การเงิน

หุ้นจีนวิ่งขึ้น รับอานิสงส์รัฐบาลลดภาษีขายหุ้น เหลือ 0.05% หวังดึงนักลงทุนหลังถูกเทขาย

28 ส.ค. 66
หุ้นจีนวิ่งขึ้น รับอานิสงส์รัฐบาลลดภาษีขายหุ้น เหลือ 0.05% หวังดึงนักลงทุนหลังถูกเทขาย

ราคาหุ้นจีนปรับตัวขึ้นในวันนี้ หลังรัฐบาลตัดสินใจปรับลดภาษีอากรสแตมป์ (stamp duty) สำหรับการซื้อขายหุ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2008 จาก 0.1% เหลือ 0.05% ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคมเป็นต้นไป หวังดึงนักลงทุนกลับมาหลังถูกเทขายใน 13 รอบการซื้อขายติดต่อกันภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์  คิดเป็นมูลค่ารวมถึง 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.77 แสนล้านบาท

การปรับลดภาษีการซื้อขายหุ้นในครั้งนี้เป็นการลดภาษีครั้งแรกในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2008 ซึ่งรัฐบาลจีนตัดสินใจปรับลดภาษีดังกล่าวเหลือ 0.1% เพื่อพยุงตลาดหุ้น ทำให้ดัชนี Shanghai Composite ปรับตัวขึ้นทันที 9.3% ในช่วงการซื้อขายถัดมาหลังจากมีการประกาศ

ภาพนั้นเกิดขึ้นอีกครั้งในวันนี้ เพราะหลังมีข่าวการปรับลดภาษีซื้อขายหุ้น ในช่วงเช้าหลังเปิดตลาด ดัชนี CSI 300 จีนแผ่นดินใหญ่ดีดตัวรับข่าวดีขึ้นไปสูงสุดถึง 5.5% ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มที่สูงที่สุดในรอบ 3 ปี ในขณะที่ ดัชนี Hang Seng China Enterprises Index ปรับตัวขึ้น 3.8% และ Hang Seng Index ปรับตัวขึ้นมากกว่า 3% 

นอกจากนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ยังได้ออกมาเผยอีกว่า ทาง CSRC จะชะลอการปล่อย IPOs หุ้นใหม่ เพราะมองว่าสภาพตลาดในปัจจุบันยังไม่เหมสะสม และยังจะจำกัดการซื้อขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทที่ราคาหุ้นลดลงไปต่ำกว่าราคา IPO หรือระดับสินทรัพย์สุทธิ และลดอัตรามาร์จิ้นสำหรับการซื้อขายมาร์จิ้นลดลงจาก 100% เป็น 80% โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 8 กันยายนเป็นต้นไป

 

มาตรการช่วยในระยะสั้น แต่อาจไม่พอในระยะยาวเพราะศก. ยังไม่ฟื้น

Pu Han นักวิเคราะห์ของ China International Capital Corp. ให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กว่า มาตรการเหล่านี้เป็นมาตรที่ออกมาเร็วและแรงกว่าที่นักลงทุนคาด และน่าจะเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาได้ในระดับหนึ่ง

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นจีนเจอแรงเทขายอย่างหนักจากนักลงทุน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่หลังเปิดประเทศ ดังที่จะเห็นได้จากทั้งยอดผลิต ยอดการบริโภค และยอดการส่งออกที่ลดลง และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เจอปัญหาสภาพคล่องอย่างต่อเนื่องจากทั้งกรณีการล้มละลายของ Evergrande และการผิดชำระหนี้ของ Country Garden อีกบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ของจีน

โดยจากข้อมูลของ SCMP นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นจีนรวมถึง 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในรอบการซื้อขาย 13 รอบติดต่อกันในวันพุธที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการถูกเทขายรอบที่ยาวที่สุดของหุ้นจีนนับตั้งแต่มีการบันทึกในปี 2016 เป็นต้นมา ในขณะที่ในเดือนนี้ ผู้จัดการสินทรัพย์ทั่วโลกต่างเทขายหุ้นจีน จนทำให้มูลค่าตลาดหายไปรวมแล้วถึง 9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 31.7 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในสายตาของนักวิเคราะห์ มาตรการเหล่านี้ก็อาจจะยังไม่เพียงพอกับการกระตุ้นตลาดหุ้นจีนในระยะยาว เพราะถึงแม้จะมีมาตรการช่วย สิ่งที่น่าจะดึงให้ราคาหุ้นของบริษัทจีนปรับตัวขึ้นมาได้อย่างยั่งยืนมากที่สุดก็คือปัจจัยพื้นฐาน และศักยภาพในการทำรายได้และกำไรในอนาคตของบริษัทจีน ซึ่งในตอนนี้ก็ยังดูมืดมนอยู่

โดยก่อนที่จะมีมาตรการที่ปรับลดภาษีที่ว่านี้ ทางการจีนก็ได้ออกมากระตุ้นให้กองทุนบำเหน็จบำนาญ ธนาคารใหญ่ และสถาบันทางการเงินในประเทศอื่นๆ เพิ่มการลงทุนในหุ้น รวมไปถึงให้กองทุนรวมและบริษัทเร่งซื้อกองทุนหรือหุ้นของตัวเองคืนแล้วเพื่อกระตุ้นราคาสินทรัพย์ แต่ว่าก็ไม่ได้ผลนัก เพราะราคาขึ้นมาแล้วก็ตกลงไปที่โซน oversold หรือโซนที่มีแรงขายปริมาณมากจนเกินไป จนราคาลดลง

นี่ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า มาตรการช่วยในการลงทุนไม่น่าจะช่วยอะไรนัก และคงไม่ทำให้เกิด rally อย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลจีนปรับลดภาษีตัวนี้ในปี 2008 และตลาดหุ้น A-Share หรือหุ้นจีนไม่น่าจะฟื้นตัวขึ้นมาได้หากรัฐบาลจีดไม่อัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เหมือนในปี 2008 ที่มีการอัดเงินเข้าไปในระบบถึง 4 ล้านล้านหยวน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

 

อ้างอิง: Bloomberg, SCMP, Reuters



advertisement

SPOTLIGHT