การเงิน

สคบ.เคาะคิดดอกเบี้ยลิสซิ่งรถ ห้ามเกิน 23% ต่อปี ธปท. จ่อออกกฎคุมเพิ่ม

5 ต.ค. 65
สคบ.เคาะคิดดอกเบี้ยลิสซิ่งรถ ห้ามเกิน 23% ต่อปี ธปท. จ่อออกกฎคุมเพิ่ม

จากกรณีที่ล่าสุดคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) ได้ประกาศเพดานควบคุมดอกเบี้ยของธุรกิจเช่าซื้อธุรกิจรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยสำหรับรถยนต์ใหม่เพดานไม่เกิน 10% ต่อปี ส่วนรถยนต์มือสองไม่เกิน 15% ต่อปี และรถจักรยานยนต์ ไม่เกิน 23% ต่อปี ปรับลดลงมาจากเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ 32-33% หลังจากนี้จะส่งเรื่องเสนอต่อสำนักนายกรัฐมตรี เพื่อประกาศลงราชกิจจานุเบกษาต่อไป และจะมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน ซึ่งคาดว่าภายในเร็ว ๆ นี้น่าจะประกาศออกมาใช้ได้นั้น

 

ธปท.ชี้จำเป็นต้องคุมธุรกิจ 'ลิสซิ่ง' หลังคิดดอกเบี้ยสูง-ไม่หน่วยงานดูแลเฉพาะ

แบงก์ชาคิคุมลิสซิ่ง

สำหรับเหตุผลที่ สคบ. ประกาศคุมเพดานเช่าซื้อรถยนต์ก่อนหน้านี้ เกิดจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้ข้อมูลว่า มีความความจำเป็นที่ต้องออกกฎหมายเพื่อกำกับดูแลธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมถึงการคบคุมเพดานดอกเบี้ยในธุรกิจเช่าซื้อว่า เนื่องจากสัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยต่อจีดีพีอยู่ในระดับสูงถึง 90% โดยมียอดคงค้างหนี้ครัวเรือนรวม 14.6 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นยอดคงค้างการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ 1.8 ล้านล้านบาท หรือ 12.3% ของหนี้ครัวเรือนทั้งหมด

ขณะที่อัตราเติบโตเฉลี่ยของสินเชื่อเช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ในระหว่างปี 2560-2564 อยู่ที่ 5.5% สูงกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อการอุปโภคและบริโภคประเภทอื่นที่มีอัตราเติบโตเฉลี่ยเพียง 5.1% เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้ระดับหนี้ครัวเรือนของประเทศไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งธุรกิจการให้เช่าซื้อหรือธุรกิจลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ปัจจุบันเป็นการให้บริการโดยผู้ประกอบธุรกิจที่ไมใช่สถาบันการเงินและไม่ใช่บริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์ (non-bank) ประมาณ 31.6% และในปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลเป็นการเฉพาะ

รวมทั้งการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่ง ซึ่งถือเป็นธุรกรรมทางการเงินประเภทหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายการให้สินเชื่อนั้น ปัจจุบันธุรกิจดังกล่าวมีการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่ ‘ค่อนข้างสูง’ และมีปริมาณเรื่องร้องเรียนจากการใช้บริการก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

พบมีเคสร้องเรียนธุรกิจลิสสซิ่งพุ่ง

สคบ.เคาะดอกเบี้ยเช่าซื้อ

โดยข้อมูลสถิติเรื่องร้องเรียนที่ได้รับแจ้งจากประชาชนผ่านศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ของ ธปท. พบว่า ระหว่างปี 2562-2565 มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับธุรกรรมเช่าซื้อรวม 489 เรื่อง หรือคิดเป็น 8% ของเรื่องร้องเรียนซึ่งในจำนวนนี้เป็นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์สูงถึง 82% ของเรื่องร้องเรียนในกลุ่มธุรกรรมเช่าซื้อ

ขณะที่ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบจากเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ได้แก่ พฤติกรรมของพนักงานที่ให้บริการ ยอดหนี้หรืออัตราดอกเบี้ยไม่ถูกต้อง ปัญหาเกี่ยวกับค่าธรรมเนียม และการปรับปรุงโครงสร้างหนี้

ดังนั้นมีความจำเป็นในการออกฎหมายกำหนดให้การประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นกิจการที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลเป็นการเฉพาะ เพื่อยกระดับการประกอบธุรกิจให้มีมาตรฐาน ส่งเสริมการกำกับดูแลเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจการเงิน และการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรม

ทั้งนี้ ธปท. อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นสำหรับการปรับปรุง ร่าง พ.ร.ฎ. กำหนดให้การประกอบธุรกิจทางการเงินบางประเภทอยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ.2551 พ.ศ.... เพื่อกำกับดูแลธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ซึ่งมี ธปท. เป็นเจ้าภาพหลักในการผลักในเรื่องนี้ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

 'แบงก์ชาติ' จ่อออกกฎคุมธุรกิจ 'ลิสซิ่ง' มากกว่าคุมดอกเบี้ยจะออกมาต้นปี 66

แบงก์ชาติออกกฎคุมธุรกิจเช่าซื้อ

 

ด้านนายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ในเรื่องการกำกับดูแลธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์นั้น ขณะนี้ ธปท. อยู่ระหว่างสรุปผลของการเปิดรับฟังความเห็น ซึ่งทำควบคู่กับการทำงานของ สคบ. เพื่อดูแลผู้บริโภคที่ถูกผู้ให้บริการเงินกู้รถยนต์คิดดอกเบี้ยแพงและไม่เป็นธรรม โดยคาดว่าแนวทางกำกับดูแลธุรกิจนี้จะออกมาได้ต้นปี 2566 และจะมีผลบังคับใช้ 180 วันนับจากประกาศ จะเป็นแนวกำกับดูแลทั้งระบบไม่ใช่แค่เรื่องดอกเบี้ย

“ที่ผ่านมาธปท.ได้ทำงานกับสคบ.มาโดยตลอดและได้ส่งข้อมูลในเรื่องคิดคำนวณต้นทุนและดอกเบี้ยเพื่อกำหนดเพดาน ซึ่งในระหว่างที่แนวทางธปท.จะมีผล ให้ใช้อัตราดอกเบี้ยของสคบ.ไปก่อน แต่ในอนาคตธปท.จะกำหนดเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อลีสซิ่งของตัวเอง ส่วนสคบ.จะดูแลเรื่องอื่นๆแทน เช่น ในเรื่องสัญญากู้ยืม ถือเป็นเรื่องที่ดีที่เข้ามาคุ้มครองผู้บริโภค และธปท.ได้พูดคุยกับสคบ.อยู่ตลอดถึงเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้เพดานดอกเบี้ยที่กำหนดอาจปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปไม่ใช่จะเป็นอัตราเพดานนี้ไปตลอด”นายรณดล กล่าว

ด้านนายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) เปิดเผยถึงกรณีการประกาศควบคุมเพดานอัตราดอกเบี้ยธุรกิจลิสซิ่งเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ โดยคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. พิจารณาปรับเพดานอัตราดอกเบี้ย ประเภทสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ ไม่เกิน 23% รถยนต์มือหนึ่ง ไม่เกิน 10% และรถยนต์มือสอง ไม่เกิน 15% เพื่อกำกับดูแลการประกอบธุรกิจลิสซิ่ง นั้น บริษัทฯไม่ได้รู้สึกกังวลกับประกาศปรับเพดานอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ เนื่องจากไม่ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจมากนัก โดยปัจจุบันสินเชื่อหลักของบริษัทฯ ยังคงเน้นไปที่การปล่อยประเภทสินเชื่อที่มีหลักประกันที่มีพอร์ตสินเชื่อมากกว่า 80%

ขณะที่ประเภทสินเชื่อเช่าซื้อรถนั้น บริษัทฯ เปิดให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มือหนึ่งเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งคิดดอกเบี้ยประมาณ 23% อยู่แล้ว จะเห็นว่าอยู่ในระดับเดียวกับเพดานอัตราดอกเบี้ยที่ สคบ. พิจารณากำหนด อีกทั้งพอร์ตสินเชื่อดังกล่าว ขณะนี้มีเพียง 5% จะเห็นว่าสัดส่วนพอร์ตสินเชื่ออยู่ในระดับต่ำ

ขณะเดียวกันการปรับเพดานดอกเบี้ยธุรกิจลิสซิ่ง ไม่ได้กระทบต้นทุนการดำเนินธุรกิจลิสซิ่งของบริษัทแต่อย่างใด ประกอบกับบริษัทฯ ได้วางแผนรับมือการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว มั่นใจได้ว่า สามารถควบคุมต้นทุนการดำเนินธุรกิจได้ และล่าสุดบริษัทฯ จับมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก 2 แห่ง ได้แก่ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) และ ธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (SMBC) สนับสนุนวงเงิน 6,200 ล้านบาท ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินให้บริษัท พร้อมเดินหน้าลุยปล่อยสินเชื่อแก่ลูกค้า

สำหรับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2565 ยังอยู่ในทิศทางที่ดี หลังบรรยากาศทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น และสถานการณ์ของโรคโควิด-19 คลี่คลาย ส่งผลให้ความต้องการสินเชื่อ เพื่อการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ขยายตัวตามไปด้วย ทำให้มั่นใจว่าในปีนี้พอร์ตสินเชื่อรวมจะเติบโตประมาณ 30% เมื่อเทียบกับปี 2564 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

 

advertisement

SPOTLIGHT