ข่าวใหญ๋ในวงการอสังหาริมทรัยพ์และเป็นบทเรียนให้กับบริษัทสตาร์ทอัพ คือข่าวการยืนล้มละลาย ของบริษัทวีเวิร์ค (WeWork) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการปล่อยเช่าพื้นที่สำนักงาน ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐนิวเจอร์ซีย์ของสหรัฐฯ เพื่อขอเข้าสู่กระบวนการพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลายเมื่อวานนี้(จันทร์ 6 พ.ย.) โดยการยื่นล้มละลายครั้งนี้จำกัดอยู่ในสหรัฐและแคนาดา
.
นั่นแปลว่าบริษัทยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปแต่คงต้องจำกัดการขยายสาขาลง หลังจากในรายงานของ WeWork พบว่า บริษัทมีหนี้สินประมาณ 1-5 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากผลประกอบการขาดทุนหนักมาอย่างต่อเนื่อง
.
แม้รายได้จะเติบโตสูงขึ้นทุกปีแต่ผลประกอบการสุทธิกลับขาดทุนหนักเพิ่มทุกปีเช่นกัน ในระดับหมื่นล้านติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2016 ซ้ำร้ายธุรกิจ WeWork ต้องเจอโควิดซ้ำเติมทำให้สภาพของว่าที่สตาร์ทอัพยูนิคอร์น ที่เคยมมูลค่าตลาดในปี 2019 สูงถึง 47,000 ล้านดอลลาร์ ต้องดับวูบลงในที่สุด
.
ย้อนกลับไป ปี 2010 WeWork เป็นบริษัทสตาร์ตอัปด้านอสังหาริมทรัพย์ จากสหรัฐฯก่อตั้งโดย Adam Neumann และ Miguel McKelvey โมเดลธุรกิจของ WeWork คือ การเช่าอสังหาริมทรัพย์ระยะยาว แล้วมีการลงทุนปรับปรุงเพื่อมาปล่อยเช่าต่อให้กับบริษัทอื่นๆ ซึ่งในประเทศไทย มี Co - Working Space อยู่ราว 4 สาขา และ WeWork ยังมีสาขาใน 39 ประเทศทั่วโลก 777 สาขาอีกด้วย
.
ที่ผ่านมา WeWork เป็นสตาร์ทอัพที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่โมเดลธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงบวกกับโควิด 19 ทำให้เกิดการล็อคดาวน์ทำให้ผู้คนต้องกักตัวอยู่บ้าน และนำไปสู่การเปลี่ยนวิถีชีวิตการทำงานของคนทั่วโลกไปสู่ระบบไฮบริด หรือ Work from Anywhere มากขึ้น ทำให้ WeWork ประสบปัญหา เนื่องจากบริษัทหลายแห่งยุติสัญญาเช่าอย่างกะทันหัน ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่ตามมา ทำให้ลูกค้าของ WeWork ต้องปิดกิจการมากขึ้น
.
มูลค่าหุ้นของWeWork ก็ลดลงอย่างหนักเช่นกัน ราคาหุ้นที่ร่วงหนักมากกว่า 90% แล้วและปัจจุบันได้ถูกระงับการซื้อขายไปแล้ว
.
นายเดวิด โทลลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) คนปัจจุบันของ WeWork ระบุว่า "เราขอขอบคุณกลุ่มผู้สนับสนุนด้านการเงินของเรามาโดยตลอด ในขณะที่เราทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างทุนของบริษัท และเร่งกระบวนการนี้ให้แล้วเสร็จผ่านทางข้อตกลงสนับสนุนการปรับโครงสร้าง (Restructuring Support Agreement) เรายังคงมุ่งมั่นที่จะลงทุนในผลิตภัณฑ์ บริการ และทีมงานระดับโลกเพื่อสนับสนุนชุมชนของเรา"
.
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า WeWork เป็นหนึ่งในบริษัทที่เผชิญกับการล่มสลายทางธุรกิจในระดับรุนแรงที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะที่ Adam Neumann อดีตซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งกล่าวถึงการที่ WeWork ยื่นล้มละลายว่าเป็นสิ่งที่ “น่าผิดหวัง”
.
การปรับโครงสร้างครั้งสำคัญในครั้งนี้ น่าติดตามว่า WeWork จะฟื้นกลับมาได้หรือไม่โดยเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา บริษัทกล่าวว่ากำลังเจรจาสัญญาเช่าใหม่อย่างต่อเนื่อง และยังมีภาระผูกพันในสัญญาเช่าระยะยาวเกือบ 16,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ WeWork ได้ว่าจ้าง Kirkland & Ellis และ Cole Schotz ให้เป็นที่ปรึกษากฎหมาย PJT Partners จะทำหน้าที่เป็นธนาคารเพื่อการลงทุน โดยได้รับการสนับสนุนจาก C Street Advisory Group และ Alvarez & Marsal