การเงิน

รวบตึง ‘หุ้นจีน’ มีกี่ประเภท อ่านรวดเดียวจบ พร้อมลงทุน

19 พ.ย. 65
รวบตึง ‘หุ้นจีน’ มีกี่ประเภท  อ่านรวดเดียวจบ พร้อมลงทุน

กระแสการลงทุนต่างประเทศเริ่มฮอตฮิตมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่สำหรับนักลงทุนมือใหม่ การลงทุนในประเทศใกล้เคียงอย่าง ‘ตลาดหุ้นจีน’ น่าจะเป็นที่สนใจและคุ้นเคยมากกว่า 

ด้วยตลาดหุ้นจีนเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 12 ล้านล้าน ดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 และบริษัทจีนหลายแห่งก็มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน ให้เศรษฐกิจโลก ก้าวไปข้างหน้า ที่สำคัญโอกาสการลงทุนมีไม่น้อยกว่าหุ้นในโลกตะวันตกแน่นอน   

ช้าก่อนหุ้นจีนคือตัวไหนล่ะ ? A-Shares หรือ B-Shares หรือ H-Share หรือ N-Shares  อย่าเพิ่งร้อง งง’ มาครับ ผมจะค่อยๆ อธิบายให้ฟัง

ด้วยรูปแบบการปกครองและกฎระเบียบที่มีเอกลักษณ์ของจีน ทำให้ตลาดหุ้นมีหุ้นมากมาย หลายประเภท จนอาจสร้างความสับสนให้นักลงทุนที่ยังไม่คุ้นเคย เพราะหุ้นจีนแต่ละประเภท ก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป ทั้งเรื่องสกุลเงินที่ใช้ในการซื้อขาย ประเภทบริษัท ตลาดที่หุ้นบริษัทนั้นจดทะเบียนอยู่ และ การมีสิทธิ์เข้าถึงหุ้นโดยนักลงทุนต่างชาติ

หุ้นจีนประเภท A-share และ H-share พบเห็นได้บ่อยที่สุดในตลาดกองทุนรวมไทยและ ทั่วโลก แต่หุ้น A-share บางบริษัทก็ไม่เปิดให้นักลงทุนต่างชาติลงทุน โดยเราสามารถดูได้จาก รหัสหุ้น 6 หลัก นอกจากนี้ยังมีหุ้นจีนประเภทอื่นๆ อีก เช่น หุ้น ‘N-share’ ‘Red Chip’ หรือ ‘P Chip’ รวมถึงตราสารแสดงสิทธิในหุ้นหรือ Depository Receipts (DRs) ซึ่งนักลงทุน ชาวไทยอาจจะเริ่มได้ยินเรื่องของ DRs บ่อยขึ้นในระยะหลัง เพราะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ เราลงทุนหุ้นต่างประเทศได้ง่ายขึ้น ที่พบบ่อยที่สุด คือ ADRs ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และ GDRs ที่จดทะเบียนตลาดหุ้นต่างประเทศอื่นๆ

วันนี้เราจะมาสรุปรวบยอดให้เรารู้จักหุ้นจีนทุกประเภท พร้อมรายละเอียดว่าหุ้นจีน แต่ละประเภทมีเงื่อนไขการลงทุนที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง หลังจากอ่านบทความนี้จบ เราจะเข้าใจการลงทุนหุ้นจีนมากขึ้นอย่างแน่นอน

มัดรวมจักรวาล ‘หุ้นจีน’ ทุกประเภท

ก่อนจะไปศึกษาหุ้นจีนแต่ละประเภท เราต้องทราบก่อนว่ามีหุ้นจีนบางตัวที่ถูกจัดกลุ่มลงหลายประเภทหรือจดทะเบียนในหลายตลาดหุ้นของจีนเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มนักลงทุนที่กว้างขึ้น ซึ่งหมายความว่าจะมีหุ้นจีนบางตัวที่เราสามารถพบเห็นได้ในหลายตลาด

เราจะพาไปดูภาพรวมของหุ้นจีนประเภทต่างๆ ทั้งที่นักลงทุนต่างชาติสามารถซื้อขายได้และไม่ได้ รวมไปถึงประเภทหุ้นที่บริษัทจีนหรือบริษัทต่างชาติสามารถนำออกจำหน่ายให้นักลงทุนในประเทศนั้นๆ ลงทุน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

หุ้น A-Share

หุ้นจีนประเภท A-Share คือ หุ้นที่ออกโดยบริษัทสัญชาติจีนที่จัดตั้งขึ้นในจีน และจดทะเบียน ซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นของจีน ซึ่งประกอบด้วยตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Stock Exchange หรือ SSE) และตลาดหุ้นเซินเจิ้น (Shenzhen Stock Exchange หรือ SZSE)

ในอดีตหุ้นประเภทนี้จะเปิดให้ซื้อขายได้เฉพาะพลเมืองจีนเท่านั้น แต่ในปัจจุบันทางการจีนเริ่ม ทยอยอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติสามารถซื้อขายหุ้น A-share ได้ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น

  • Qualified Foreign Institutional Investor (QFII)
  • RMB Qualified Foreign Institutional Investor (RQFII)
  • Hong Kong - China Stock Connect

จะเห็นว่าถ้าเราไม่ใช่พลเมืองจีน ก็จะไม่สามารถเข้าไปลงทุนหุ้นจีนกลุ่ม A-Share ได้เต็มที่ ส่วนนักลงทุนต่างชาติทั้งประเภทบุคคลและสถาบันการเงินที่ต้องการจะลงทุน ก็ต้องมีคุณสมบัติตรง ตามเกณฑ์บางประการจึงจะสามารถลงทุนในหุ้นประเภท A-share ได้ ซึ่งหุ้นส่วนใหญ่ที่จดทะเบียน ซื้อขายในตลาดหุ้นจีนทั้ง 2 แห่งคือหุ้นประเภท A-share นี่แหละ สามารถซื้อขายกันได้ด้วยเงิน สกุลหยวนจีน

แต่การลงทุนหุ้น A-Shares ก็มีเงื่อนไขซ้อนอีกชั้น เพราะมีหุ้นบางบริษัทที่นักลงทุนรายย่อย ต่างชาติไม่สามารถลงทุนได้ โดยเราสามารถสังเกตจากรหัสหุ้นได้ดังนี้

  • รหัสหุ้น 000xxx - 001xxx นักลงทุนรายย่อยต่างชาติลงทุนได้ตามปกติ
  • รหัสหุ้น 002xxx - 003xxx นักลงทุนรายย่อยต่างชาติไม่สามารถลงทุนได้บางตัว
  • รหัสหุ้น 300xxx นักลงทุนรายย่อยต่างชาติไม่สามารถลงทุนได้เลย
  • รหัสหุ้น 600xxx - 605xxx นักลงทุนรายย่อยต่างชาติไม่สามารถลงทุนได้บางตัว
  • รหัสหุ้น 688xxx นักลงทุนรายย่อยต่างชาติไม่สามารถลงทุนได้เลย
  • รหัสหุ้น 900xxx นักลงทุนรายย่อยต่างชาติไม่สามารถลงทุนได้เลย

ข้อมูลนี้จะช่วยบอกเราได้คร่าวๆ ว่าหุ้น A-Share รหัสใดบ้างที่นักลงทุนรายย่อยต่างชาติ ซึ่งรวมถึงกองทุนส่วนบุคคลแบบนโยบาย Jitta Ranking ไม่สามารถลงทุนได้

หุ้น B-Share

หุ้นจีนประเภท B-Share คือ หุ้นที่ออกโดยบริษัทสัญชาติจีนที่จัดตั้งขึ้นในจีน จดทะเบียนซื้อขายใน ตลาดหุ้นทั้ง 2 แห่งของจีน และเปิดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนได้ด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และเงินดอลลาร์ฮ่องกงในตลาดหุ้นเซินเจิ้น

นอกจากนี้ หุ้น B-Share จะเปิดให้นักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนชาวจีนที่มีบัญชีสกุลเงินต่าง ประเทศสามารถลงทุนได้ ซึ่งก็มีบริษัทจดทะเบียนยักษ์ใหญ่ของจีนมากมายที่ถูกจัดอยู่ในประเภทนี้

หุ้น H-Share

หุ้นจีนประเภท H-Share คือ หุ้นที่ออกโดยบริษัทจีนที่จัดตั้งขึ้นในจีน จดทะเบียนซื้อขายในตลาด หุ้นทั้ง 2 แห่งในจีน แต่สามารถซื้อขายได้ผ่านตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นต่างประเทศอื่นๆ หุ้นประเภท H-Share จะซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์ฮ่องกงเท่านั้น

H-Share เป็นหุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง และเป็นหุ้นประเภทที่นักลงทุนต่างชาติ สามารถลงทุนได้ทั่วไป โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ ในการซื้อขาย

หุ้น N-Share

หุ้นจีนประเภท N-Share คือ หุ้นที่ออกโดยบริษัทที่จัดตั้งขึ้นนอกประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ (Mainland China) และจดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นตลาดหุ้นสหรัฐฯ เช่น ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) และ NASDAQ

ดังนั้น หุ้น N-Share ที่จะทำการซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และถึงแม้ว่าบริษัทเหล่านี้ จะถูกจัดตั้งขึ้นนอกจีนแผ่นดินใหญ่ แต่บริษัทที่ต้องการจดทะเบียนซื้อขายหุ้นประเภท N-Share จะต้องมีรายได้ส่วนใหญ่จากประเทศจีน ตัวอย่างบริษัทหุ้น N-Share ที่โด่งดังก็เช่น Alibaba Group และ Baidu

หุ้น Red Chip

หุ้นประเภท Red Chip คือหุ้นที่ออกโดยบริษัทที่จัดตั้งขึ้นนอกจีนแผ่นดินใหญ่ และจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งบริษัทที่เสนอขายหุ้นประเภท Red Chip ส่วนใหญ่มักจะถูกจัดตั้งขึ้นในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และถือหุ้นบางส่วนโดยรัฐบาลจีน แต่ดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่อยู่นอกประเทศจีน

หุ้น Red Chip สามารถซื้อขายได้ด้วยเงินดอลลาร์ฮ่องกง และนักลงทุนต่างชาติสามารถ ลงทุนได้อย่างเต็มที่ ตัวอย่างบริษัทที่เสนอขายหุ้นประเภท Red Chip ที่เราน่าจะรู้จักดีก็เช่น Lenovo ที่รัฐบาลจีนเป็นถือหุ้นบางส่วนและบริษัทถูกจัดตั้งขึ้นในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง

หุ้น P Chip

หุ้นประเภท P Chip คือ หุ้นที่ออกโดยบริษัทที่จัดตั้งขึ้นนอกจีนแผ่นดินใหญ่ และจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง แต่จะแตกต่างจากหุ้นประเภท Red Chip ตรงที่หุ้น P Chip จะไม่มีหน่วยงานจากรัฐบาลจีนถือหุ้นอยู่

หุ้น P Chip สามารถซื้อขายได้ด้วยเงินดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งทำให้นักลงทุนต่างชาติสามารถลงทุน ได้อย่างสะดวกสบาย

หุ้น S Chip

หุ้นประเภท S Chip คือ หุ้นที่ออกโดยบริษัทที่จัดตั้งขึ้นนอกจีนแผ่นดินใหญ่ แต่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ และจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ โดยมีรายได้หรือทรัพย์สินอยู่ในประเทศจีนเกินกว่า 55% ของทั้งหมด

หุ้น S Chip สามารถซื้อขายได้ด้วยเงินดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งทำให้นักลงทุนต่างชาติสามารถลงทุน ได้อย่างสะดวกสบาย

 

หุ้น DRs (Depositary Receipt)

หุ้นประเภท DRs คือ ตราสารแสดงสิทธิในหน่วยลงทุนของกองทุนหรือหุ้นสามัญที่บริษัทจีน นำออกจำหน่ายเพื่อให้นักลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศลงทุนได้สะดวกสบายมากขึ้น

หุ้น DRs ที่พบและได้ยินบ่อยมากที่สุดคือ ADRs (American Depository Receipts) และ GDRs (Global Depository Receipts) โดยบริษัทจีนสามารถออกหุ้น ADRs ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และ GDRs ในตลาดหุ้นต่างประเทศอื่นๆ

หุ้น DRs ยังรวมไปถึงบริษัทต่างประเทศที่ต้องการกระจายการถือหุ้น ในบางกรณีสามารถทำได้ โดยการออก CDRs (Chinese Depositary Receipts) ระบบนี้ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างแรงจูงใจ ให้บริษัทจีนที่ต่างประเทศกลับมาระดมทุนในตลาดหุ้นจีนเป็นหลัก

ทั้งหมดนี้คือสรุปประเภทหุ้นจีนทั้งหมดที่เราควรรู้จักก่อนเริ่มลงทุน หากเราเข้าใจรายละเอียด ของหุ้นจีนแต่ละประเภทแล้ว ก็จะช่วยให้เราแยกแยะประเภทหุ้นของแต่ละกองทุนออกจากกันได้ ซึ่งก็หมายถึงกลุ่มหุ้นทั้งหมดที่กองทุนนั้นๆ จะเลือกมาลงทุนด้วยนั่นเอง 

การลงทุนใน ‘หุ้นจีน’ กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสใน ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Market) ที่รวบรวมบริษัทที่น่าลงทุนเอาไว้มากมาย เมื่อเรารู้จักประเภทของหุ้นจีนกันแล้ว การจะออกไปลงทุนก็จะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายขึ้น แต่หากนักลงทุนคนไหนที่อยากศึกษาเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ที่ https://jitta.co/3hzgEYA  ที่ได้รวบรวมเนื้อหาดีๆ สำหรับนักลงทุน และช่วย เปิดประตูสู่การลงทุนหุ้นโลกรวมถึงหุ้นไทย ให้การลงทุนเป็นเรื่องง่าย เพราะเราเชื่อว่า การลงทุนอย่างมีความรู้จะช่วยสร้าง ความมั่นใจให้นักลงทุนให้ลงทุนได้อย่างสบายใจมากขึ้น

สุดท้ายเราหวังว่าบทความนี้จะช่วยไขความกระจ่าง และทำให้เราได้รู้จักหุ้นจีนมากขึ้น หนึ่งในตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดที่เต็มไปด้วยโอกาส…ที่เราไม่ควรมองข้าม

 

ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์

ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. จิตตะ เวลธ์ จำกัด

advertisement

SPOTLIGHT