Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
กต. มั่นใจยังไทยยังได้เปรียบ  ย้ำไม่เล่นสงครามข่าวเท็จ
โดย : ณัฏฐณิชา ภู่คล้าย

กต. มั่นใจยังไทยยังได้เปรียบ ย้ำไม่เล่นสงครามข่าวเท็จ

31 ก.ค. 68
17:18 น.
แชร์

Highlight

ไฮไลต์


กระทรวงต่างประเทศแสดงความมั่นใจการทูต-การทหารไทยได้เปรียบ ย้ำรัฐบาลไม่เล่นสงครามข่าวเท็จแบบกัมพูชา เตรียมพาคณะทูต-ทหารลงพื้นที่ 

31 กรกฎาคม 2568 กระทรวงการต่างประเทศแถลงการณ์สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเผยรายละเอียดการนำคณะทูตทหารและสื่อลงพื้นที่ชายแดน และตอบประเด็นสงครามข่าวสาร ประเด็นที่ปรากฏในแถลงการณ์มีดังต่อไปนี้

พาคณะผู้ช่วยทูตลงพื้นที่

ในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 จะมีการนำคณะผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารและสื่อมวลชนต่างประเทศลงสังเกตการณ์พื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อสร้างความเข้าใจว่า ไทยได้ปฏิบัติตามหลักการที่เป็นไปตามกฎบัตรสหประชาชาติและกฎบัตรอาเซียนเสมอ
นายมาริษกล่าวว่า คณะที่จะลงพื้นที่พรุ่งนี้จะได้เห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อฝ่ายพลเรือน อันขัดหลักสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศหลายประการ และมั่นใจว่าคณะทูตฝ่ายกัมพูชาที่ลงพื้นที่ไปแล้ว คงจะได้เห็นเพียงความเสียหายฝ่ายทหารเท่านั้น
กระทรวงเน้นย้ำว่า สิ่งที่ต้องนึกถึงมากที่สุดคือความปลอดภัยของคณะ เพราะคาดเดาสถานการณ์ไม่ได้ และนอกจากจะได้เห็นความเสียหายและฟังบรรยายจากกองทัพ การลงพื้นที่จะนำไปสู่การหารือ และสู่ความสำเร็จของ GBC ที่จะเกิดขึ้นวันที่ 4 สิงหาคมที่จะถึงนี้

ทหารกัมพูชาที่ถูกจับในไทย

กระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ไทยให้การดูแลทหาร 18 นายภายใต้อนุสัญญาเจนีวา ให้การดูแลบุคคลที่ถูกจับมา และย้ำว่าทหารเหล่านั้นถูกจับกุมขณะละเมิดอธิปไตยไทย และถูกจับในดินแดนไทย อย่างไรก็ตาม กระทรวงเน้นย้ำว่าได้ดูแลพวกเขาตามกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศทุกประการ
ส่วนคำถามด้านการปล่อยตัว นายมาริษอ้างถึงอนุสัญญาเจนีวา กล่าวว่า ไทยสามารถควบคุมตัวพวกเขาไว้และปล่อยตัวทหารเหล่านี้ได้ เมื่อมั่นใจว่าจะไม่กลับมาทำร้ายประเทศไทยอีก ซึ่งไทยยึดหลักการนั้น รวมถึงต้องพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงด้วย

UNSC และ การทหาร: ไทยยังได้เปรียบ

UNSC เห็นด้วยไทย-กัมพูชาคุยทวิภาคี: กระทรวงฯ ชี้แจงว่า หน่วยงานของกระทรวงในกรอบความร่วมมือสหประชาชาติได้ย้ำจุดยืนท่าทีรักษาสันติของไทยมาตลอดว่า ไทยมีความโปร่งใส และต้องการเจรจาด้วยแนวทางทวิภาคีมา แต่ฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้บ่ายเบี่ยงการเจรจา และย้ำว่าไทยมีความได้เปรียบอยู่หลายประการ อาทิ ซึ่งทำให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เห็นด้วยกับการเจรจาทางทวิภาคีซึ่งมีกลไกที่ดีอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นจะยกขึ้นมาพูดคุยในกรอบของสหประชาชาติ เพราะไม่มีผลใหญ่หลวงต่อสันติภาพของโลก UNSC จึงไม่ออกมติใดในเรื่องนี้ และให้หารือรูปแบบทวิภาคี ตีความได้ว่า ไม่ต้องยกขึ้นมาในกรอบการประชุม UNSC อีก

นายมาริษกล่าวว่า การที่ตัวแทนของกัมพูชายกเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชาขึ้นในการประชุมระดับสูงว่าด้วยความขัดแย้งปาเลสไตน์นั้น ทำให้ภาพลักษณ์กัมพูชาปรากฏออกมาในทางไม่ดี เพราะไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์การประชุม

สำหรับด้านการทหาร กระทรวงต่างประเทศเน้นย้ำว่าไทยได้เปรียบเป็นอย่างมากในทางทหาร การดำเนินการด้านการทูตและการทหารดำเนินมาสอดคล้องกันเป็นอย่างดี และได้รับการสนับสนุนต่อกันเป็นอย่างดี อันทำให้ไทยมีความได้เปรียบทางการทูตด้วย

สงครามข่าวสาร

ไทยไม่เสี่ยงภาพลักษณ์ ลงเล่นสงครามข่าวสาร: นายมาริษชี้ว่า เป็นที่ชัดเจนว่ากัมพูชากำลังทำสงครามข่าวสาร เนื่องจากมีข้อเสียเปรียบไทยด้านอื่นอยู่มากกว่า อาทิ ในเวทีการเจรจาระหว่างประเทศ ความได้เปรียบทางการทหาร และการเจรจาหลังการปฏิบัติการทหาร หรือการเจรจาทวิภาคี ลักษณะหนึ่งคือมีความพยายามเพิ่มเติมข้อมูลนอกเหนือแถลงการณ์ตัวหนังสือ หลังที่กล่าวต่อที่ประชุม UNSC ซึ่งขัดหลักการของสหประชาชาติ และทำให้ไทยต้องประท้วงต่อที่ประชุม (อ่านข่าว) และท้ายที่สุดกัมพูชาก็ต้องถอนเนื้อหาส่วนเกินนี้ออกไป

คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยและต่อต้าน การใช้ถ้อยคำที่ยั่วยุ บิดเบือน เพราะไม่สอดคล้องกับกฎหมายสิทธิมนุษยชน ซึ่งมาริษกล่าวว่าแสดงถึงผลของการวางตัวเป็นอย่างดีของไทยที่ผ่านมา

ข้อตกลงหยุดยิง

เน้นย้ำว่าการเจรจาที่มาเลเซียคือความสำเร็จ เนื่องจากการเจรจาครั้งนั้นเป็นการเจรจาแบบทวิภาคี มีมาเลเซียเป็นพยานและประธานอาเซียน และสหรัฐฯ-จีนเป็นพยาน ถือว่าสามารถนำกัมพูชากลับมาสู่โต๊ะเจรจาได้ และยอมรับกลไก GBC, JBD, และ RBC ทั้งนี้ขอให้ติดตามการประชุม GBC ในวันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2568 ต่อไป ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเป้าหมาย 2 ประการคือ อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน และความปลอดภัยของประชาชน

กต. เร่งชี้แจงฝ่ายกี่ยวข้อง

กระทรวงมีการสื่อสารกับหน่วยงานและประเทศต่าง ๆ ทั้งผ่านส่วนกลาง และผ่านสถานทูต สถานกงสุลใหญ่ทั่วโลกเสมอ และได้รับท่าทีสนับสนุนต่อประเทศไทย ต่อแนวทางการหารือทวิภาคี อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเวียดนาม และญี่ปุ่น ทั้งยังประท้วงการเสนอข่าวบิดเบือนและการละเมิดข้อตกลงกับกัมพูชา

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ แจ้งว่าได้พบกับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เมื่อเช้าวันนี้ และชี้แจงความคืบหน้า ซึ่งมาริษชี้แจงว่าต้องการเห็นการหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไข และชี้แจงว่ากัมพูชามีการโจมตีเล็กน้อยอยู่เป็นระยะ เพื่อยั่วยุให้ไทยตอบโต้ แต่ทหารไทยยังคงยึดมั่นในหลักการเคารพข้อตกลงหยุดยิงมาตลอด

ประชาชนชาวกัมพูชาในไทย

กระทรวงฯ เน้นย้ำว่า ความไม่สงบบริเวณชายแดนไม่มีผลต่อคนกัมพูชาในไทย ไทยมีมนุษยธรรม ไม่ผลักภาระให้ประชาชน และไม่กระทำการไม่ถูกต้องกับประชาชนกัมพูชาแน่นอน

แชร์
กต. มั่นใจยังไทยยังได้เปรียบ  ย้ำไม่เล่นสงครามข่าวเท็จ