ แล้วได้พบทั้งจุดที่ต้องชมเชย กับจุดที่น่าเสียดายไปนิด แต่โดยรวมเจ้า Honda HR-V e:HEV RS ยังต้องถือว่าเป็นรถที่น่าสนใจในตลาดทีเดียว แม้จะมีรถ EV รุ่นใหม่ๆ มาเคาะหน้าประตูบ้านท้าทายแบบไม่เว้นวัน แต่ด้วยความที่เป็นแบรนด์ใหญ่จากค่ายญี่ปุ่น ย่อมยังมีความแข็งแกร่งและยังได้รับความน่าเชื่อถือจากผู้บริโภคชาวไทยไม่น้อย
รีวิวแบบตัวเต็ม
