ข่าวเศรษฐกิจ

ธอส.จ่อขึ้นดอกเบี้ยบ้านหลัง ต.ค. ปีนี้ขึ้น 1 ครั้ง ที่เหลือลุ้นปีหน้า

24 มิ.ย. 65
ธอส.จ่อขึ้นดอกเบี้ยบ้านหลัง ต.ค. ปีนี้ขึ้น 1 ครั้ง ที่เหลือลุ้นปีหน้า
ไฮไลท์ Highlight
  หากเป็นเช่นนั้น (ธปท.ขึ้นดอกเบี้ย) จะทำให้ ธอส.สามารถตรึงดอกเบี้ยได้จนถึงเดือนตุลาคมเท่านั้น จากนั้นก็จะปรับขึ้นดอกเบี้ย "ครั้งแรกและครั้งเดียวของปีนี้" ที่เฉลี่ย 0.125%-0.150% ต่อปี จากนั้นจะพิจารณาทยอยปรับขึ้นต่อในไตรมาสแรกปีหน้า  

ธอส.รับ ตรึงดอกเบี้ยได้ถึงแค่เดือน ต.ค. หากแบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ย คาดปีนี้ขึ้นดอกเบี้ยบ้าน 1 ครั้ง เฉลี่ย 0.125%-0.150% ต่อปี ที่เหลือทยอยขึ้นต่อตั้งแต่ไตรมาส 1 ปีหน้า


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า บอร์ด ธอส.ได้ประชุมวางแผนทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเบื้องต้นประเมินว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่เหลืออีก 3 ครั้งในปีนี้ น่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ขณะที่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 66 อีกอย่างน้อย 0.50% ต่อปี ทำให้คาดว่าในช่วง 2 ปีนี้ จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายประมาณ 1%

  
หากเป็นเช่นนั้น (ธปท.ขึ้นดอกเบี้ย) จะทำให้ ธอส.สามารถตรึงดอกเบี้ยได้จนถึงเดือนตุลาคมเท่านั้น จากนั้นก็จะปรับขึ้นดอกเบี้ย "ครั้งแรกและครั้งเดียวของปีนี้" ที่เฉลี่ย 0.125%-0.150% ต่อปี จากนั้นจะพิจารณาทยอยปรับขึ้นต่อในไตรมาสแรกปีหน้า 
 

“ในการประชุม กนง. รอบเดือน ส.ค. 65 หากมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ธนาคารก็ตรึงไว้ถึงเดือน ต.ค. โดยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก และครั้งเดียวของปีนี้ ที่เฉลี่ย 0.125%-0.150% ต่อปี ส่วนที่เหลือ คาดว่าธนาคารจะทยอยปรับขึ้นในช่วงไตรมาส 1/66” นายฉัตรชัย กล่าว


ส่วนความกังวลถึงผลกระทบในการผ่อนชำระนั้น เชื่อว่าในช่วงแรก ลูกค้า ธอส.จะยังไม่ได้รับผลกระทบในทันที หากเงินงวดที่ผ่อนยังเพียงพอต่อการตัดเงินต้นกับดอกเบี้ยได้ แต่ยอมรับว่าอาจกระทบในเรื่องของระยะเวลาการผ่อนชำระ เช่น จากเดิมผ่อน 18 ปี เป็น 20 ปี เป็นต้น


แต่ในกรณีที่อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจนกระชั้นมาก ๆ เงินงวดไม่พอที่จะนำไปหักเงินต้น ก็จะต้องมีการขึ้นเงินงวด หรือจ่ายภายใต้เงินงวดเท่าเดิม แต่ตัดเงินต้นน้อยกว่าเดิม ซึ่งแนวทางนี้จะทำให้ต้องขยายเงินงวดออกไปเป็นระยะยาวมากขึ้น

istock-1019219898


กรรมการผู้จัดการ ธอส. มองว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้ จะส่งผลกระทบกับลูกค้าในกลุ่มเปราะบางที่ต้องการกู้บ้าน แต่ฐานเงินเดือนไม่สูงมากเป็นหลัก เช่น เงินเดือน 20,000 บาท ต้องการกู้ซื้อบ้านราคา 3,000,000 บาท ธนาคารอาจจะต้องลดวงเงินกู้ ส่งผลทำให้กลุ่มเปราะบางดังกล่าวซื้อบ้านที่ต้องการยากขึ้น


นายฉัตรชัย ยอมรับว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ กนง. ส่งผลกระทบทำให้ต้นทุนของ ธอส. เพิ่มขึ้น เพราะต้องขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากทันที ส่วนฝั่งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นั้น อยู่ที่แต่ละธนาคารจะพิจารณาบริหารต้นทุนอย่างไร

ซึ่งในปีนี้ก็ยังมีเวลาเหลืออีก 5 เดือน แต่จากการประมาณการคาดว่าการตรึงดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือและลดภาระให้ประชาชน จะทำให้ ธอส. มีต้นทุนในปีนี้เพิ่มขึ้น ประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนปี 66 คาดว่าจะกระทบประมาณ 1,300 ล้านบาท


ขณะที่ตัวเลขหนี้เสีย หรือ NPL ล่าสุดอยู่ที่ 4% คาดว่าภายในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีก 5,000 ล้านบาท หรือ 0.2% ซึ่ง ธอส.ได้มีการสำรองหนี้เสียไว้แล้วทั้ง 100% ทำให้ไม่กระทบต่อฐานะการเงิน

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT