การใช้งานของระบบ 'พร้อมเพย์' หรือ PromptPay เปิดตัวใช้งานเป็นครั้งแรกในปี 2560 จนถึงตอนนี้เชื่อว่าหลายคนๆ น่าจะได้ใช้งานบริการนี้อยู่แล้วในการจ่ายเงิน-โอน เงินที่ทำได้แบบง่ายและยังสะดวกอีกด้วย ด้วยการผูกข้อมูลส่วนตัวอย่างเบอร์โทรศัพท์มือถือหรือเลขบัตรประจำตัวประชาชนเข้าผูกเพื่อใช้งาน ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นที่นิยมของคนไทยอย่างมากดูได้จากยอดจำนวนคนที่ลงทะเบียนเข้ามาใช้งานกับจำนวนของตัวเลขการจ่ายโอนเงินถือว่าเติบโตดีแบบก้าวกระโดด
โดย 'ผยง ศรีวณิช' ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (NITMX) ได้ให้ข้อมูลในงานแถลงข่าว “Digital Verse Financial Connectivity ก้าวสู่โลกใหม่ เชื่อมเทคโนโลยีไทยเชื่อมโลก” ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 18 “บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด” ว่า NITMX เป็นผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและมาตรฐานระบบการชำระเงินที่สำคัญของไทย โดยเฉพาะระบบพร้อมเพย์ (PromptPay) ทำให้การชำระเงินและโอนเงินสะดวกรวดเร็วขึ้น ถึงมือผู้รับโดยตรง โปร่งใส และไม่มีค่าธรรมเนียม มีข้อมูลดังนี้
- ล่าสุด ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 มีจำนวนผู้ลงทะเบียน PromptPay อยู่ที่ 70 ล้านหมายเลข เพิ่มขึ้น 22.1% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
- มียอดการโอนเงินเฉลี่ย 38.7 ล้านรายการต่อวัน เพิ่มขึ้น 59.3% มูลค่ารวม 1.21 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ช่วยผลักดัน Digital Payment ของประเทศให้เติบโตต่อเนื่อง
- ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประชาชนหันมาใช้จ่ายผ่านดิจิทัลแทนเงินสดมากขึ้น ปี 2564 มีธุรกรรมชำระเงินระหว่างธนาคารมีจำนวนมากกว่า 10,000 ล้านรายการ และมีเงินหมุนเวียนผ่านระบบ ITMX มูลค่ารวม 39 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.4 เท่าของ GDP ของประเทศไทย
- มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปี 2565 จากช่วง เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 มีธุรกรรมชำระเงินระหว่างธนาคารกว่า 6,000 ล้านรายการ มูลค่ากว่า 23 ล้านล้านบาท
- ภายในสิ้นปีนี้ NITMX มีแผนจะเพิ่มศักยภาพระบบให้สามารถรองรับการทำธุรกรรมได้สูงสุด 10,000 รายการต่อวินาที จากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 อยู่ที่ 6,000 รายการต่อวินาที เพิ่มขึ้นกว่า 40 เท่าจากปี 2560 ซึ่งเป็นปีแรกที่เริ่มเปิดใช้ระบบพร้อมเพย์ ขณะที่จำนวนธุรกรรมสูงสุดในปัจจุบันอยู่ที่ 2,900 รายการต่อวินาที
รู้จักที่มาของพร้อมเพย์
"พร้อมเพย์" โครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินและโอนเงินแบบทันที (real-time) ที่ใช้หมายเลขอ้างอิงอื่นแทนเลขที่บัญชีธนาคารที่จดจำยาก เช่น หมายเลขโทรศัพท์มือถือ เลขประจำตัวประชาชน เลขทะเบียนนิติบุคคล และ e-Wallet ID ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มกลางเชื่อมโยงระหว่างผู้ให้บริการชำระเงินที่หลากหลาย ทำให้การชำระเงินและโอนเงินสะดวกรวดเร็วขึ้น มีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ต่ำลง เปรียบได้กับการสร้างถนนขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน รองรับรถได้หลายประเภท
ทำให้สามารถเข้าถึงท้องที่ต่าง ๆ ได้ทั่วถึงมากขึ้น สนับสนุนให้ประชาชนและธุรกิจเข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น ภาครัฐใช้เป็นเครื่องมือในการรับ - จ่ายเงินได้อย่างคล่องตัว ถึงมือผู้รับโดยตรง ถูกต้อง และโปร่งใส รวมถึงผู้ให้บริการสามารถขยายฐานลูกค้า ให้บริการตรงกลุ่มเป้าหมาย มีการพัฒนานวัตกรรมและศักยภาพการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง
โดย 'พร้อมเพย์' เกิดจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการเงิน และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการขับเคลื่อนโครงการ National e-Payment ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์หรือระบบพร้อมเพย์ที่เอื้อให้การโอนเงินและชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำได้ "ถูก ง่าย สะดวก และปลอดภัย" ได้มาตรฐานสอดรับกับเทคโนโลยีสมัยใหม่